คำชี้แจงรายละเอียดประกอบการขอคืนเงินค่าธรรมเนียมตามประกาศสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา เรื่อง การขอคืนเงินค่าธรรมเนียมการประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ลงวันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๖๒
๑. เงินค่าธรรมเนียมการประกอบวิชาชีพทางการศึกษาที่สามารถขอคืนได้ หมายถึง
เงินค่าธรรมเนียมในการขอขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ของครูซึ่งเป็นสมาชิกคุรุสภาตามพระราชบัญญัติครู พุทธศักราช ๒๔๘๘ อยู่แล้วก่อนพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทาง การศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๖ มีผลใช้บังคับ ที่ได้ยื่นคำขอขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตพร้อมกับชำระเงินค่าธรรมเนียมไว้ ระหว่าง วันที่ ๔ มกราคม ถึงวันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๔๘ เนื่องจากมีประกาศกระทรวงศึกษาธิการให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมขอขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษาแก่ครูซึ่งเป็นสมาชิกคุรุสภาตามพระราชบัญญัติครู พุทธศักราช ๒๔๘๘ อยู่แล้วก่อนพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๖ มีผลใช้บังคับ ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๔๘ (ตามประกาศที่แนบ)
ครูซึ่งเป็นสมาชิกคุรุสภาตามพระราชบัญญัติครู พุทธศักราช ๒๔๘๘ หมายถึง ครู หรือ ผู้บริหารสถานศึกษา หรือผู้บริหารการศึกษา ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในวันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๔๖ และดำรงตำแหน่งดังกล่าวต่อเนื่องมาถึงวันที่ ๑๒ มิถุนายน ๒๕๔๖ (กรณีที่เป็นศึกษานิเทศก์ จะขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู)
๒. วัตถุประสงค์ของการประกาศให้ขอคืนเงินค่าธรรมเนียม
เนื่องจาก สำนักงานได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่อยู่ในเงื่อนไขการได้รับเงินคืนดังกล่าวมาขอคืนเงินตั้งแต่วันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๔๘ เป็นต้นมา ผ่านทางส่วนราชการต้นสังกัดที่แจ้งให้สถานศึกษาขอรับเงินคืนให้แก่ครูที่อยู่ในสถานศึกษา และประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางสื่อมวลชนในขณะนั้นอย่างแพร่หลาย และมีผู้ขอรับเงินคืนไปแล้ว จำนวน ๓๑๙,๓๐๖ ราย คิดเป็นประมาณร้อยละ ๙๘ ของจำนวนผู้ที่อยู่ในเงื่อนไขทั้งหมด จำนวน ๓๒๖,๑๒๖ ราย ยังคงเหลือผู้ที่ยังมิได้ขอคืนจำนวน ๖,๘๒๐ ราย คิดเป็นประมาณร้อยละ ๒ ปัจจุบันล่วงเลยระยะเวลาการให้ยื่นคำขอคืนเงินมากว่า ๑๐ ปี แล้ว สำนักงานมีความห่วงใยว่าผู้ที่อยู่ในเงื่อนไขสามารถขอคืนเงินได้หากยังมีความประสงค์จะขอรับเงินคืนก็ให้สามารถยื่นคำขอคืนเงินได้อีกครั้งหนึ่งภายในวันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๖๒
๓. เอกสารหลักฐาน ในการขอคืนเงินค่าธรรมเนียม
๑) แบบคำขอคืนเงิน
๒) ใบเสร็จรับเงินค่าธรรมเนียมที่ได้ชำระไว้ ระหว่างวันที่ ๔ มกราคม – ๑๐ มีนาคม ๒๕๔๘
๓) สำเนาหน้าปกสมุดเงินฝากธนาคารกรุงไทย หรือธนาคารอื่น ที่ระบุชื่อธนาคาร และเลขที่บัญชี ผู้ขอรับเงินคืน
๔) ใบสำคัญรับเงินของคุรุสภา ซึ่งจะสมบูรณ์เมื่อได้ส่งเงินคืนให้สมาชิกแล้ว
สมาชิกสามารถตรวจสอบการชำระเงิน ได้จากเจ้าหน้าที่คุรุสภา ณ สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา เจ้าหน้าที่คุรุสภาที่ประจำอยู่สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดทุกจังหวัด หรือ Call Center หมายเลยเลข ๐๒ ๓๐๔ ๙๘๙๙ ว่าได้ชำระเงินค่าธรรมเนียมไว้ในระหว่างวันที่ ๔ มกราคม – ๑๐ มีนาคม ๒๕๔๘ หรือไม่ แต่การขอคืนเงินต้องมีเอกสารตามที่กำหนดเพื่อประกอบการขออนุมัติเบิกเงินคืนให้สมาชิก
สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา
๒๑ มีนาคม ๒๕๖๒
ตอบประเด็นคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการขอคืนเงิน ตามประกาศสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา เรื่อง การขอคืนเงินค่าธรรมเนียมการประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ลงวันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๖๒
———-
คำถาม ๑. บุคคลใดบ้างที่สามารถขอคืนเงินค่าธรรมเนียมตามประกาศของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา
ครูซึ่งเป็นสมาชิกคุรุสภาตามพระราชบัญญัติครู พุทธศักราช ๒๔๘๘ ซึ่งหมายถึง ครู หรือ ผู้บริหารสถานศึกษา หรือผู้บริหารการศึกษา ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในวันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๔๖ และดำรงตำแหน่งดังกล่าวต่อเนื่องมาถึงวันที่ ๑๒ มิถุนายน ๒๕๔๖ (กรณีที่เป็นศึกษานิเทศก์ จะขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู) และให้มาขอคืนได้ภายในวันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๖๒ เนื่องจาก เป็นผู้ได้รับการยกเว้นตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการให้ยกเว้นค่าธรรมขอขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษาแก่ครูซึ่งเป็นสมาชิกคุรุสภาตามพระราชบัญญัติครู พุทธศักราช ๒๔๘๘ อยู่แล้วก่อนพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๖ มีผลใช้บังคับ ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๔๘
คำถาม ๒. สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาสามารถตรวจสอบได้หรือไม่ ว่าสมาชิกเคยขอเงินคืนมาแล้วหรือยัง
ได้ แต่จะต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบ เนื่องจาก เวลาผ่านไปหลายปีแล้ว และสำนักงานได้ประชาสัมพันธ์ให้สมาชิกมาขอคืนหลายครั้งแล้ว โดยแจ้งผ่านต้นสังกัดให้ขอคืนเป็นรายสถานศึกษา ตั้งแต่วันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๔๘ เป็นต้นมา และให้เวลาจนถึงวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๔๙ ซึ่งมีผู้ขอรับเงินคืนไปแล้ว จำนวน ๓๑๙,๓๐๖ ราย คิดเป็นประมาณร้อยละ ๙๘ ของจำนวนผู้ที่อยู่ในเงื่อนไขทั้งหมด จำนวน ๓๒๖,๑๒๖ ราย ยังคงเหลือผู้ที่ยังมิได้ขอคืนจำนวน ๖,๘๒๐ ราย คิดเป็นประมาณร้อยละ ๒
คำถาม ๓. สำนักงานเลขาธิการคุรุสภามีรายชื่อผู้ที่ยังไม่มาขอรับเงินคืนหรือไม่
ไม่สามารถตรวจสอบจากระบบที่มีอยู่ในปัจจุบันได้ทันที ต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบเนื่องจาก ในขณะนั้นมีการชำระเงินค่าธรรมเนียมมาทั้งผู้ที่เป็นครูอยู่ก่อนพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทาง การศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๖ มีผลใช้บังคับ ซึ่งได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียม และผู้ที่ไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขการได้รับยกเว้น
คำถาม ๔. หากสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาสามารถตรวจสอบการชำระเงินของสมาชิกได้ จะสามารถออกใบเสร็จรับเงินฉบับใหม่ให้ใช้เป็นหลักฐานในการเบิกคืนเงินค่าธรรมเนียม ได้หรือไม่
ไม่สามารถออกใบเสร็จรับเงินฉบับใหม่ให้ได้ เนื่องจาก การออกใบเสร็จรับเงินจะออกให้ได้เฉพาะเมื่อมีการรับเงินจริง ณ วันที่ออกใบเสร็จรับเงินเท่านั้น และต้องนำส่งเงินเข้าสำนักงานตามจำนวนที่ออกใบเสร็จ
คำถาม ๕. มีแนวทางใดบ้างที่สามารถจะขอคืนเงินค่าธรรมเนียมได้ กรณีที่ไม่มีใบเสร็จรับเงินฉบับจริง เนื่องจาก ระยะเวลานานเป็นสิบปีแล้ว เมื่อได้รับใบอนุญาตแล้วก็ไม่ได้เก็บใบเสร็จรับเงินไว้
การที่สำนักงานจะขออนุมัติเบิกเงินเพื่อส่งคืนให้แก่สมาชิกจำนวนเท่าใด จะต้องมีใบเสร็จรับเงินฉบับจริง ที่ระบุระหว่างวันที่ ๔ มกราคม – ๑๐ มีนาคม ๒๕๔๘ เป็นหลักฐานว่าสมาชิกได้ชำระเงินไว้ และสามารถขอคืนได้ตามเงื่อนไขที่ได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียม ซึ่งหลักฐานประกอบการเบิกจ่ายเป็นไปตามระเบียบของทางราชการ
คำถาม ๖. หากใบเสร็จรับเงินหาย สามารถใช้ใบแจ้งความ หรือใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเป็นหลักฐานแทน ได้หรือไม่
กรณีใบแจ้งความ สำนักงานไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานการประกอบการขออนุมัติเบิกเงินเพื่อคืนให้สมาชิกได้ ตามระเบียบของทางราชการว่าด้วยการเบิกจ่ายเงิน
กรณีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูก็เช่นเดียวกัน เนื่องจาก การได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ที่ออกให้ ณ วันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๔๗ นั้น สมาชิกบางรายไม่ได้ชำระค่าธรรมเนียม และบางรายอาจจะได้รับเงินคืนไปแล้ว เนื่องจาก มีสมาชิกเพียง ร้อยละ ๒ ที่ยังไม่ได้ขอคืน
สมาชิกสามารถตรวจสอบการชำระเงินได้จากเจ้าหน้าที่คุรุสภา ณ สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา เจ้าหน้าที่คุรุสภาที่ประจำอยู่สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดทุกจังหวัด หรือ Call Center หมายเลยเลข ๐๒ ๓๐๔ ๙๘๙๙ ว่าได้ชำระเงินค่าธรรมเนียมไว้ในระหว่างวันที่ ๔ มกราคม – ๑๐ มีนาคม ๒๕๔๘ หรือไม่ แต่การขอคืนเงินต้องมีเอกสารตามที่กำหนดเพื่อประกอบการขออนุมัติเบิกเงินคืนให้สมาชิก
คำถาม ๗. สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา สามารถพิมพ์ข้อมูลการชำระเงินที่อยู่ในระบบของคุรุสภา ใช้เป็นเอกสารแทนใบเสร็จรับเงินได้หรือไม่
ตามระเบียบการเบิกจ่ายเอกสารดังกล่าวไม่สามารถใช้แทนใบเสร็จรับเงินได้ และข้อมูลการ ชำระเงินที่อยู่ในระบบ สำนักงานสามารถตรวจสอบในระบบสารสนเทศผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาของคุรุสภาได้ว่ามีการชำระเงินเข้ามาในระหว่างวันที่ ๔ มกราคม – ๑๐ มีนาคม ๒๕๔๘ ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในเงื่อนไขการขอคืนได้ แต่การขอคืนเงินต้องมีเอกสารตามที่กำหนดเพื่อประกอบการขออนุมัติเบิกเงินคืนให้สมาชิก
คำถาม ๘. สมาชิกสามารถเข้ามาติดต่อขอรับเงินคืนด้วยตนเอง และได้รับเงินกลับไปเลยได้หรือไม่
ไม่ได้ เนื่องจากสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาต้องตรวจสอบหลักฐานเอกสารให้ครบถ้วน และเสนอขออนุมัติเบิกเงินตามจำนวนเงินที่ขอคืน เพื่อส่งคืนเข้าบัญชีให้สมาชิก
คำถาม ๙. เรื่องขอคืนเงินที่ได้รับส่งต่อๆ กันมาทางช่องทางไลน์ เป็นเรื่องจริงหรือไม่
ไม่สามารถตอบได้ ต้องพิจารณาตามข้อเท็จจริงเป็นเรื่อง ๆ ไป บางเรื่องได้พิจารณาแล้วเป็นข้อมูลที่ผ่านมาสิบปีแล้วจึงไม่ใช่ข้อเท็จจริง ณ ปัจจุบัน จึงขอให้สมาชิกติดตามหรือสอบถามจากเจ้าหน้าที่คุรุสภา ณ สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา เจ้าหน้าที่คุรุสภาที่ประจำอยู่ ณ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดทุกจังหวัด หรือ Call Center หมายเลยเลข ๐๒ ๓๐๔ ๙๘๙๙
สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา
๒๑ มีนาคม ๒๕๖๒
ดาวน์โหลดเอกสารเพิ่มเติม
ที่มา : ประชาสัมพันธ์คุรุสภา