ชี้มติบอร์ด 2/2562 มิชอบด้วย ก.ม. “อรรถพล” มอบ “วิมล” มีสภาพร้ายแรง
เมื่อวันที่ 30 ก.ค. นายประเสริฐ บุญเรือง รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ตามที่นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการศธ. ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ซึ่งยื่นสมัครรับการสรรหาเป็นเลขาธิการ สกสค. ได้ยื่นร้องศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้คุ้มครองฉุกเฉินและเพิกถอนมติที่ประชุมคณะกรรมการ สกสค.ครั้งที่ 5/2562 วันที่ 28 พ.ค.2562 และคำสั่งแต่งตั้งเลขาธิการ สกสค.ที่ 2/2562 วันที่ 28 พ.ค.2562 เนื่องจากเห็นว่ากระบวนการไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น ล่าสุดศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษากรณีดังกล่าวดังนี้ 1.กรณีที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และรักษาการแทน รมว.ศธ.มอบอำนาจให้นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัด ศธ.ทำหน้าที่แทนเรียกประชุมและประชุมคณะกรรมการ สกสค.เพื่อคัดเลือกเลขาธิการ สกสค. ถือว่าดำเนินการชอบด้วยกฎหมาย 2.กรณีที่ปลัด ศธ.มอบอำนาจให้ตนทำหน้าที่ในฐานะกรรมการ สกสค.โดยตำแหน่งแทนองค์คณะเป็นการดำเนินการที่ชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน
รองปลัด ศธ. กล่าวอีกว่า 3.กรณีที่นายอรรถพล ระบุว่าตนและนายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) มีสภาพร้ายแรงไม่สามารถลงคะแนนให้บุคคลใดได้ เนื่องจากนายอรรถพลเป็นประธานคณะกรรมการสืบสวนการทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ซึ่งอ้างว่าตนเกี่ยวข้องด้วย และกรณีการจัดซื้อครุภัณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่อ้างว่านายบุญรักษ์เกี่ยวข้องด้วย ศาลเห็นว่านายอรรถพลไม่ได้มีหน้าที่ลงโทษและตัดสิน ที่สำคัญผู้มีอำนาจได้ยุติ 2 เรื่องดังกล่าวไปแล้ว จึงเห็นว่าการที่ตนและนายบุญรักษ์ร่วมลงมติจึงชอบด้วยกฎหมาย 4.กรณีที่นายอรรถพลได้รับคำสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค. และยังเข้ารับการสรรหาเป็นเลขาธิการ สกสค.ด้วย ทั้งยังมอบอำนาจในฐานะเลขาธิการ สกสค.ให้นายวิมล จำนงบุตร รองเลขาธิการ สกสค. ซึ่งเป็นตำแหน่งที่นายอรรถพลแต่งตั้งมาให้ทำหน้าที่แทนนั้น ศาลเห็นว่ากรณีนี้ถือเป็นสภาพร้ายแรง เนื่องจากเห็นว่าถ้าให้นายวิมลเข้าไปทำหน้าที่แทนก็ต้องเลือกนายอรรถพล จึงถือเป็นสภาพร้ายแรง มติคณะกรรมการ สกสค.ครั้งที่ 5/2562 จึงมิชอบด้วยกฎหมาย 5.กรณีประกาศให้นายณรงค์ แผ้วพลสง ผู้ตรวจราชการ ศธ.เข้ารับการสัมภาษณ์เพื่อเป็นเลขาธิการ สกสค.นั้น ศาลเห็นว่านายณรงค์ไม่ได้แนบเอกสารวุฒิการศึกษาจึงไม่มีสิทธิ์เข้ารับการสัมภาษณ์ 6.เมื่อนายณรงค์ ขาดคุณสมบัติ ประกอบกับมติคณะกรรมการ สกสค.ครั้งที่ 5/2562 ก็มิชอบด้วยกฎหมาย คำสั่งแต่งตั้งเลขาธิการคณะกรรมการ สกสค.ที่ 2/2562 จึงมิชอบด้วยกฎหมาย จึงเห็นชอบให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะดำเนินการอย่างไร ขึ้นอยู่กับนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศธ. จะพิจารณา
ด้านนายอรรถพลกล่าวว่า ตนขอศึกษารายละเอียดก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป จะฟ้องร้องศาลอาญาทุจริตกับผู้ที่เกี่ยวข้องตามที่เคยพูดไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่ต้องดูรายละเอียดก่อน.
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก ไทยรัฐออนไลน์ วันที่ 31 ก.ค. 2562
"อรรถพล" ลั่นยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครอง
"อรรถพล" ลั่นยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครอง ข้องใจมีหลายประเด็น-เผยมีคลิปเด็ดแฉ "การุณ" มั่นใจทำตามกฏหมาย
ตามที่ศาลปกครองกลางได้เพิกถอนมติ และเพิกถอนคำสั่งแต่งตั้งนายณรงค์ แผ้วพลสง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) นั้น เมื่อวันที่ 31 ก.ค. นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการ (ศธ.) ปฎิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค. กล่าวว่า ตนในฐานะผู้ฟ้อง เมื่อศาลมีคำสั่งดังกล่าวออกมาก็รู้สึกพอใจ และหลังจากนี้ผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นเลขาธิการ สกสค.ก็จะเหลือตนเพียงคนเดียว เพราะนายณรงค์ ถือว่าขาดคุณสมบัติตามทึ่ศาลท่านได้วินิจฉัยและมีคำสั่งไปแล้ว ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่านายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศธ.จะดำเนินการกับเรื่องนี้อย่างไรต่อไป แต่ที่แน่ๆ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และรักษาการ รมว.ศธ.ได้เคยมีการเกษียณหนังสือเอาไว้ให้ดำเนินการเรื่องนี้ต่อหลังจากที่ได้ข้อยุติ ซึ่งข้อยุติในทึ่นี้ก็คือต้องดูว่าหลังจากศาลปกครองกลางมีคำตัดสินออกมาแล้วภายใน 30 วันจะมีผู้ฟ้องและผู้ถูกฟ้องยื่นอุทธรณ์คำสั่งหรือไม่ ซึ่งในส่วนของตนซึ่งเป็นผู้ฟ้องเห็นว่ามีหลายประเด็นที่ยื่นฟ้องไปแต่ไม่ได้ถูกหยิบยกมาประกอบการพิจารณาดังนั้นจึงจะมีการยื่นอุทธรณ์คำสั่งในบางประเด็น
"สำหรับประเด็นที่ผมจะยื่นอุทธรณ์ เช่น เรื่องการมอบอำนาจจากนายสมคิดให้ปลัด ศธ.ดำเนินการ ซึ่งผมยังมีความเชื่อว่ามีการดำเนินการที่มิชอบด้วยกฏหมาย ควรให้ศาลปกครองสูงสุดได้ชี้ขาด รวมไปถึงประเด็นที่นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัด ศธ.อ้างว่าได้รับมอบอำนาจจากนายสมคิด แล้วนายการุณมอบอำนาจต่อให้นายประเสริฐ บุญเรือง รองปลัด ศธ. ซึ่งศาลเห็นว่าเป็นการมอบอำนาจโดยตำแหน่งสามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้ผมก็เห็นว่าการที่ผมมอบอำนาจให้นายวิมล จำนงค์บุตร รองเลขาธิการ สกสค.ทำหน้าที่แทนในตำแหน่งเลขาธิการ สกสค.ก็ถือเป็นการมอบอำนาจโดยตำแหน่งเช่นกัน ที่สำคัญประเด็นการขาดคุณสมบัติของนายณรงค์ ได้มีการทักท้วงกันในที่ประชุมแต่นายการุณกลับไม่ยอมฟังคำทักท้วง ผมมองว่าประเด็นนี้นายการุณจงใจชัดเจนที่จะท้าทายการกระทำผิดกฏหมาย เรื่องนี้มีการบันทึกการประชุมไว้อย่างชัดเจน ดังนั้นจึงถือเป็นประเด็นที่จะต้องนำมาอุทธรณ์ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการประมวลข้อมูล คาดว่าจะยื่นอุทธรณ์ได้ในเร็ว ๆ นี้" ปฎิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค. กล่าว
นายอรรถพล กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการฟ้องร้องศาลอาญาทุจริตกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้นั้น ยืนยันว่าตนจะยื่นฟ้องร้องแน่นอน เพราะมีหลายเรื่องที่อยู่นอกเหนือสำนวนการฟ้องร้องศาลปกครองในครั้งนี้ เนื่องจากตนเห็นว่าบุคคลที่ตนจะยื่นฟ้องมีเจตนาพิเศษที่เป็นหลักฐานชัดเจนที่เข้าข่ายมีการกระทำความผิด โดยตนมีหลักฐานเด็ดทั้งคลิปเสียง และไฟต์ภาพที่มีการบีบบังคับขู่เข็ญให้กรรมการ สกสค.บางคนเลือกนายณรงค์ นอกจากนี้ยังให้ทีมกฏหมายประมวลหลักฐานอื่นๆที่มีอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งตนยังไม่อยากเปิดเผยขอเอาไปใช้ในชั้นศาล
ด้านนายการุณ กล่าวว่า หากนายอรรถพลจะยื่นอุทธรณ์เรื่องนี้ ก็ถือเป็นสิทธิ์ของผู้ฟ้องที่สามารถกระทำได้ แต่เท่าที่ดูคำสั่งของศาลก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าสิ่งที่ตนได้กระทำไปนั้น ได้มีการดำเนินการถูกต้องตามกฏหมาย.
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก เดลินิวส์ วันพุธที่ 31 กรกฎาคม 2562