จี้ก.ค.ศ.คิดรูปแบบใหม่ไม่สร้างภาระ
เมื่อวันที่ 4 ก.พ. นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ได้กำหนดแบบประเมินความดีความชอบปี 2562 เป็น 3 ด้าน 13 แฟ้มงาน ซึ่งเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในกลุ่มครูและบุคลากรทางการศึกษาเป็นอย่างมากว่า ตนได้ติดตามเรื่องนี้ และเห็นว่าแบบประเมินดังกล่าวถือเป็นการสร้างภาระงานให้แก่ข้าราชการครูเป็นอย่างมาก อีกทั้งได้รับทราบด้วยว่าขณะนี้มีการรับจ้างประเมินความดีความชอบเกิดขึ้นด้วย ดังนั้นตนจึงได้สั่งการไปยัง ก.ค.ศ.ให้ยกเลิกมติดังกล่าวทันที ส่วนจะใช้หลักเกณฑ์การประเมินความดีความชอบเพื่อพิจารณาขั้นเงินเดือนอย่างไรนั้นมีอีกหลายวิธีไม่จำเป็นต้องทำแฟ้มผลงาน ซึ่งได้มอบ ก.ค.ศ.ไปคิดรูปแบบให้รอบคอบ แต่ขอย้ำว่าจะต้องเป็นการดำเนินการที่ไม่สร้างภาระให้แก่ข้าราชการครู
“ที่ประชุม ก.ค.ศ.มีมติเห็นชอบกำหนดแบบประเมินความดีความชอบเมื่อเดือน ก.ย.2561 และเมื่อนำไปสู่การปฏิบัติพบว่ามีปัญหามาก ปัญหา ดังกล่าวมาจากคนที่คิดหลักเกณฑ์ไม่ได้ลงพื้นที่สำรวจความต้องการของครูและสภาพความเป็นจริง นั่งคิดกันอยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยม ซึ่งหากดีจริงผมก็จะลองเอาวิธีการประเมินนี้มาใช้ประเมินกับผู้บริหาร ก.ค.ศ. ปลัดศธ.บ้างว่าจะมีความยุ่งยากมากน้อยแค่ไหน ขณะเดียวกันผมก็ได้สอบถามเรื่องนี้กับผู้บริหารก.ค.ศ.และ สพฐ.ต่างฝ่ายต่างก็โยนกันไปมา แต่ขอให้รอดูเพราะผมจะจัดการทุกสิ่งทุกอย่างที่วุ่นวายอยู่ในตอนนี้โดยเร็วที่สุด” รมว.ศึกษาธิการกล่าว
ต่อข้อถามถึงที่ประชุม ก.ค.ศ.มีมติดังกล่าวออกมาถือเป็นการสอดไส้ให้ รมว.ศึกษาธิการ พิจารณาเห็นชอบหรือไม่ นพ.ธีระเกียรติ กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่ใช่เรื่องการยัดไส้ เพราะในวันที่มีการพิจารณาเรื่องนี้ หรือแม้แต่หลายๆ เรื่องที่นำเข้าพิจารณาไม่ได้มีการลงลึกในรายละเอียด ดังนั้นตนจึงไม่ทราบว่าหลักเกณฑ์ที่ออกมาจะเป็นอย่างไรและกระทบกับกลุ่มครูมากน้อยแค่ไหน.
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก ไทยรัฐ วันที่ 5 มีนาคม 2562