“วัฒนาพร”เผย ครม.เห็นชอบร่างมาตรฐานเด็กปฐมวัยแห่งชาติ เตรียมชี้แจงแนวทางดำเนินงานตามมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยฯ พร้อมคู่มือมาตรฐาน
วันนี้ (7ม.ค.)ดร.วัฒนาพร ระงับทุกข์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา(สกศ.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ (ก.พ.ป.) ที่มี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้ขับเคลื่อนการพัฒนาเด็กปฐมวัยมาอย่างต่อเนื่องสอดคล้องตามการบูรณาการงานปฐมวัยของ 4 กระทรวงหลัก ประกอบด้วย กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ซึ่งมีความก้าวหน้าของการดำเนินงานตามลำดับ นั้น จากการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อเร็วๆนี้ ครม.ได้เห็นชอบร่างมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ตามที่ ศธ. เสนอ ซึ่งให้ความสำคัญกับการดูแลเด็ก ส่งเสริมเด็กและพัฒนาเด็กปฐมวัย เพื่อส่งต่อให้เข้าสู่ระบบการศึกษาตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 เพื่อเป็นมาตรฐานกลาง ของประเทศใช้กับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยทุกแห่ง และยังเป็นมาตรฐานการประเมินเพื่อพัฒนาคุณภาพ มุ่งเน้น การดูแล พัฒนา และจัดการศึกษาให้เหมาะสมสำหรับเด็กปฐมวัยเป็นรายบุคคล
ดร.วัฒนาพร กล่าวต่อไปว่า สาระสำคัญของร่างมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาตินั้น เพื่อพัฒนาคุณภาพการบริการดูแลพัฒนาและจัดการศึกษา และการดำเนินงานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยทุกสังกัดที่ดูแลเด็กในเวลากลางวัน ช่วงอายุตั้งแต่แรกเกิด ถึง 6 ปีบริบูรณ์ หรือก่อนเข้าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1ที่สามารถนำไปใช้ประเมินการดำเนินงานของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยในทุกสังกัด จำนวน 53,335 แห่ง ทั่วประเทศ เพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดบริการและความต่อเนื่องของการพัฒนาเด็กปฐมวัย โดยกำหนดมาตรฐานย่อย 3 ด้าน คือ 1.การบริหารจัดการสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย 2.ครู/ผู้ดูแลเด็กให้การดูแลและจัดประสบการณ์การเรียนรู้และการเล่นเพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัย และ 3.คุณภาพของเด็กปฐมวัย แบ่งเป็นเด็กแรกเกิด - อายุ 2 ปี และเด็กอายุ 3 - 6 ปี หรือช่วงก่อนเข้าศึกษาระดับ ป.1 ซึ่งถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญของเด็กและควรได้รับ การดูแลอย่างใกล้ชิด
“สกศ. ในฐานะฝ่ายเลขานุการ ก.พ.ป. จะเร่งขับเคลื่อนการดำเนินงาน โดยเตรียมจัดประชุมชี้แจง แนวทางการดำเนินงานตามมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ พร้อมคู่มือมาตรฐานฯ โดยเฉพาะการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานที่มีสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยและสถานศึกษาในสังกัดจำนวนมาก เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันต่อไป ”รองเลขาธิการ สกศ. กล่าว
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 7 มกราคม 2562