สถานี ก.ค.ศ. : การเปลี่ยนแปลงการเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
สวัสดีค่ะ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และผู้สนใจทุกท่าน ตามที่สำนักงาน ก.ค.ศ. ได้เคยชี้แจงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของกฎ ก.ค.ศ. การเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2561 ไปแล้วนั้น ในสัปดาห์นี้ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในทางปฏิบัติ จึงขอชี้แจงเพิ่มเติม ดังนี้
การเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ซึ่งจะเลื่อนเงินเดือนในวันที่ 1 เมษายน และวันที่ 1 ตุลาคม เป็นการเลื่อนเงินเดือนแบบช่วง ตามบัญชีเงินเดือนขั้นต่ำขั้นสูงของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพท้ายพระราชบัญญัติเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2558 โดยที่ผ่านมานั้น ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาจะได้เลื่อนเงินเดือนเป็นแบบขั้น ซึ่งสามารถกำหนดขั้นเงินเดือนที่ได้เลื่อนไว้ชัดเจนและกำหนดกรอบวงเงินในการเลื่อนขั้นเงินเดือน ครั้งที่ 1 (1 เมษายน) กำหนดโควตาการเลื่อนขั้นเงินเดือนหนึ่งขั้นไม่เกินร้อยละ 15 ของจำนวนข้าราชการ ณ วันที่ 1 มีนาคม และครั้งที่ 2 (1 ตุลาคม) ให้เลื่อนได้ในวงเงินไม่เกินร้อยละ 6 ของอัตราเงินเดือนข้าราชการ ณ วันที่ 1 กันยายน โดยให้นำวงเงินที่ได้ใช้เลื่อนเงินเดือนไปแล้วเมื่อวันที่ 1 เมษายน มาหักออกก่อน แต่สำหรับการเลื่อนเงินเดือนแบบช่วง กำหนดให้เลื่อนเงินเดือนปีละ 2 ครั้งเหมือนเดิม ภายในวงเงินร้อยละ 3 ของเงินเดือนที่จ่ายให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ณ วันที่ 1 มีนาคม และวันที่ 1 กันยายน ซึ่งกฎ ก.ค.ศ. ฉบับดังกล่าวกำหนดให้ส่วนราชการบริหารวงเงินในการเลื่อนเงินเดือนในภาพรวมของส่วนราชการหรือเขตพื้นที่การศึกษาแล้วแต่กรณี และกำหนดให้เลื่อนเงินเดือนแต่ละคนในแต่ละครั้งไม่เกินร้อยละ 6 ของฐานในการคำนวณ
สำหรับการเลื่อนเงินเดือนให้ผู้บังคับบัญชานำผลการประเมินจากการประเมินผลการปฏิบัติงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาประกอบกับข้อมูลการลา พฤติกรรมการมาทำงาน และข้อควรพิจารณาอื่น ๆ ของผู้นั้นมาใช้ในการพิจารณาเลื่อนเงินเดือน ซึ่งแต่ละคนจะได้รับการเลื่อนเงินเดือนเป็นจำนวนเงินเท่าใดนั้น ขึ้นอยู่กับผลการพิจารณาข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้น และต้องเป็นไปตามช่วงเงินเดือนและฐานในการคำนวณตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด ดังนั้น การเลื่อนเงินเดือนในครั้งนี้ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จึงไม่สามารถประมาณการอัตราเงินเดือนที่จะได้รับเป็นจำนวนที่แน่นอนได้ ซึ่งจะแตกต่างจากการเลื่อนเงินเดือนแบบขั้น
ข้อดีของการเลื่อนเงินเดือนแบบช่วงสามารถจำแนกคุณภาพของบุคลากรซึ่งเป็นไปตามผลการปฏิบัติงานได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม การประเมินผลการปฏิบัติงานเป็นเครื่องมือที่สะท้อนการปฏิบัติงานที่ส่งผลถึงคุณภาพการศึกษา ดังนั้น ผู้ทำหน้าที่ประเมิน จึงต้องประเมินด้วยความเป็นธรรม โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้
ทั้งนี้ สำนักงาน ก.ค.ศ. จะได้ดำเนินการสร้างการรับรู้ในเรื่องดังกล่าวผ่านช่องทางต่าง ๆ เป็นระยะ เพื่อทำความเข้าใจกับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เกี่ยวข้อง และสามารถนำไปปฏิบัติในการเลื่อนเงินเดือนในรอบต่อไปได้อย่างถูกต้อง เป็นธรรม และมีมาตรฐานในการปฏิบัติ
ดร.อุษณีย์ ธโนศวรรย์
เลขาธิการ ก.ค.ศ.
ที่มา สำนักงาน ก.ค.ศ. วันที่ 30 มกราคม 2562