รมว.ศึกษาธิการ เผย สรรหาเลขาธิการสกสค.และคุรุสภา ไร้ปัญหา ส่วนกลุ่มไหนที่ร้องเรียนว่าไม่เหมาะสมให้ไปร้องศาลปกครองได้ ยัน การสรรทุกอย่างทำตามกฎหมาย ปัด ไม่มีใครวิ่งเต้นคนใกล้ชิดตนเพื่อให้ได้ตำแหน่ง
วันนี้ (22 เม.ย.) นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีมีกลุ่มผู้ร้องเรียนถึงประเด็นการสรรหาตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลาทางการศึกษา (สกสค.) เลขาธิการคุรุสภา และผอ.องค์การค้าฯเป็นการสรรหาไม่เหมาะสมว่า เรื่องนี้หากมองว่าตนดำเนินการไม่เหมาะสมก็สามารถไปร้องต่อศาลปกครอง หรือหากมองว่าตนทุจริตก็ไปร้องต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ ซึ่งการสรรหาดังกล่าวได้ดำเนินการตามกฎหมายทุกอย่างแม้ในคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มาตรา 44 จะระบุไว้ว่าให้เป็นอำนาจของ รมว.ศึกษาธิการ แต่งตั้งได้ก็ตาม รวมถึงตนได้ส่งข้อร้องเรียนที่ระบุว่า หลักเกณฑ์การสรรหาไม่ได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาจึงไม่ถูกต้องไปให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาด้วยว่าตนทำถูกต้องหรือไม่ ซึ่งสำนักงานกฤษฎีกาฯก็แจ้งกลับว่า ในอำนาจ รมว.ศธ.เองสามารถประกาศหลักเกณฑ์ได้ไม่จำเป็นต้องลงประกาศในราชกิจจา
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้การสรรหาก็ไม่ได้ทำเพื่อตนเองแต่ทำเพื่อองค์กร เพราะอย่าลืมว่าผู้บริหารที่ทำงานอยู่ตอนนี้เป็นเพียงตำแหน่งรักษาการเท่านั้นไม่ใช่ตัวจริง ซึ่งตนต้องการให้มีผู้บริหารตัวจริงครบทั้งสามหน่วยงาน เพื่อทำให้งานขับเคลื่อนไปได้อย่างเต็มศักยภาพ นอกจากนี้หลักเกณฑ์การสรรหายังเปิดกว้างอย่างเป็นธรรมไม่ได้มีช่องทางที่จะให้ล็อคคุณสมบัติของผู้สมัครแต่อย่างใด โดยเฉพาะคณะกรรมการสรรหาทั้ง 3 คนที่ตนตั้งขึ้นก็เป็นกลางและเป็นคนนอกด้วย และในวันที่ 22 เม.ย.ก็เป็นการเปิดรับสมัครวันสุดท้ายแล้วหลังจากนั้นก็จะเข้าสู่ขั้นตอนของการตรวจคุณสมบัติผู้รับสมัคร ดังนั้นทุกอย่างตรวจสอบได้ ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้มีการเข้าไปล้วงลูกหลังจากประกาศเกณฑ์สรรหาเรียบร้อยตนก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการดำเนินการ
ต่อข้อถามว่า มีการวิ่งเต้นเข้าหาคนใกล้ชิดของรมว.ศธในตำแหน่งผอ.องค์การค้าฯ นพ.ธีระเกียรติ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริงหากมีหลักฐานก็มายื่นกับตนได้เลย หรือแม้กระทั่งตนจะเรียกคณะกรรมการสรรหามาพบส่วนตัวก็ไม่มี ซึ่งหากใครมีหลักฐานการเข้าพบก็มายืนยันได้ ทั้งนี้ยืนยันว่าการสรหาผู้บริหารตัวจริงทั้งสามตำแหน่งเดินตามข้อกฎหมายทุกอย่าง เพราะหากตนไม่ทำก็จะมีปัญหาผลประโยชน์ตามมา ซึ่งตนไม่เข้าใจการสรรหาผู้บริหารตัวจริงดังกล่าวมีการต่อต้านทุกครั้ง ดังนั้นตนต้องมีคำถามตอบกลับไปแล้วว่าที่ออกมาต่อต้านเพื่ออะไรและต้องการเอาคนของใครกันแน่
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 22 เมษายน 2562