รอลุ้นเกณฑ์ใหม่คัดเลือกผอ.สถานศึกษา
แย้มหลักเกณฑ์การคัดเลือกผอ.สถานศึกษาใหม่ ไม่มีการสอบ ไม่มีการขึ้นบัญชี ใช้วิธีประเมิน 360 องศาจากเพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชา
นายอัมพร พินะสา รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า หลังจากที่นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ มีนโยบายไม่ต้องมีการสอบคัดเลือกผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการสถานศึกษา เพราะมองว่าการสอบอาจทำให้เกิดช่องทางทุจริตได้ ดังนั้นขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) อยู่ระหว่างรอคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลกรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.)จัดทำหลักเกณฑ์ใหม่ให้เสร็จ หลังจากนั้น สพฐ.จะมากำหนดหลักการวิธีการคัดเลือกเอง ซึ่งประเด็นนี้เป็นไปตามมติที่ประชุม ก.ค.ศ.ที่เห็นชอบให้ส่วนราชการที่เป็นผู้ปฎิบัติได้กำหนดหลักการวิธีการคัดเลือกได้เอง โดย ก.ค.ศ.จะเป็นผู้ออกหลักเกณฑ์กว้างๆเท่านั้น เพื่อให้หน่วยงานปฎิบัติคัดเลือกคนได้ตรงกับความต้องการ
รองเลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อไปว่า เมื่อ ก.ค.ศ.กำหนดหลักเกณฑ์แล้ว สพฐ.จะมากำหนดตัวชี้วัดและองค์ประกอบอื่นสำหรับการคัดเลือกต่อไป โดยในอนาคตจะไม่มีการสอบคัดเลือกอย่างแน่นอน สำหรับหลักการคัดเลือกเบื้องต้นจะเป็นการประเมินผู้ที่จะเข้าสู่ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาแบบ 360 องศาไม่ว่าจะเป็นการประเมินจากประวัติการทำงาน ผลงาน การประเมินศักยภาพจากบุคคลรอบข้างทั้งเพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชา รวมถึงการแสดงวิสัยทัศน์ โดยจะมีคณะกรรมการประเมิน เพื่อป้องกันข้อครหา
“ต่อจากนี้ไปการเข้าสู่ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาจะไม่มีการขึ้นบัญชีแล้ว หากโรงเรียนไหนมีตำแหน่งว่างก็จะเข้าสู่การคัดเลือกด้วยหลักเกณฑ์ใหม่และให้บรรจุทันที เพราะปัญหาที่ผ่านมาตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาว่างเป็นเวลานานก็มาจากการหลักเกณฑ์วิธีการที่ซับซ้อน ส่งผลให้การบริหารโรงเรียนขาดความต่อเนื่อง ดังนั้นหลักเกณฑ์ใหม่จะเข้ามาช่วยเติมเต็มการยกระดับคุณภาพการศึกษาอีกวิธีหนึ่ง” รองเลขาธิการ กพฐ.กล่าว
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้ที่ เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 22 เมษายน 2562
ด้าน ไทยโพสต์ ได้นำเสนอข่าวนี้ ดังนี้
ยากกว่าเดิม เกณฑ์เลือกผอ.-รองผอ.รร. ที่ไม่มีการสอบ ใช้ประเมินรอบทิศ 360 องศา
22เม.ย.62- สพฐ. รอ ก.ค.ศ. ทำหลักเกณฑ์ คัดเลือก ผอ.-รองผอ. แทนการสอบ “อัมพร” เผยเบื้องต้น เป็นการประเมินแบบ 360 องศา ทั้งจากบุคคลอื่น เพื่อนร่วมงาน ประวัติ ผลงาน ศักยภาพ ต้องแสดงวิสัยทัศน์ด้วย ชี้อยากให้เสร็จโดยเร็ว เหตุ มีตำแหน่งรอง ผอ. ว่างอยู่ประมาณกว่า 1,000 อัตรา
นายอัมพร พินะสา รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาฯ กพฐ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกเพื่อบรรจุแต่งตั้งตำแหน่งผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการสถานศึกษาใหม่ ว่า หลังจากที่นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) มีนโยบายให้การสอบคัดเลือกผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการสถานศึกษาในรูปแบบที่ไม่ต้องมีการสอบคัดเลือก เพราะการสอบอาจส่งผลให้มีช่องทางทุจริตได้ ดังนั้นในการดำเนินการเรื่องดังกล่าว ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กำลังอยู่ระหว่างรอคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลกรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) จัดทำหลักเกณฑ์ให้เสร็จ หลังจากนั้น สพฐ.จะมากำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการคัดเลือกเอง ตามมติที่ประชุม ก.ค.ศ. ซึ่ง สพฐ.จะต้องกำหนดตัวชี้วัดและองค์ประกอบอื่นสำหรับคัดเลือกผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการสถานศึกษาต่อไป สำหรับหลักการคัดเลือกเบื้องต้นจะเป็นการประเมินผู้ที่จะเข้าสู่ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาแบบ 360 องศาไม่ว่าจะเป็นการประเมินตัวบุคคลจากองค์ประกอบอื่นแทนการสอบ เช่น พิจารณาจากประวัติการทำงาน ผลงาน การประเมินศักยภาพจากบุคคลรอบข้างทั้งเพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชา รวมถึงการแสดงวิสัยทัศน์ ซึ่งนอกจากนี้จะมีคณะกรรมการขึ้นในการประเมินอีกด้วย เพื่อป้องกันปัญหาที่จะครหาของการลักลั่นในการประเมินตัวบุคคลเกิดขึ้น
“ในอนาคตจะไม่มีการสอบคัดเลือกตำแหน่งผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการสถานศึกษาอย่างแน่นอน และต่อจากนี้ไปการเข้าตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาจะไม่มีการขึ้นบัญชีไว้แล้ว หากโรงเรียนไหนมีตำแหน่งผู้บริหารว่างก็จะเข้าสู่การคัดเลือกด้วยหลักเกณฑ์ใหม่และให้บรรจุทันที เพราะปัญหาที่ผ่านมาตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาว่างเป็นเวลานานก็มาจากการหลักเกณฑ์วิธีการที่ซับซ้อน ส่งผลให้การบริหารโรงเรียนขาดความต่อเนื่อง ดังนั้นหลักเกณฑ์ใหม่จะเข้ามาช่วยเติมเต็มการยกระดับคุณภาพการศึกษาอีกวิธีหนึ่ง อย่างไรก็ตาม อยากให้การกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกการเข้าสู่ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาดำเนินการเสร็จโดยเร็ว เพราะเรามีเป้าหมายที่จะใช้หลักเกณฑ์ใหม่กับตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษาที่ขณะนี้ว่างอยู่ประมาณกว่า 1,000 อัตรา”รองเลขาฯ กพฐ.กล่าว
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้ที่ ไทยโพสต์ วันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2562