ดร.วัฒนาพร ระงับทุกข์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า คุรุสภาประกาศคัดเลือกรางวัลครูผู้สอนดีเด่น ประจำปี 2562 จำนวน 11 ประเภท ดังนี้ 1) กลุ่มสาระการเรียนรู้ปฐมวัยดีเด่น 2) กลุ่มสาระการเรียนรู้ประถมศึกษาดีเด่น 3) กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ดีเด่น 4) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ดีเด่น 5) กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมดีเด่น 6) กลุ่มสาระ การเรียนรู้สุขศึกษา และพลศึกษาดีเด่น 7) กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะดีเด่น 8) กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีดีเด่น 9) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศดีเด่น (ภาษาอังกฤษ) 10) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยดีเด่น และ 11) ครูผู้สอนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนดีเด่น มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม ยกย่องเชิดชูเกียรติครูผู้สอนดีเด่นให้แป็นแบบอย่าง กระตุ้นให้เกิดการสร้างนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ และสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน แบ่งเป็น 2 ระดับได้แก่ “ระดับดีเด่น” และ “ระดับดี” รวมไม่เกิน 22 รางวัล ผู้ได้รับรางวัลระดับดีเด่นจะได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณ เข็มเชิดชูเกียรติ เกียรติบัตร กำหนดมอบรางวัลในงานวันครู พ.ศ. 2563
ผู้มีสิทธิรับรางวัลจะต้องมีคุณสมบัติและหลักเกณฑ์ตามที่คุรุสภากำหนด อาทิ เป็นผู้มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาที่จัดการศึกษาปฐมวัย หรือขั้นพื้นฐาน และระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ทั้งภาครัฐและเอกชน อย่างต่อเนื่องรวมระยะเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี และต้องมีประสบการณ์ในการจัดการเรียนรู้ในแต่ละประเภทที่เสนอผลงาน ไม่น้อยกว่า 2 ปี นับถึงวันออกประกาศฯ เป็นผู้ปฏิบัติงานและปฏิบัติตนตามมาตรฐานและจรรยาบรรณของวิชาชีพ ไม่อยู่ในระหว่างการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัย ถูกดำเนินการทางวินัย หรือเป็นผู้เคยถูกลงโทษทางวินัย ไม่เคยหรือเคยได้รับรางวัลครูผู้สอนดีเด่นในกลุ่มสาระเดิมที่เสนอขอมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 3 ปี เป็นต้น โดยมีหลักเกณฑ์การพิจารณา จำนวน 2 ด้าน คือ ด้านการจัดการเรียนรู้ และด้านนวัตกรรม
การขอรับรางวัล มี 2 วิธี ได้แก่ ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาเสนอผลงานด้วยตนเอง (ต้องไม่ให้บุคคลอื่น หรือองค์กร หน่วยทางการศึกษา สถานศึกษา สมาคม มูลนิธิ ชมรม เสนอผลงานซ้ำอีก และผู้บังคับบัญชาชั้นต้นลงนามรับรองการเสนอได้มากกว่าหนึ่งคน ตามจำนวนที่เสนอขอได้) และได้รับการเสนอชื่อจากบุคคลอื่น หรือองค์กร หน่วยทางการศึกษา สถานศึกษา สมาคม มูลนิธิ ชมรม โดยเสนอผลงานให้ผู้บริหารสถานศึกษาลงนามรับรอง ทั้งนี้ สามารถส่งผลงานเข้ารับการคัดเลือกได้คนละ 1 ประเภท ต่อกลุ่มสาระการเรียนรู้
การเสนอผลงาน ให้ผู้มีสิทธิเสนอผลงาน หรือเสนอชื่อ กรอกข้อมูลและรายงานผลงานตามแบบรายงานประวัติและผลงานให้ครบทุกข้อ โดยจัดทำจำนวน 1 เล่ม ใช้กระดาษขนาด A4 จำนวนไม่เกิน 30 หน้า (ไม่รวมปก/คำนำ/สารบัญ) พิมพ์ด้วยอักษรแบบ TH Sarabun PSK ขนาดตัวอักษร 16 pt พร้อมทั้งบันทึกข้อมูลเป็นไฟล์ PDF ลงแผ่น CD DVD หรือ Flash Drive หากเกินจำนวนหน้าที่กำหนด ไม่เข้าเล่มให้เรียบร้อย และไม่ส่งไฟล์ผลงาน จะไม่ได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการ และขอสงวนสิทธ์ไม่ส่งผลงานคืน
การส่งผลงานและการดำเนินการคัดเลือก ผู้มีสิทธิเสนอผลงานหรือเสนอชื่อ จะต้องยื่นเสนอผลงานภายในกำหนดของหน่วยงานต้นสังกัด แบ่งออกเป็น
ระดับเขตพื้นที่การศึกษา/ท้องถิ่นจังหวัด ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
ในส่วนภูมิภาคทุกเขต สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาทุกเขต สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัด และ สป.กทม. แต่งตั้งกรรมการคัดเลือก จำนวนไม่น้อยกว่า 5 คน โดยดำเนินการคัดเลือกครูผู้สอนดีเด่นตามคุณสมบัติและจำนวนที่กำหนดในประเทศ ทั้งนี้ ให้ส่งแบบรายงานประวัติและผลงานไปยังสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเพื่อพิจารณาคัดเลือก ภายในวันที่ 30 สิงหาคม 2562
ทั้งนี้ ให้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดพิจารณาคัดเลือกผู้ประกอบวิชาชีพครู จากผลงานที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (ภายในจังหวัด) และสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัด คัดเลือกให้เหลือประเภทละ 1 คน ให้หน่วยงานต้นสังกัด แต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือก จำนวนไม่น้อยกว่า 5 คน ดำเนินการคัดเลือกครูผู้สอนดีเด่นตามคุณสมบัติและจำนวนที่กำหนดในประกาศ และให้ส่งแบบรายงานประวัติและผลงานของผู้ได้รับการคัดเลือกมายังสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ภายในวันที่ 30 กันยายน 2562
โดยจะประกาศรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือก ณ หน่วยคัดเลือก เพื่อรับฟังคำคัดค้าน คุรุสภาจะประกาศผลภายในเดือนธันวาคม 2562 คำวินิจฉัยของคุรุสภาถือเป็นที่สุด
ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์คุรุสภา www.ksp.or.th
ดาวน์โหลดเอกสาร ที่นี่