นักวิชาการ ห่วงแบ่งกลุ่มโรงเรียนคัดเกรดนักเรียน ยิ่งสร้างปัญหาความเหลื่อมล้ำ แนะบอร์ดกพฐ.-สพฐ.คิดให้รอบคอบ จี้ส่งเสริมโรงเรียนดีประจำตำบลให้เกิดผล
วันนี้ (22 พ.ค.) ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) มีข้อเสนอแนะให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) แบ่งกลุ่มโรงเรียนในการรับนักเรียนเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มแรก เป็นโรงเรียนที่รับเด็กจากทั่วประเทศด้วยการสอบ 100% โดยไม่กำหนดเขตพื้นที่บริการของโรงเรียน หรือ ไม่มีโควตาเด็กพื้นที่บริการ เพื่อให้เป็นโรงเรียนที่ผลิตและพัฒนาเด็กที่มีศักยภาพให้เป็นเด็กเก่งของประเทศ และ กลุ่มที่สอง คือ กลุ่มที่รับเด็กในเขตพื้นที่บริการเหมือนในปัจจุบัน ว่า ตน อยากให้ กพฐ.และ สพฐ. คิดให้รอบคอบ เพราะกระแสของโลกทุกวันนี้เราลดความสำคัญของการสอบลง แต่แนวคิดดังกล่าวของ กพฐ. ผิดทิศผิดทางและสวนทางกับกระแสโลก ทั้งการให้โรงเรียนดีเด่นดัง สอบ 100% จะทำให้เกิดการติวเพื่อสอบ เพื่อแย่งที่นั่งเรียนรุนแรงมากขึ้นกว่าปัจจุบัน และสวนทางกับนโยบายการเร่งยกระดับคุณภาพโรงเรียนในชนบทให้สูงขึ้น เพื่อให้เด็กได้เรียนในโรงเรียนที่มีคุณภาพใกล้บ้าน
“การดึงเด็กหัวกะทิมารวมอยู่ในโรงเรียนเดียวกัน ได้ประโยชน์เพียงด้านเดียว แต่จะยิ่งเกิดการแย่งที่นั่งเรียนเพราะทุกคนก็ต้องการเรียนในโรงเรียนที่มีคุณภาพ ซึ่งกลุ่มที่มีศักยภาพ และมีฐานะทางการเงินดีก็จะยิ่งได้เปรียบ ส่วนโรงเรียนขนาดกลาง และขนาดเล็ก ก็จะถูกทอดทิ้งทำให้ช่องว่างทางคุณภาพก็จะยิ่งกว้างขึ้น เป็นการแบ่งชนชั้นของคนในสังคมด้วยระบบการศึกษา ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และความจริงแล้วเด็กเก่งควรได้เรียนในโรงเรียนที่มีเด็กที่มีศักยภาพที่หลากหลาย เด็กเก่งจะได้รู้จักการช่วยเหลือแบ่งปันเพื่อนที่เรียนอ่อนกว่า การดึงเด็กเก่งๆมาอยู่รวมกันนอกจากจะทำให้เด็กเก่งแข่งขันกันอย่างเอาเป็นเอาตายแล้ว ยังเป็นการทำลายลักษณะการอยู่ร่วมกันของสังคมที่ตัองการการทำงานร่วมกัน ช่วยเหลือกันและกัน เพราะเด็กไม่รู้จักการช่วยเหลือคนอื่นตั้งแต่ในโรงเรียน ผิดเจตนารมณ์ของการจัดการศึกษา ทางที่ดี กพฐ.ควรเร่งส่งเสริมคุณภาพโรงเรียนดีประจำตำบลให้เกิดผล และขยายจำนวนให้มากขึ้น ” ศ.ดร.สมพงษ์ กล่าว.
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก เดลินิวส์ วันอังคารที่ 21 พฤษภาคม 2562