นายรัชชัยย์ ศรสุวรรณ นายกสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย ( ส.บ.ม.ท.) เปิดเผยว่าตามที่นายสุเทพ ชิตวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้แจ้งต่อที่ประชุมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2562 ที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาปทุมธานี ว่าจะเสนอต่อผู้มีอำนาจให้ลงนามประกาศตั้งเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาให้ครบทุกจังหวัดนั้น ถือว่าเป็นข่าวดีของทุกๆฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษามัธยมศึกษา เพราะที่ผ่านมา ส.บ.ม.ท.ได้รับแจ้งจากข้าราชการครู ผู้บริหารโรงเรียนและประชาชนผู้เกี่ยวข้องหลายรายซึ่งอยู่ในจังหวัดที่ไม่ใช่ที่ตั้งของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ว่าไม่มีความสะดวกในการเดินทางไปติดต่อราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา รวมถึงปัญหาในเรื่องการบริหารจัดการด้านการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเนื่องจากมีระยะทางที่ห่างไกล
สมาคมฯจึงได้นำเรื่องดังกล่าวเรียนเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายแพทย์ธีระเกียรติ์ เจริญเศรษฐศิลป์) และเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (นายบุญรักษ์ ยอดเพชร) ขอให้มีการประกาศจัดตั้งเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเพิ่มเติมให้ครบทุกจังหวัด โดยสมาคมฯได้ประสานกับบรรดาผู้บริหารและข้าราชการครูในทุกจังหวัดให้เตรียมความพร้อมเรื่องสถานที่ตั้งและสิ่งอำนวยความสะดวก และได้รับความกรุณาจากเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(นายบุญรักษ์ ยอดเพชร) ในเรื่องของการเตรียมการด้านบุคคลและงบประมาณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการในขณะนั้นก็เห็นชอบและได้กรุณานำเรื่องเสนอต่อสภาการศึกษา และในที่สุดสภาการศึกษาก็ได้มีมติเห็นชอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการประกาศจัดตั้งเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเพิ่มเติมให้ครบทุกจังหวัด และเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ดำเนินการให้มีการประชุมเพื่อจัดทำ (ร่าง)ประกาศกระทรวงศึกษาธิการที่เกี่ยวกับการจัดตั้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (เพิ่มเติม) เมื่อวันอังคารที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๖๑ แต่ในที่สุดก็ไม่มีการลงนามจัดตั้งเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาให้ครบทุกจังหวัดแต่อย่างใด ส.บ.ม.ท.ได้รับทราบเป็นการภายในว่านายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในขณะนั้นได้รับทราบปัญหาและพยายามผลักดันให้มีการเพิ่มเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษามาโดยตลอดแต่ผู้มีอำนาจเหนือขึ้นไปกลับสั่งให้ สพฐ เก็บเรื่องทั้งๆที่สภาการศึกษาได้มีมติไว้แล้ว ส.บ.ม.ท.เห็นว่าผู้ที่สั่งให้ สพฐ เก็บเรื่องนั้นน่าจะปฏิบัติที่ไม่เป็นไปตามหลักความชอบด้วยกฎหมายซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
ข้อกฎหมาย
มาตรา ๓๗ วรรคสองแห่ง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม บัญญัติไว้ว่า “ ให้รัฐมนตรีโดยคำแนะนำของสภาการศึกษา มีอำนาจประกาศในราชกิจจานุเบกษากำหนดเขตพื้นที่การศึกษาเพื่อการบริหารและการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน แบ่งเป็นเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาและเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา
มาตรา ๓๓ วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๖ บัญญัติไว้ว่า “ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการโดยคำแนะนำของสภาการศึกษามีอำนาจประกาศในราชกิจจานุเบกษากำหนดเขตพื้นที่การศึกษาเพื่อการบริหารและการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานแบ่งเป็นเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาและเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา
"มติดังกล่าวได้ล่วงเลยมานานร่วมหนึ่งปีแล้ว แต่ยังมิได้มีการดำเนินการให้มีการประกาศจัดตั้งเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาให้ครบทุกจังหวัดตามคำแนะนำของสภาการศึกษา แต่อย่างใด การสั่งการใดๆที่เป็นการขัดต่อมติของสภาการศึกษานั้น ถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและทำให้เกิดความเสียหาย เรื่องนี้ ส.บ.ม.ท.จะติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป" นายรัชชัยย์ฯกล่าวในที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก นายรัชชัยย์ ศรสุวรรณ นายกสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย ( ส.บ.ม.ท.)