“หมออุดม” เผย ศธ.จับมือภาคเอกชนร่วมผลิตบัณฑิตพรีเมี่ยม ส่งผลให้เด็กสนใจสมัครเป็นจำนวนมากทั้งปวช. ปวส. และปริญญาตรี รุ่นแรก ปี 62
วันนี้ (28 ม.ค.) ศ.นพ.อุดม คชินทร รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด(มหาชน) ได้มีความร่วมมือภายใต้โครงการความร่วมมือภาครัฐและเอกชนเพื่อร่วมผลิตบัณฑิตพรีเมี่ยม โดยเริ่มรับนักเรียน นักศึกษา ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง(ปวส.) และปริญญาตรีรุ่นแรก ปีการศึกษา 2562 ใน 4 สาขา ได้แก่ การจัดการนวัตกรรมการค้าการตลาด , การจัดการธุรกิจค้าปลีก, เทคโนโลยีไฟฟ้า และ ด้านอาหารและเครื่องดื่ม นั้น เมื่อเร็วๆนี้ ได้มีการประชุมติดตามความก้าวหน้าการดำเนินโครงการ ซึ่งพบว่า นักเรียน นักศึกษาให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการฯจำนวนมาก และยังเปิดรับสมัครอย่างต่อเนื่องใน ม.เทคโนโลยีราชมงคล 7 แห่ง ม.ราชภัฏ 38 แห่ง ม.แม่โจ้ ม.พะเยา ม.บูรพา ม.เจ้าพระยา วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม วิทยาลัยเชียงราย สถาบันเทคโนโลยียานยนต์มหาชัย และ สถานศึกษาอาชีวศึกษา รวมกว่า 70 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งภาพรวมกำหนดเป้าหมายนักเรียน นักศึกษาเข้าร่วมโครงการฯ5,100 คน และ อนาคตจะเพิ่มจำนวนมหาวิทยาลัยมากขึ้น รวมถึงเพิ่มจำนวนนักเรียน นักศึกษา ให้ถึง 10,000 คน
“โครงการนี้ต้องการให้ภาคเอกชนมาร่วมกับภาคการศึกษาจัดการศึกษา เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้กับเครื่องมือใหม่ๆ ได้พัฒนาตามความต้องการของภาคเอกชน เรียนจบแล้วสามารถทำงานได้ทันที ไม่ต้องไปฝึกงานใหม่ โดยเด็กที่เข้าร่วมโครงการมาจาก 2 กลุ่ม คือ เด็กทั่วไป และเด็กจากโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ที่มีฐานยากจน ขาดโอกาส หรือ เป็นเด็กชนเผ่า ซึ่งทาง บริษัทซีพี ออลล์ จำกัด จะสนับสนุนทุนการศึกษาให้ โดยกรณีเด็กทั่วไปจะสนับสนุน 70% ให้แก่สถานศึกษา แต่ถ้าเป็นเด็กที่มาจากโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ สนับสนุนให้ 100% และเมื่อจบการศึกษาก็รับเข้าทำงานทันที ส่วนการคัดเลือกก็เปิดกว้างไม่ได้กำหนดผลการเรียน แต่จำนวนรับในแต่ละสาขาขึ้นกับความตกลงของแต่ละสถานศึกษา โดยแต่ละแห่งจะมีการประกาศไว้ชัดเจน ”ศ.คลินิก นพ.อุดม กล่าว
รมช.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า ส่วนความคืบหน้าโครงการบัณฑิตพันธุ์ใหม่ ของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) ในปีการศึกษา 2562 นั้น ขณะนี้มีงบประมาณชัดเจนแล้ว โดยรัฐบาลได้อนุมัติงบฯปี 2562 จำนวน 870 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนมหาวิทยาลัยที่สมัครเข้าร่วมเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับแก้ร่างขอบเขตงาน (ทีโออาร์)ใหม่ และจะประกาศเร็วๆนี้ โดยยังคงหลักการเดิม แต่ปรับแก้ไขในรายละเอียดบางประเด็นที่ได้นำบทเรียนของปีการศึกษา 2561 มาเป็นแนวทาง
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 28 มกราคม 2562