อ.ก.ค.ศ.สอศ.อนุมัติหลักเกณฑ์บรรจุแต่งตั้งรองผู้อำนวยการ ให้สมัครทางออนไลน์และต้องรับรองคุณสมบัติตนเองว่าไม่ขัดกับที่ก.ค.ศ.กำหนด พร้อมอนุมัติเกณฑ์วิทยฐานะเชี่ยวชาญสายงานผู้บริหาร ส่วนที่ยื่นขอไว้ ว 17 และว 13 และค้างอยู่ให้ดำเนินการไปจนเสร็จสิ้น
วันนี้ (17 พ.ค.) ดร.สุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยว้า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ( อ.ก.ค.ศ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้อนุมัติหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้ง ให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัด สอศ. ซึ่งเป็นไปตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการที่ต้องการให้รองผู้อำนวยการสถานศึกษา เป็นผู้มีความรู้ความสามารถและมีศักยภาพในการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาและนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัด สอศ. ต้องเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัด สอศ. มีคุณสมบัติทั่วไปตามมาตรา 30 และมีวุฒิการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี ซึ่งดำรงตำแหน่งครู ที่มีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าครูชำนาญการ หรือบุคลากรทางการศึกษาอื่นที่มีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าชำนาญการ หรือดำรงตำแหน่งอื่นที่ ก.ค.ศ. เทียบเท่า และมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษา โดยผู้สมัครสามารถกรอกใบสมัครทางระบบออนไลน์ และส่งเอกสารใบสมัครฉบับจริง ได้ที่สอศ. ทั้งนี้ ในวันสมัครเข้ารับการคัดเลือก ผู้สมัครต้องรับรองตนเองด้วยว่าในวันบรรจุและแต่งตั้งตนเองไม่ติดเงื่อนไขใดที่ก.ค.ศ.กำหนด ทั้งนี้ ให้สอศ.กำหนดวันและเวลาในการดำเนินการคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา และเสนอให้อ.ก.ค.ศ. สอศ. กำหนดจำนวนตำแหน่งว่าง ประกาศรับสมัครก่อนวันรับสมัครไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน โดยกำหนดคุณสมบัติผู้มีสิทธิสมัครเข้ารับการคัดเลือก วัน เวลา และสถานที่รับสมัคร จำนวนตำแหน่งว่างที่จะใช้ในการบรรจุและแต่งตั้ง
ส่วนหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือก แบ่งเป็น 3 ภาค คือ ภาค ก สมรรถนะในการบริหารงานในหน้าที่ ภาค ข ความเหมาะสมกับการปฏิบัติงานในหน้าที่ แบ่งเป็นการประเมินประวัติและประสบการณ์ การประเมินผลงาน และการประเมินศักยภาพ และภาค ค ความเหมาะสมกับตำแหน่ง (คะแนนเต็ม 50 คะแนน) ซึ่งทั้ง 3 ภาค จะต้องระบุรายละเอียดเกี่ยวกับองค์ประกอบการประเมิน ตัวชี้วัด และคะแนนการประเมิน และภาค ง องค์ประกอบตัวชี้วัดคะแนนการประเมิน และวิธีการประเมินสัมฤทธิผลการปฏิบัติงานในหน้าที่ ตามที่ อ.ก.ค.ศ. สอศ. กำหนด
ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกต้องผ่านการพัฒนาก่อนบรรจุแต่งตั้ง ตามองค์ประกอบ ตัวชี้วัด แลวิธีการประเมินสัมฤทธิผลการปฏิบัติงานในหน้าที่ และตามข้อตกลงที่สอศ.กำหนด โดยให้มีการประเมิน ทุก 3 เดือน หากผลการประเมินใน 3 เดือนแรก ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน ให้ผู้ประเมินแจ้งผลการประเมินให้ผู้รับการประเมินทราบ เพื่อพัฒนาตนเองและปรับปรุงการปฏิบัติงานในหน้าที่ และเมื่อครบ 3 เดือนหลังให้มีการประเมินรวมครั้งที่ 2 แล้วให้ผู้ประเมินสรุปผลการประเมิน หากผลการประเมินรวมทั้ง 2 ครั้ง ผ่านเกณฑ์การประเมินให้ผู้รับการประเมินปฏิบัติงานในหน้าที่ตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษาต่อไป
ดร.สุเทพ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ มีมติอนุมัติหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาสายงานผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด สอศ. มีวิทยฐานะเชี่ยวชาญ เป็นไปตามมาตรา 54 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครุและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงความประพฤติด้านวินัยคุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ ประสบการณ์ และความรู้
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก ผู้จัดออนไลน์ วัน 17 พ.ค. 2562