นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวกรณีมีกลุ่มผู้ร้องเรียนถึงประเด็นการสรรหาตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เลขาธิการคุรุสภา และ ผอ.องค์การค้าเป็นการสรรหาไม่เหมาะสมว่า หากมองว่าตนดำเนินการไม่เหมาะสมก็ไปร้องต่อศาลปกครอง หรือถ้ามองว่าตนทุจริตก็ไปร้องต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ ยืนยันว่าการสรรหาเป็นไปตามกฎหมาย แม้คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มาตรา 44 จะระบุให้ รมว.ศึกษาธิการ มีอำนาจแต่งตั้งได้ก็ตาม และที่ผ่านมาตนได้ส่งข้อร้องเรียนที่ระบุว่าไม่ได้ประกาศหลักเกณฑ์การสรรหาลงในราชกิจจานุเบกษา ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาแล้ว ซึ่งกฤษฎีกาได้แจ้งกลับว่า เป็นอำนาจ รมว.ศึกษาธิการ สามารถประกาศหลักเกณฑ์ได้ โดยไม่จำเป็นต้องลงประกาศในราชกิจจาฯ
ต่อข้อถามกรณีมีข่าวการวิ่งเต้นเข้าหาคนใกล้ชิดของ รมว.ศึกษาธิการ นพ.ธีระเกียรติ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริงหากมีหลักฐานให้มายื่นกับตนเลย แม้กระทั่งจะเรียกคณะกรรมการสรรหามาพบส่วนตัวก็ไม่เคย ยืนยันว่าการสรรหาเดินตามข้อกฎหมายทุกอย่าง หากตนไม่ทำก็จะมีปัญหาผลประโยชน์ตามมา ตนไม่เข้าใจว่าทำไมการสรรหาผู้บริหารตัวจริงต้องมีการต่อต้านทุกครั้ง จึงอยากถามกลับว่าออกมาต่อต้านเพื่ออะไรและต้องการเอาคนของใครกันแน่ ตนต้องการให้มีผู้บริหารตัวจริงครบทั้งสามหน่วยงาน เพื่อให้งานขับเคลื่อนไปได้อย่างเต็มศักยภาพหลักเกณฑ์การสรรหาก็เปิดกว้างเป็นธรรมไม่ได้มีช่องทางที่จะล็อกคุณสมบัติของผู้สมัคร หลังจากปิดรับสมัครวันที่ 22 เม.ย.เป็นวันสุดท้ายแล้วจากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนของการตรวจคุณสมบัติผู้รับสมัครทุกอย่างสามารถตรวจสอบได้
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันที่ 23 เมษายน 2562