นางปิยวรรณ ตันติธนอมร ศึกษานิเทศก์สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากระบี่ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28-30 มกราคม 2562 ที่โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทาราภูพาโน รีสอร์ท อำเภอเมืองกระบี่ กลุ่มเซ็นทรัล นำโดยนายวิทยา ศรีสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาการศึกษาอย่างยั่งยืน ได้จัดอบรมปฏิบัติการแนวทางการจัดการเรียนการสอนให้กับโรงเรียนที่ผ่านการประเมินเป็นสถานศึกษาแบบอย่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และบริหารจัดการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (สถานศึกษาพอเพียง) จำนวน 12 โรงเรียน รวมจำนวน 60 คน เพื่อรับการประเมินเป็นศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ประกอบด้วยโรงเรียนบ้านทุ่งปรือ บ้านควนม่วง บ้านบางคราม บ้านสะพานพน บ้านหนองน้ำแดง วิทยาประชาคม บ้านคลองหมาก บ้านพรุดินนา บ้านย่านอุดม บ้านทุ่งเสม็ด บ้านนาปง และบ้านพรุเตย โดยผู้อบรมปฏิบัติการประกอบด้วย ผู้อำนวยการโรงเรียน ครูผู้สอน และนักเรียน โรงเรียนละ 2 คน โดยได้รับความอนุเคราะห์จากนายเฉลิม เรืองทองเมือง ผู้เชี่ยวชาญด้านการขับเคลื่อนหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ภาคการศึกษา พร้อมคณะ เป็นวิทยากรให้ความรู้
ทั้งนี้ การดำเนินงานสถานศึกษาพอเพียง เป็นนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ต้องการขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สู่สถานศึกษาในทุกระดับ เพื่อให้ผู้บริหารสถานศึกษา ครู บุคลากรด้านการศึกษา และนักเรียน นักศึกษา มีความรู้ ความเข้าใจในหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สามารถนำหลักคิด หลักปฏิบัติ มาบูรณาการในการบริหารจัดการการเรียนการสอน ตลอดจนประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ก่อให้เกิดความตระหนักและฝังรากลึกภายในตนเอง และผู้อื่นอย่างยั่งยืนตลอดไป และกลุ่มเซ็นทรัล ได้ให้ความสำคัญด้านการศึกษาและความเป็นอยู่ที่ดีของคน ภายใต้โครงการ “เซ็นทรัล ทำ” โดยกิจกรรมด้านการศึกษาและความเป็นอยู่ที่ดีของคน (PEOPLE) เป็น 1 ใน 4 กิจกรรมหลักของโครงการ ที่กลุ่มเซ็นทรัลเห็นว่าในประเทศยังมีเด็กด้อยโอกาสอยู่เป็นจำนวนมาก จึงได้มีการสนับสนุนการศึกษาให้กับเด็กๆ เหล่านั้น ซึ่งธุรกิจเซ็นทรัลมีครอบคลุม 45 จังหวัด จึงได้จัดให้ทีมงานส่วนหนึ่งในแต่ละแห่งมาอบรมพัฒนาตนเอง และเอาความรู้ความเชี่ยวชาญไปฝึกสอนกับครู เพื่อที่ครูจะได้นำเอาความรู้ด้านวิชาการใหม่ๆ ที่ทันสมัยไปส่งต่อให้กับนักเรียน พร้อมเพิ่มการเรียนรู้เรื่องของเศรษฐกิจพอเพียงให้เด็กๆ ได้เลี้ยงไก่ ไข่ไก่ ปลูกผัก เลี้ยงหมู เลี้ยงปลา ปลอดสารพิษ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นอาหารกลางวัน และจัดตลาดนัดขายผลผลิตในโรงเรียน และยังช่วยต่อยอดอนาคตของเด็กๆ หากเด็กเหล่านั้นไม่ได้ศึกษาต่อก็ยังสามารถนำความรู้เศรษฐกิจพอเพียงไปสร้างอาชีพให้กับตนเองได้ ซึ่งตอนนี้ทำไปแล้ว 9 แห่ง แต่ละแห่งต้องค่อยเป็นค่อยไปเพราะไม่ใช่เรื่องทำง่ายๆ ต้องเรียนรู้ควบคู่กับเด็กๆและต้องศึกษาพื้นที่แต่ละแห่งว่าเหมาะสมอย่างไร และเข้าไปดำเนินการให้ครอบคลุมต่อไป