คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฎิรูปการศึกษา วางแผนปฎิรูปประเทศด้านการศึกษา พร้อม ถก ระยะเปลี่ยนผ่านของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาที่จะไปทำหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการศึกษาแห่งชาติ
วันนี้ (5 ก.พ.) ศ.นพ.จรัส สุวรรณเวลา ประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฎิรูปการศึกษา (กอปศ.) เปิดเผยภายหลังการประชุม กอปศ.ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาแผนปฎิรูปประเทศด้านการศึกษา ซึ่งขณะนี้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติแล้ว โดย กอปศ.จะนำกลับเข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์หน้า เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา นอกจากนี้ได้พิจารณาระยะเปลี่ยนผ่านของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ที่จะไปทำหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการศึกษาแห่งชาติ ซึ่ง สกศ.ได้นำเสนอบทบาทหน้าที่ของ สกศ.ในปัจจุบันและแนวทางการปรับบทบาทไปสู่การเป็นสำนักงานคณะกรรมการนโยบายการศึกษาแห่งชาติ ซึ่งที่ประชุมเห็นว่ามีความสำคัญมากเพราะเป็นฐานของการปฎิรูปการศึกษาและการจัดการศึกษาในอนาคต แต่เห็นว่าหน่วยงานนี้ไม่ควรจะบริหารแบบระบบราชการแต่ต้องเป็นระบบที่มีความเข้มแข็ง สามารถที่จะระดมความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมจากภาคส่วนต่างๆ รวมทั้งระดมการทำวิจัยเพื่อให้การพัฒนาการศึกษาในระยะต่อไปเกิดประโยชน์สูงสุด และทำหน้าที่สำคัญในการขับเคลื่อนการปฎิรูปการศึกษาให้เกิดขึ้น รวมทั้งยังมีภารกิจใหม่ที่ได้รับมอบหมายเพิ่มเติมคือการรับผิดชอบดูแลงานปฐมวัย ตาม พ.ร.บ.การพัฒนาเด็กปฐมวัย ดังนั้นที่ประชุมจึงได้ตั้งคณะทำงานมาช่วย สกศ.พิจารณาโครงสร้าง โดยมี ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล รศ.นพ.จิรุตม์ ศรีรัตนบัลล์ และดร.ไกรยศ ภัทราวาทร่วมให้คำแนะนำ
ต่อข้อถามว่าหาก พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติออกไม่ทันในรัฐบาลนี้การปฎิรูปการศึกษาที่ดำเนินการมาจะสูญเปล่า และส่งผลต่อการปรับโครงสร้าง สกศ.หรือไม่ ประธาน กอปศ. กล่าวว่า กอปศ.จะจัดทำข้อเสนอแนะไปยังรัฐบาลว่าจะต้องมีการปรับเปลี่ยนอย่างไรเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งขณะนี้เราก็มีคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาการศึกษา หรือ ซุปเปอร์บอร์ดด้านการศึกษาอยู่แล้ว โดยมีสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นเลขานุการ ดังนั้นจะต้องปรับเปลี่ยนให้ สกศ.เข้าไปเป็นเลขานุการ ทั้งยังมีแผนปฎิรูประเทศด้านการศึกษาที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงไม่สูญเปล่าแน่นอน และที่สำคัญประชาชนมีการตื่นตัวและตระหนักในเรื่องของการศึกษามากขึ้น แต่ตนยังมีความหวังว่า พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่จะออกได้ทัน
ด้าน ดร.สุภัทร จำปาทอง เลขาธิการ สกศ. กล่าวว่า สกศ.ยังไม่ได้นำเสนอโครงสร้างที่ชัดเจน แต่เป็นการเปลี่ยนถ่ายภารกิจงานตามกฎหมายใหม่ที่ถูกกำหนดไว้ คือภารกิจนโยบายยุทธศาสตร์การศึกษา การวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการศึกษา มาตรฐานการศึกษาและการเรียนรู้ การติดตามประเมินผล ศูนย์สารสนเทศการศึกษา การปรับ สกศ.ไปเป็นสำนักงานคณะกรรมการนโยบายการศึกษาแห่งชาติ และกฏหมายการศึกษาที่จะต้องดำเนินการ ส่วนการปรับโครงสร้าง สกศ.จะมีการหารือร่วมกับคณะทำงานก่อนที่จะนำไปการจัดกลุ่มงานรวมถึงกรอบอัตรากำลัง อย่างไรก็ตามหากร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.... ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาออกไม่ทันในรัฐบาลนี้ เมื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่สอบถามมา สกศ.จะยืนยันเสนอกลับไปแต่ก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก เดลินิวส์ วันอังคารที่ 5 กุมภาพันธ์ 2562