นายรัชชัยย์ ศรสุวรรณ นายกสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย (ส.บ.ม.ท.)เปิดเผยว่าตามที่ ส.บ.ม.ท.ได้มีแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยกับการให้มีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ในรัฐบาลนี้เนื่องจาก (1)เป็นการร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาที่ข้าราชการครูไม่มีส่วนร่วมในการพิจารณา (2)กระบวนการประชาพิจารณ์ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ (3)การพิจารณากฎหมายการศึกษาซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติควรมีการพิจารณารายมาตราโดยรอบคอบจึงควรให้รัฐบาลใหม่พิจารณา (4)การเปลี่ยนแปลงชื่อตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนและรองผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นตำแหน่งครูใหญ่และผู้ช่วยครูใหญ่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่มีความสัมพันธ์กับการพัฒนาคุณภาพการศึกษา (5)ขาดเหตุผลความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงจากใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูเป็นใบรับรองความเป็นครู และ(6)มาตรา 37 ของร่างกฎหมายดังกล่าวไม่ได้ระบุเรื่องสิทธิในการรับเงินวิทยะฐานะของครูใหญ่ ผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่ฯลฯต่อมาเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2562 ส.บ.ม.ท.ได้แจ้งนัดหมายสมาชิก ส.บ.ม.ท ให้พร้อมใจกันใส่ชุดดำเดินทางไปยื่นหนังสือต่อประธาน สนช และนายกรัฐมนตรี เพื่อคัดค้านการพิจารณาพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติดังกล่าวโดยนัดหมายไปยื่นหนังสือคัดค้านในวันที่ 8 มีนาคม 2562
แต่ในวันที่ 6 มีนาคม 2562 ตนได้แจ้งสมาชิก ส.บ.ม.ท.ให้ยกเลิกการเดินทางไปยื่นหนังสือต่อประธาน สนช และนายกรัฐมนตรี เนื่องจากได้รับทราบเป็นการภายในว่าร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ดังกล่าวไม่สามารถเข้าสู่การพิจารณาของ สนช สมัยนี้ได้ทัน จึงเห็นควรยื่นคัดค้านในรัฐบาลต่อไป นั้น
นายรัชชัยย์ฯ แจ้งว่าแม้ ส.บ.ม.ท.จะไม่ได้เดินทางไปยื่นหนังสือคัดค้านต่อผู้มีอำนาจพิจารณาแต่ ส.บ.ม.ท.ก็ขอยืนยันเจตนารมณ์เดิมตามที่ได้กำหนดไว้ในแถลงการณ์ดังกล่าว ส่วนกรณีที่องค์กรครูอื่นๆจะมีมาตรการอย่างไรนั้นเป็นเรื่องขององค์กรนั้นๆ ส.บ.ม.ท.ไม่อาจก้าวล่วงได้
นอกจากนี้นายรัชชัยย์ฯยังเปิดเผยอีกว่าการแถลงการณ์ของ ส.บ.ม.ท.นั้นเป็นอำนาจของนายก ส.บ.ม.ท.ที่สามารถทำได้ทันทีหากเห็นว่ากำลังมีเหตุการณ์ที่มีผลกระทบต่อการศึกษาของชาติหรือกระทบต่อสมาชิก ส่วนกรณีที่มีกรรมการบริหารรายหนึ่งเห็นต่างจาก ส.บ.ม.ท.ในเรื่องของการเปลี่ยนตำแหน่งของผู้อำนวยการโรงเรียนนั้น เป็นความเห็นส่วนตัวเท่านั้น นายรัชชัยย์กล่าว