ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ทำไม..ต้องมี..โรงเรียนพ่อแม่ลูก...เรื่องง่ายๆแต่ทำกันไม่เป็น....


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,155 ครั้ง
Advertisement

ทำไม..ต้องมี..โรงเรียนพ่อแม่ลูก...เรื่องง่ายๆแต่ทำกันไม่เป็น....

Advertisement

❝ เป็นเรื่องที่พ่อแม่และลูก....จะต้องเรียนรู้.... ❞


เมื่อคนเราต้องก้าวข้ามฐานะที่เคยอยู่คู่กับคู่ชีวิตมาเป็น “พ่อแม่” ของ “ลูก” เราต่างก็อดที่จะอาศัยประสบการณ์เดิม ๆ ที่เราเคยเป็นลูก มาเป็นเข็มทิศนำทาง หรือพาหนะเดินทางเพื่อเลี้ยงดูลูกของเรา ไม่ว่า ประสบการณ์นั้นจะเป็นประสบการณ์ที่สุขหรือทุกข์ สำเร็จหรือล้มเหลว และที่สำคัญเป็นประสบการณ์ที่เหมาะสม หรือสมควรกับเรา ลูกของเราหรือไม่อย่างไร ด้วยว่าสภาวะและสถานการณ์ในวันนี้ของเรากับลูกย่อมแตกต่างจากวันเวลาที่เราเคยเป็นลูกและได้รับประสบการณ์ต่าง ๆ นั้นมาอย่างชัดเจน

และหากประสบการณ์รวมทั้งวิธีการที่เราเคยมีแล้วใช้การไม่ได้ เข็มทิศนั้นทำให้เราหลงทาง พาหนะนั้นกับเครื่องร่วน จนเราอาจจะอ่อนใจ อ่อนแรง เมื่อลูกไม่เป็นดังใจ และเราไม่เป็นพ่อแม่ได้ดีเท่าที่เราคิด  เมื่อนั้น เราก็อดไม่ได้อีกที่จะฝากผีฝากไข้ไว้กับ ครูที่โรงเรียนบ้าง หรือคุณปู่คุณย่าคุณป้าคุณอาบ้าง เพื่อนบ้านบ้าง หรือแม้แต่รัฐบาล แล้วแต่อาการไข้ อาการทางใจในฐานะที่เป็นพ่อแม่นั้น เป็นอย่างไร รุนแรงมากน้อยแค่ไหน หากอาการรุนแรงก็ทำให้เราบ่อยครั้งรู้สึกว่า เราไม่มีกำลังหรือวิธีการที่จะดูแล “เขาหรือเธอ ลูก ๆ ของเรา” เอาเลย


“โรงเรียนพ่อแม่ลูก” เป็นอีกความพยายามหนึ่งของคนที่เป็นพ่อเป็นแม่ เป็นนักการศึกษา นักคิดนักปฏิบัติที่จะสรรหากิจกรรมการเรียนรู้ที่จะช่วยให้พ่อแม่ได้ปรับเข็มทิศ หรือเช็คพาหนะของตน ได้ทบทวนและใคร่ครวญประสบการณ์ และสร้างสรรค์ทางเลือกให้กับพ่อแม่ที่จะได้ดูแลลูก ๆ ด้วยกำลังของตน และพึ่งพาคำตอบหรือระบบจากภายนอกให้น้อยลง หรือเท่าที่จำเป็นเท่านั้น 

“โรงเรียนพ่อแม่ลูก” เป็นมาอย่างไร?

โรงเรียนพ่อแม่ลูกเป็นกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกัน ซึ่งเกิดจากการค้นคว้าทดลองของนักคิด นักเขียนปฏิบัติทางการศึกษา อาจารย์วิศิษฐ์ วังวิญญู ผู้ยังใช้ชีวิตเป็นพ่อทางเลือก ผู้เลือกให้การศึกษากับลูกชายคนเดียวด้วยวิธีโฮมสกูล แทนที่จะส่งเข้าเรียนในกระแสหลักของระบบโรงเรียน เจ้าของผลงานเขียนและแปลทางการศึกษาหลายเล่ม โดยเฉพาะเล่มที่เป็นนิยมอย่างกว้างขวาง เช่น เด็กตามธรรมชาติ การศึกษาเพื่อความเป็นไท และโรงเรียนทำเอง เป็นต้น 

กิจกรรมการเรียนรู้โรงเรียนพ่อแม่นี้อาจารย์วิศิษฐ์ได้เชื้อเชิญ และนำมาแบ่งปันกับผู้สนใจ ในนามของมูลนิธิสังคมวิวัฒน์ ในจังหวัดเชียงราย และได้นำกิจกรรมนี้ไปเผยแพร่ในจังหวัดอื่น ๆ 


จากจังหวัดนครสวรรค์ เมืองที่เป็นบ้านเกิดของอาจารย์วิศิษฐ์ นักเรียนโรงเรียนพ่อแม่ในรุ่นแรก ๆ คือ อังคณา มาศรังสรรค์ หรือ ครูณา คุณแม่ลูกสอง เจ้าของกิจการโรงเรียน SMART & SMILE ในจังหวัดนครสวรรค์ได้ฝึกฝนกระบวนการเรียนรู้โรงเรียนพ่อแม่ ใคร่ครวญ และลองปฏิบัติกับลูกและคนข้างเคียง อีกทั้งยังนำไปแบ่งปันให้กับพ่อแม่ ครูอาจารย์ และผู้ปฏิบัติงานกับเด็กและเยาวชน ทั้งภาครัฐและเอกชน จนสะสมประสบการณ์และความชำนาญในการจัดการเรียนรู้ดังกล่าว

กิจกรรมเรียนรู้ “โรงเรียนพ่อแม่ลูก” ที่ว่านี้เป็นเช่นไร

กิจกรรมการเรียนรู้นี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานความจริงที่ว่า เมื่อคนเราได้หันหน้าเข้าหากัน พูดคุยเสวนากันอย่างลึกซึ้ง เรามิได้เพียงแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และความเห็นของเราในเรื่องที่เรากำลังพูดคุยเท่านั้น แต่เราสามารถพบความรู้ใหม่ ๆ ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาของเรา ซึ่งรวมทั้งได้พบความเป็นไปได้ใหม่ที่เราจะดูแลความสัมพันธ์ของเราที่มีต่อคนอื่นและที่สำคัญกับตัวเราเองควบคู่กันไป โดยเฉพาะความสัมพันธ์ที่เราต้องเผชิญกับความแตกต่างอย่างสุดขั้ว

การหันหน้าเข้าหากัน เพื่อค้นพบความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ในชีวิตในการเรียนรู้ของเราอาจจะกล่าวได้ว่า เป็นพื้นฐานของการเรียนรู้ในกระบวนทัศน์ใหม่ทางวิทยาศาสตร์และการศึกษา ของอนาคต

อะไรเกิดขึ้นเล่า เมื่อเรานำพาให้พ่อแม่หรือลูก ๆ ได้กลับมาหันหน้าเข้าหากัน ได้พูดคุยเรื่องราวของกันและกันในบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ให้ต่างได้ยินเสียงของกันและกัน และที่สำคัญได้ยินเสียงของตัวเอง เมื่อนั้นความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ที่จะนำพาความเข้าใจและความผูกพันอันงดงามย่อมเกิดขึ้น 

ชีวิตความสัมพันธ์เดิมที่เป็นสุขน่าพึงพอใจอยู่แล้ว เราอาจจะได้เห็นโอกาสและความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ที่จะหล่อเลี้ยงความสุขนั้นให้ลึกซึ้งยั่งยืนยิ่งขึ้น ในทางตรงกันข้ามหากความสัมพันธ์ที่มีอยู่อาจจะกระอักกระอวลป่วนใจ เหมือนเดินบนทางอันขรุขระ เราอาจจะพบความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ที่คลี่คลายความคับข้องหมองใจนั้น ๆ หรืออย่างน้อยทำให้เราพบมุมมองใหม่ ๆ ที่จะเข้าใจอาการไม่ราบรื่นดังกล่าว

เราเรียนอะไร หรือเรียนอย่างไรใน “โรงเรียนพ่อแม่ลูก” ?

ผู้เข้าร่วมนั่งหันหน้าเข้าหากันเป็นวง เรานั่งกันอย่างผ่อนคลายบนพื้น หรือบนเก้าอี้ตามอัธยาศัย อย่างเอกเขนกตามสบาย การพูดคุยเสวนากันอย่างผ่อนคลาย (Optimum Learning Stage) เป็นสภาวะที่เกิดการเรียนรู้ระดับสูง

กิจกรรมพื้นฐานที่เรียกได้ว่า ใช้ตลอดการเรียนรู้ร่วมสองวันเป็นเวลาร่วม ๒๐ ชั่วโมง คือการรับฟังอย่างลึกซึ้ง (Deep Listening) การรับฟังอย่างไม่คาดหวัง และเปิดรับ ไม่พิพากษาตัดสิน โดยรับฟังทั้งข้อความสาระ และสาสน์จากใจของผู้พูด และเราก็ใคร่ครวญในเรื่องราวที่เราจะแบ่งปันในสาสน์ที่เราจะมอบให้ผู้อื่นอย่างไม่คาดคั้น

การรับฟังอย่างลึกซึ้งดังกล่าวจะช่วยนำพาให้เราได้เล่าเรื่อง(Story Telling) หรือได้ยินเรื่องราวของเพื่อน ๆ ในวงที่ซื่อตรงและอุดมไปด้วยเกร็ดชีวิตที่เป็นเคล็ดวิชาของพ่อแม่ หรือลูกที่เราได้เรียนรู้จากกันและกัน หรือเรียนรู้ผ่านเรื่องเล่าของกระบวนกรที่ได้ค้นพบวิธีการพูดและฟังอย่างได้ผลกับคนในครอบครัว


เรามิได้เพียงแต่รับฟังกันและกันในวงเสวนา แต่เรานำพาตัวเราเองได้รับฟัง “เสียงภายใน”ของตัวเราเอง (Voice Dialogue) ซึ่งหมายถึงเสียงบางเสียงของเราที่เราอาจจะละทิ้ง หรือละเลยที่จะรับฟัง เป็นเสียงที่นำเราให้เข้าไปเฝ้ามองเฝ้าฟังตัวตนของเราเองที่เราอาจะจะไม่คุ้นเคย แต่เป็นเสียงที่นำเราไปสู่ความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ที่จะรู้จักตัวเองและคนสำคัญรอบข้างที่แตกต่างจากเราอย่างคนละขั้ว

ครูณาและคณะ เป็นผู้นำพากระบวนการเรียนรู้ต่าง ๆ ให้เกิดขึ้น ตามจังหวะจะโคนที่เหมาะสมกับผู้เรียนรู้และสอดคล้องกับวาระของผู้เข้าร่วม สลับกับการบรรยายสั้น ๆ ในเนื้อหาที่เป็นพื้นฐานของการหันหน้าเข้าหากัน เช่น การทำงานของสมองสามชั้น โหมดทั้งสองของการดำรงชีวิต  และทิศทั้งสี่ของการเป็นผู้นำ ซึ่งรวมความถึงการเป็นผู้นำครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิชา "พูดอย่างไรให้ลูกฟัง ฟังอย่างไรให้ลูกพูด" ซึ่งถือว่าเป็นวิชาสำคัญของโรงเรียนพ่อแม่           

“โรงเรียนพ่อแม่ลูก” เพื่อใคร?


ในการจัดการเรียนรู้ “โรงเรียนพ่อแม่” ในกรุงเทพมหานครนี้ ชื่อนี้ได้แต่งเติมให้สมบูรณ์ขึ้นด้วยชื่อใหม่คือ “โรงเรียนพ่อแม่ลูก” เนื่องด้วยการเรียนรู้นี้ นอกจากจะออกแบบมาให้พ่อแม่ได้เรียนรู้ที่จะดูแลลูก ๆแล้ว ก็ยังเหมาะสมสำหรับที่ลูก ๆ จะเรียนรู้ที่จะดูแลรับฟังพ่อแม่ (รวมทั้งคุณย่าคุณยายคุณตาคุณปู่ หรือแม้กระทั่งพ่อแม่สามี) ด้วย ยิ่งไปกว่านั้นและสำคัญอย่างยิ่งให้พ่อแม่ได้เรียนรู้ที่จะดูแลกันและกันในฐานะคู่ชีวิต

นอกจากนั้นการเรียนรู้นี้ก็เหมาะกับนักการศึกษา เช่นครู อาจารย์ผู้ทำงานกับเยาวชนทั้งที่เป็นทางการ และไม่เป็นทางการ นักทำงานกับชุมชน และรวมทั้งผู้ทำงานสื่อมวลชน และสามัญชนที่กำลังแสวงหา ประสบการณ์ เรื่องราวการเรียนรู้ใหม่ ๆ ที่จะเป็นแนวทางให้กับสังคมยุคใหม่ 

“โรงเรียนพ่อแม่ลูก” การหันหน้าเข้าหากันสำหรับวันนี้ เพื่อวันหน้า?

สังคมในอนาคตของที่ฝากความหวังไว้กับคนรุ่นเดิมที่จะเสวนาเชื่อมโยงกับคนรุ่นใหม่ ทั้งในครอบครัวและในชีวิตประจำวัน อีกทั้งความหวังที่จะสามารถค้นพบจุดร่วมท่ามกลางความแตกต่างทั้งความคิด ความรู้สึกและอุดมการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับคนใกล้ชิดและคนสำคัญในชีวิตของกันและกัน

อนาคตที่ดูเหมือนว่า “การหันหน้าเข้าหากัน”อย่างลึกซึ้งและจริงใจ ดูจะเป็นหนทางหนึ่งที่จะเป็นหนทางรอดให้กับครอบครัว และสังคมที่กำลังต้องการเยียวยารักษาผู้คนให้เข้มแข็งเพื่อชีวิตที่ร่มเย็นของสมาชิกทุกคนที่จะมีชีวิตร่วมกัน 


สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

voicedialoguework@gmail.com
 
  บันทึกการเข้า

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 3113 วันที่ 29 เม.ย. 2552

หน้าหนาวแล้ว คุณครูสนใจไหม DoDo เก้าอี้แคมป์ปิ้ง รับน้ำหนักได้เยอะ พร้อมกระเป๋าจัดเก็บ โครงอลูมิเนียมรับน้ำหนักได้200KG ในราคา ฿189 - ฿509 ที่ Shopee

https://s.shopee.co.th/9pNuttuIUm?share_channel_code=6


ทำไม..ต้องมี..โรงเรียนพ่อแม่ลูก...เรื่องง่ายๆแต่ทำกันไม่เป็น....

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

เกาะในฝันของ ?Summer Holiday?

เกาะในฝันของ ?Summer Holiday?


เปิดอ่าน 7,159 ครั้ง
นิทานหรรษา

นิทานหรรษา


เปิดอ่าน 7,174 ครั้ง
คุณ "กำ" อะไรอยู่?????

คุณ "กำ" อะไรอยู่?????


เปิดอ่าน 7,163 ครั้ง
11 สุดยอดอุกกาบาต...ถล่มโลก

11 สุดยอดอุกกาบาต...ถล่มโลก


เปิดอ่าน 7,174 ครั้ง
^๐^วิธีหลีกเลี่ยงรังแค ^๐^

^๐^วิธีหลีกเลี่ยงรังแค ^๐^


เปิดอ่าน 7,163 ครั้ง
เผยแพร่ผลงาน

เผยแพร่ผลงาน


เปิดอ่าน 7,158 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

เว็บบล๊อกนี้...มีสาระดีๆ..24 ชั่วโมง....ตอน..ทายนิสัยจากการเตรียมตัวไปเที่ยว..

เว็บบล๊อกนี้...มีสาระดีๆ..24 ชั่วโมง....ตอน..ทายนิสัยจากการเตรียมตัวไปเที่ยว..

เปิดอ่าน 7,158 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
วิธีดูแลกล้วยไม้ในหน้าฝน
วิธีดูแลกล้วยไม้ในหน้าฝน
เปิดอ่าน 7,167 ☕ คลิกอ่านเลย

แตงโมแช่เย็น คุณค่าทางอาหารลดลง
แตงโมแช่เย็น คุณค่าทางอาหารลดลง
เปิดอ่าน 7,168 ☕ คลิกอ่านเลย

แนะนำตัว
แนะนำตัว
เปิดอ่าน 7,160 ☕ คลิกอ่านเลย

ทำความสะอาดหนัง.....ด้วยนมสด
ทำความสะอาดหนัง.....ด้วยนมสด
เปิดอ่าน 7,179 ☕ คลิกอ่านเลย

ตาม--->>สาวๆ ชุดสีชมพู!!!>> สู่เขตที่มั่นปฏิวัติกู๋จี<<
ตาม--->>สาวๆ ชุดสีชมพู!!!>> สู่เขตที่มั่นปฏิวัติกู๋จี<<
เปิดอ่าน 7,163 ☕ คลิกอ่านเลย

กรรมที่ตามไม่ทัน
กรรมที่ตามไม่ทัน
เปิดอ่าน 7,156 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

คืนผิวหน้าสวยด้วยฟักทอง
คืนผิวหน้าสวยด้วยฟักทอง
เปิดอ่าน 15,324 ครั้ง

1 มิถุนายน วันดื่มนมโลก
1 มิถุนายน วันดื่มนมโลก
เปิดอ่าน 10,921 ครั้ง

ทำไม ห้ามดื่มเหล้าแกล้มทุเรียน ???
ทำไม ห้ามดื่มเหล้าแกล้มทุเรียน ???
เปิดอ่าน 11,962 ครั้ง

ร่าง พรฎ.ปรับเงินเดือนครูฯ
ร่าง พรฎ.ปรับเงินเดือนครูฯ
เปิดอ่าน 36,439 ครั้ง

Adjectives Formation (การทำให้เป็นคำคุณศัพท์ )
Adjectives Formation (การทำให้เป็นคำคุณศัพท์ )
เปิดอ่าน 33,407 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ