ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

พบพิรุธค่าตอบแทนโครงการเงินกู้ ช.พ.ค.ถูกใช้ผิดประเภท


ข่าวการศึกษา 2 ม.ค. 2562 เวลา 13:09 น. เปิดอ่าน : 11,929 ครั้ง
Advertisement


Advertisement

พบพิรุธค่าตอบแทนโครงการเงินกู้ ช.พ.ค.ถูกใช้ผิดประเภท

‘อรรถพล’ พบ พิรุธ ค่าตอบแทนโครงการเงินกู้ ช.พ.ค.ถูกใช้ผิดประเภท เตรียมรวบรวมข้อมูลทั้งหมดแก้ปัญหาต่อไป

เมื่อวันที่ 1 ม.ค.2562 นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ปฎิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยว่า ตนและผู้บริหารสำนักงาน สกสค.ทั้งในส่วนกลางและต่างจังหวัด ได้หารือร่วมกับ นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน และทีมผู้บริหารของธนาคารออมสิน ใน 3 เรื่อง เรื่องที่ 1.สำนักงาน สกสค.ได้ขอให้ทางธนาคารออมสินได้ทบทวน MOU โครงการเงินกู้การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเหลือเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ซึ่งได้มีการทำกันมาแล้วจำนวน 4 ฉบับ ฉบับที่ 1 ลงวันที่ 9 ก.ย.2548 ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 29 ม.ค.2551 ฉบับที่ 3 ลงวันที่ 25 พ.ค.2552 และฉบับที่ 4 ลงวันที่ 5 ส.ค.2553 โดยเนื้อหาสาระของ MOU แต่ละฉบับจะคล้ายๆ กัน จะมีแตกต่างกันบ้างก็คือ การกำหนดให้ทางธนาคารออมสินจ่ายค่าตอบแทน โดยบางฉบับกำหนดให้จ่ายค่าตอบแทนเข้ากองทุนสนับสนุนกิจการของสำนักงาน สกสค. และบางฉบับจ่ายเงินค่าตอบแทนสนับสนุนกิจการของ ช.พ.ค. แต่ประเด็นอยู่ที่ว่าหลังจากตนเข้ามาปฎิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค.ได้ตรวจสอบพบว่าค่าตอบแทนที่ได้รับจากธนาคารออมสินในอดีตที่ผ่านมา สำนักงาน สกสค.ได้รวบเอาเข้าไปไว้ในกองทุนสนับสนุนกิจการของสำนักงาน สกสค.ทั้งหมด ทั้งที่ MOU ในแต่ละฉบับกำหนดไว้ชัดเจนว่าจะต้องนำเงินค่าตอบแทนดังกล่าวไปไว้ในส่วนใดบ้าง จากนั้นก็มีการอนุมัตินำเงินออกไปใช้จ่ายกัน ซึ่งถือเป็นการใช้เงินผิดประเภท

ปฎิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค. กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังพบข้อสังเกตุที่เกี่ยวข้องกับ MOU ทั้ง 4 ฉบับอีกก็คือ ตั้งแต่ฉบับที่ 1-3 มีข้อตกลงร่วมกันว่ากรณีผู้กู้เงินซึ่งเป็นสมาชิก ช.พ.ค.ถึงแก่กรรมให้สำนักงาน สกสค.ส่งเงินสงเคราะห์รายศพไปจ่ายหนี้ให้กับธนาคารออมสินเพื่อชำระเงินกู้ ช.พ.ค.แทนสมาชิก แต่พอมาถึง MOU ฉบับที่ 4 มีการกำหนดเงื่อนไขพิเศษกว่า 3 ฉบับ โดยกำหนดให้สำนักงาน สกสค.ส่งเงินสงเคราะห์รายศพให้กับธนาคารออมสินเช่นกัน แต่ยกเว้นกรณีที่ผู้กู้ที่ถึงแก่กรรมรายใดมีเงินประกันสินเชื่อเอาไว้ไม่ต้องส่งเงินสงเคราะห์รายศพให้กับธนาคารออมสิน แต่จากการตรวจสอบย้อนหลังกลับพบว่า แม้จะมีข้อกำหนดใน MOU เกี่ยวกับเรื่องการส่งเงินสงเคราะห์รายศพไว้ชัดเจน แต่สำนักงาน สกสค.กยังส่งเงินสงเคราะห์รายศพผู้ที่ได้ทำประกันสินเชื่อเอาไว้ไปให้กับธนาคารออมสิน ดังนั้นทางธนาคารออมสินจึงรับที่จะไปตรวจสอบให้ แต่ในส่วนของสำนักงาน สกสค.ก็ต้องมาจัดทำรายละเอียดว่าผู้กู้เงินโครงการ ช.พ.ค. 6 และ 7 ซึ่งได้ทำสัญญาตาม MOU ฉบับที่ 4 นี้มีการส่งเงินสงเคราะห์รายศพของสมาชิกที่เสียชีวิตไปให้ธนาคารออมสินแล้วจำนวนกี่ราย และเป็นเงินจำนวนเท่าใด เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการแก้ไขปัญหาต่อไป

นายอรรถพล กล่าวต่อไปว่า เรื่องที่ 2.สำนักงาน สกสค.ได้ขอต่อรองให้ธนาคารออมสินปรับแก้ไขสัญญาเงินกู้โครงการ ช.พ.ค. 6 และ 7 เนื่องจากในสัญญาข้อ 6 กำหนดว่า กรณีผู้กู้ที่มีประกันจะต้องต่ออายุประกันภายใน 30 วัน ถ้าไม่ต่อธนาคารออมสินจะเป็นผู้ชำระเบี้ยประกัน แล้วนำค่าเบี้ยประกันไปเพิ่มเป็นเงินกู้โดยอัตโนมัติ ซึ่งในส่วนนี้สำนักงาน สกสค.ได้ขอต่อรองว่ากรณีที่ผู้กู้มีหนี้คงเหลือไม่เกิน 7 แสนบาท ซึ่งเงินสงเคราะห์รายศพของกองทุน ช.พ.ค.สามารถชำระแทนครูได้เพียงพออยู่แล้ว จึงไม่ควรบังคับหรือตั้งเป็นเงื่อนไขให้ครูต้องต่อประกันได้หรือไม่ หรือหากครูจะทำก็ขอให้ทำด้วยความสมัครใจไม่ใช่การบังคับทำ โดยในประเด็นนี้ธนาคารออมสินรับปากที่จะนำไปหารือกับบอร์ดของธนาคาร หากบอร์ดเมตตาช่วยครูในประเด็นนี้ ก็สามารถทำข้อตกลงแนบท้ายในสัญญาในภายหลังได้ ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ให้กับครูได้ไม่น้อย

“สำหรับเรื่องที่ 3.สำนักงาน สกสค.เห็นว่า การทำประกันเงินกู้รอบใหม่การพิจารณาบริษัทประกันจะต้องพิจารณาร่วมกันระหว่างธนาคารออมสินกับสำนักงาน สกสค. ดังนั้นผมจึงเสนอว่าบริษัทประกันที่จะเข้ามารับทำประกันชีวิตให้กับครูจะต้องเป็นการทำประกันชีวิตจริง ๆ ไม่ใช่เป็นการทำสัญญาแบบประกันวินาศภัยเหมือนที่ผ่านมา ขณะเดียวกันจะต้องเป็นการทำประกันประเภทประกันสินเชื่อที่ทุนประกันจะต้องลดลงตามหนี้ เพื่อให้เบี้ยประกันถูกลง ที่สำคัญจะต้องปลอดค่าคอมมิชชั่นทุกชนิด เพื่อให้มีเบี้ยประกันที่ถูกที่สุด นอกจากนี้บริษัทประกันที่จะเข้ามาจะต้องให้ครูเลือกอัตราเบี้ยประกันตามเพศ ตามอายุ และตามระยะเวลาที่เอาประกัน ไม่ให้บังคับว่าครูจะต้องทำประกันกี่ปี อย่างไรก็ตามเนื่องจากธนาคารออมสินถือเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ทางธนาคารจึงเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการร่วม 2 ชุด ชุดที่ 1 ทำหน้าที่กำหนดมาตรฐานขั้นต่ำของบริษัทประกันชีวิต โดยมีกรรมการจากทางสำนักงาน สกสค.เป็นประธาน ทั้งนี้คณะกรรมการชุดนี้จะต้องจัดทำกรอบมาตรฐานขั้นต่ำของบริษัทประกันชีวิตให้แล้วเสร็จภายในต้นเดือน ม.ค.2562 นี้ จากนั้นจะกำหนดวันให้บริษัทประกันที่มีคุณสมบัติเป็นไปตามกรอบมาตรฐานได้ยื่นซองเพื่อแข่งขันราคาเบี้ยประกัน โดยมีคณะกรรมการอีกชุดเพื่อทำการคัดเลือกบริษัทที่เสนอราคาเบี้ยประกันถูกที่สุด มีนายชาติชาย เป็นประธาน เมื่อได้บริษัทประกันแล้วก็จะเรียกครูไปทำสัญญาต่อไป” นายอรรถพล กล่าว

นายอรรถพล กล่าวอีกว่า จากข้อมูลมีครูที่จะต้องต่อประกันชีวิตในปี 2561-2562 จำนวนทั้งสิ้น 385,705 คน ในจำนวนนี้กรมธรรม์หมดอายุไปแล้ว 1 หมื่นกว่าคน ทางบริษัททิพยประกันภัยได้ต่ออายุกรรมธรรม์ให้ไปแล้ว และจะหมดอายุในเดือน ม.ค.นี้อีก 1,175 คน เดือน ก.พ.อีก 587 คน ซึ่งทั้ง 2 เดือนนี้ เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการจัดหาบริษัทประกันใหม่ ดังนั้นจึงให้ธนาคารออมสินเจรจากับบริษัททิพยประกันภัยช่วยต่อสัญญากรมธรรม์ให้กลุ่มนี้ไปก่อน แต่มีสัญญาไม่เกิน 1 ปี เพื่อให้ผู้กู้สามารถเลือกบริษัทประกันได้ใหม่ในปีต่อไป อย่างไรก็ตามยังมีผู้กู้โครงการ ช.พ.ค. 6 และ 7 ที่จะต้องต่อประกันแบบอัตโนมัติ เนื่องจากกรมธรรม์จะหมดอายุในเดือน มิ.ย.2562 อีกจำนวน 343,991 คน ดังนั้นหากมีการจัดหาบริษัทประกันใหม่ตามแนวทางที่ได้มีการพูดคุยกันนี้ ครูกลุ่มนี้ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเสียเงินค่าเบี้ยประกันชีวิตที่แพงอีกต่อไป เท่าที่ตนมีข้อมูลในมือขณะนี้คาดว่าครูจะเสียค่าเบี้ยประกันถูกกว่าที่เดิม 50% หรืออาจจะมากกว่านั้นแน่นอน ถือเป็นของขวัญปีใหม่ที่สำนักงาน สกสค.และธนาคารออมสินได้ตั้งใจทำให้ครู

สำหรับสมาชิก ช.พ.ค.ที่ยังค้างชำระเงินกู้อยู่ขณะนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 421,565 คน แบ่งเป็นโครงการ ช.พ.ค.1 จำนวน 10,193 คน เป็นเงิน 1,966 ล้านบาท โครงการ ช.พ.ค.2-3 จำนวน 21,007 คน เป็นเงิน 2,422 ล้านบาท โครงการ ช.พ.ค.4 จำนวน 4,610 คน เป็นเงิน 583 ล้านบาท โครงการ ช.พ.ค. 5 จำนวน 41,714 คน เป็นเงิน 19,109 ล้านบาท โครงการ ช.พ.ค.6 จำนวน 155,377 คน เป็นเงิน 142,000 กว่าล้านบาท และโครงการ ช.พ.ค.7 จำนวน 188,614 คน เป็นเงิน 230,000 กว่าล้านบาท โดยกลุ่มผู้กู้ที่เป็นหนี้มากที่สุดคือกลุ่มอายุ 51-60 ปี มีมากถึง 168,000 กว่าคน ส่วนผู้กู้ที่ค้างชำระเงินกู้มากที่สุดคือกลุ่มที่กู้เงิน 600,000-1,000,000 บาท รองลงมาคือกลุ่มที่กู้ 1,000,000 บาทขึ้นไป.

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก เดลินิวส์ วันอังคารที่ 1 มกราคม 2562

 

 


พบพิรุธค่าตอบแทนโครงการเงินกู้ ช.พ.ค.ถูกใช้ผิดประเภทพบพิรุธค่าตอบแทนโครงการเงินกู้ช.พ.ค.ถูกใช้ผิดประเภท

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 9 ราย เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567

ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 9 ราย เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567

เปิดอ่าน 4,347 ☕ 8 ต.ค. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
การคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ครั้งที่ 2 ปี พ.ศ. 2567
การคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ครั้งที่ 2 ปี พ.ศ. 2567
เปิดอ่าน 872 ☕ 5 พ.ย. 2567

แนวทางการจัดทำเกียรติบัตรการแข่งขันงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 72 ปีการศึกษา 2567
แนวทางการจัดทำเกียรติบัตรการแข่งขันงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 72 ปีการศึกษา 2567
เปิดอ่าน 764 ☕ 4 พ.ย. 2567

สพฐ.แจ้งผลการสมัครเข้าร่วมโครงการโรงเรียนอีโคสคูล ระดับต้น (Eco-School Beginner) รอบการสมัครปี 2567
สพฐ.แจ้งผลการสมัครเข้าร่วมโครงการโรงเรียนอีโคสคูล ระดับต้น (Eco-School Beginner) รอบการสมัครปี 2567
เปิดอ่าน 407 ☕ 4 พ.ย. 2567

ประกาศสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่อง รายชื่อศูนย์พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาของ สสวท.
ประกาศสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่อง รายชื่อศูนย์พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาของ สสวท.
เปิดอ่าน 455 ☕ 4 พ.ย. 2567

การดำเนินการได้มาซึ่ง อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา ปี พ.ศ. 2567
การดำเนินการได้มาซึ่ง อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา ปี พ.ศ. 2567
เปิดอ่าน 521 ☕ 4 พ.ย. 2567

สพฐ.มีคำสั่งย้ายและแต่งตั้ง รอง ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 101 ราย
สพฐ.มีคำสั่งย้ายและแต่งตั้ง รอง ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 101 ราย
เปิดอ่าน 4,899 ☕ 2 พ.ย. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ดาวน์โหลดเอกสารมาตรฐานห้องสมุดโรงเรียน ฉบับใหม่ ปี 2556
ดาวน์โหลดเอกสารมาตรฐานห้องสมุดโรงเรียน ฉบับใหม่ ปี 2556
เปิดอ่าน 27,354 ครั้ง

หลักเกณฑ์สอบศึกษานิเทศก์
หลักเกณฑ์สอบศึกษานิเทศก์
เปิดอ่าน 52,749 ครั้ง

เลี้ยง-เล่นอย่างสร้างสรรค์ “สมาธิสั้น” รับมือได้
เลี้ยง-เล่นอย่างสร้างสรรค์ “สมาธิสั้น” รับมือได้
เปิดอ่าน 55,264 ครั้ง

แบบเรียนที่ไม่ได้มีไว้เลียนแบบ : นิ้วกลม
แบบเรียนที่ไม่ได้มีไว้เลียนแบบ : นิ้วกลม
เปิดอ่าน 10,037 ครั้ง

ประโยชน์ของ เมล็ดดอกทานตะวัน
ประโยชน์ของ เมล็ดดอกทานตะวัน
เปิดอ่าน 21,652 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ