"บุญรักษ์" เตือนว่าที่ผู้บริหารรุ่นใหม่ การอบรมก่อนบรรจุลงตำแหน่งเข้มข้นขึ้น ส่ง ผอ.สพท.เข้าค่ายลูกเสือ-ดูงานพื้นที่จริง ว่าที่ ผอ.โรงเรียน ไม่อ่านบทเรียนก่อนมีสิทธิ์ตก
วันนี้ (18 ก.พ.) ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 20-27 ก.พ.นี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)จะจัดอบรมผู้สอบผ่านการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน(ผอ.รร.) สังกัด สพฐ.ปี 2561 จำนวน 5,031 คน พร้อมกันในจุดอบรม 13 จังหวัดทั่วประเทศ จากตำแหน่งว่างที่บรรจุได้ 4,906 คน โดยจะประกาศผลว่าผ่านหรือไม่ผ่านในวันที่ 27 ก.พ. จากนั้นวันที่ 28 ก.พ.2562 จะให้ ผอ.รร.ที่ผ่านการอบรมไปรายงานตัวที่สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.)เลือกโรงเรียน และเร่งแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 1 มี.ค.2562 ซึ่งการอบรมปีนี้แตกต่างจากที่ผ่านมาและเข้มข้นมากขึ้น เช่น นำเทคโนโลยีมาใช้ในการอบรม สพฐ.จึงนำเนื้อหามาบันทึกเป็นคลิปวิดีโอ และส่งเป็น QR Code ให้ผู้เข้าอบรมสแกนเข้าสู่บทเรียนได้เรียนรู้ก่อน พร้อมทั้งให้กรอกข้อมูลตัวเองเข้าแอพพลิเคชั่นไลน์จัดกลุ่มๆละ10-15 คน เวลามาอบรมในจุดอบรม 7 วัน จะเป็นเรื่องกรณีศึกษานำความรู้ที่ได้อ่านมาก่อนหน้านี้มาตั้งเป็นประเด็น และในการบรรยายสดผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ก็จะใช้คำถามนำถ้าไม่อ่านมาก่อนก็จะตอบไม่ได้ ทั้งนี้ แม้จะผ่านการอบรมและแต่งตั้งไปแล้ว ต้องทำ 4 เรื่องให้ชัดเจน คือ การครองตน ครองคน ครองงาน และปฏิบัติงาน ซึ่งในช่วงการทดลองเป็นผู้บริหาร 1 ปีจะมีตัวชี้วัดว่าต้องทำอะไรบ้าง พร้อมอบรมเติมเต็มและประเมินเป็นระยะ ถ้าประเมินไม่ผ่านต้องถูกถอดถอนกลับไปสู่ตำแหน่งเดิม
ดร.บุญรักษ์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ระหว่างวันที่ 25 มี.ค.-8 เม.ย.2562 จะอบรมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (ผอ.สพท.) ใหม่ 49 คน โดยใช้หลักการเดียวกับการอบรม ผอ.รร. แต่ในสัปดาห์แรก ผอ.สพท.ใหม่จะถูกส่งไปฝึกผู้นำลูกเสือ ที่ค่ายบลูกเสือวชิราวุธ เพื่อสร้างความเป็นปรึกแผ่น หล่อหลอมความเป็นทีม ส่งเสริมวินัย จากนั้นจะส่งไปฝึกงานในบริบทของพื้นที่ที่จะไปปฏิบัติหน้าที่ 1 สัปดาห์ เพื่อเรียนรู้ปัญหาและวิธีการแก้ปัญหาตามสภาพจริงในพื้นที่นั้นๆ เช่น จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ บนพื้นที่สูง เป็นต้น และให้กลับมาเสนอแผนงานว่าถ้าไปเป็น ผอ.สพท.ในพื้นที่นั้นๆจะทำอะไร ทำอย่างไร โดยมาทำสัญญากับ สพฐ. ซึ่ง สพฐ.จะติดตาม 1 ปี และประเมินผลถ้าบรรลุเป้าหมาย ก็ประเมินผ่านเป็นผอ.สพท.ต่อ แต่ถ้าไม่สำเร็จก็ต้องกลับไปสู่ตำแหน่งเดิม.
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562