บอร์ดอิสระ ถก กฎหมายการศึกษา 3 เรื่องสำคัญ พร้อมดันร่าง พ.ร.บ.ดูแลเด็กอัจฉริยะ และ ตั้งสถาบันหลักสูตรการเรียนการสอนในอนาคตแน่
วันนี้ (15 ม.ค.) ศ.นพ.จรัส สุวรรณเวลา ประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อปฎิรูปการศึกษา (กอปศ.) เปิดเผยภายหลังการประชุม กอปศ.ว่า ที่ประชุมได้พิจาณา 3 เรื่องสำคัญสำหรับการขับเคลื่อนการปฎิรูปการศึกษา ได้แก่ 1.ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันหลักสูตรและการเรียนการสอนแห่งชาติ (องค์กรมหาชน) หลังจากที่ได้เปิดรับฟังรีวิวความคิดเห็นเรื่องดังกล่าวพบว่า เสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยที่มีการจัดตั้งสถาบันหลักสูตรการเรียนการสอนแห่งชาติขึ้น แต่ก็ได้มีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมบางประเด็นในการจัดทำรายละเอียดเรื่องดังกล่าวให้ชัดเจนมากขึ้นก่อนที่จะเสนอรัฐบาลพิจาณา คือ การปรับหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอน การวัดและประเมินผล รวมถึงการทำหลักสูตรฐานสมรรถนะให้มากกว่าหลักสูตรที่เป็นเนื้อหาสาระ เพื่อให้เป็นเครื่องมือสำหรับโรงเรียนในการพัฒนาคุณภาพ ทั้งนี้สถาบันหลักสูตรฯจะจัดตั้งได้เมื่อไหร่นั้นยังไม่ชัดเจนในตอนนี้ เนื่องจากเรามีการขยายเป้าหมายการจัดทำหลักสูตรให้ครอบคลุมทุกกลุ่มการเรียนรู้ แต่ในอนาคตจะมีการจัดตั้งสถาบันหลักสูตรฯเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือจะแยกออกจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และคาดว่าจะอยู่ภายใต้สังกัดสำนักงานปลัด ศธ.
ประธาน กอปศ. กล่าวต่อไปว่า ส่วนเรื่องที่ 2.ได้หารือถึงร่าง พ.ร.บ.การจัดการศึกษาสำหรับบุคคลผู้มีความต้องการจำเป็นพิเศษ ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบการจัดทำร่างดังกล่าว โดยร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้จะเป็นกฎหมายฉบับรองที่จะรองรับสิ่งที่มีอยู่ในร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ..และแผนปฎิรูปประเทศด้านการศึกษา ซึ่งร่าง พ.ร.บ.การจัดการศึกษาสำหรับบุคคลผู้มีความต้องการจำเป็นพิเศษนั้นจะเน้นการจัดการช่วยเหลือการดูแลเด็กรายบุคคลที่หลากหลาย รวมถึงครูและผู้จัดการศึกษา นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบให้มี พ.ร.บ.ขึ้นอีกฉบับหนึ่ง ซึ่งจะเป็นร่าง พ.ร.บ.สำหรับผู้มีความสามารถพิเศษ เช่น เด็กที่มีความเป็นเลิศด้านดนตรี ศิลปะ และกีฬา เป็นต้น โดยจะดำเนินการคู่ขนานไปกับร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ด้วย และ 3.แผนปฎิรูปประเทศด้านการศึกษา ซึ่งได้มีการเสนอแผนดังกล่าวไปยังรัฐบาลแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำแผนแม่บท 23 แผน ซึ่งแผนแม่บทนี้จะอยู่ภายใต้แผนปฎิรูปเทศด้านการศึกษา โดย กอปศ.กำลังพิจาณาปรับแผนแม่บทว่าส่วนไหนที่จะปรับให้สอดคล้องกับแผนปฎิรูปประเทศด้านการศึกษาบ้าง เพื่อนำเสนอแผนแม่บทั้ง 23 แผนเสนอให้รัฐบาลพิจาณาต่อไป
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก เดลินิวส์ วันอังคารที่ 15 มกราคม 2562