เรื่องที่ 1 เราจะไม่คุยกัน
มีพระอยู่ 4 รูป ตัดสินใจเข้ากรรมฐานอย่างอุกฤษฏ์ โดยตกลงกันว่าจะไม่พูดกันเป็นเวลาหนึ่งเดือน วันแรกผ่านไปด้วยดี แต่พอขึ้นวันที่สอง เมื่อได้ยินเสียงผิดปกติที่กุฏิ พระรูปที่หนึ่งก็พูดขึ้นว่า
"เอ... มีใครเข้าไปในกุฏิผมหรือเปล่า ไม่ได้ล็อกห้องไว้เสียด้วย"
พระรูปที่สองจึงกล่าวขึ้นว่า "ท่านนี่แย่จัง เราตกลงกันแล้วว่าจะไม่พูดกันในช่วงเข้ากรรมฐานไง นี่ผ่านไปไม่ถึงสองวันท่านก็เผลอพูดเสียแล้ว"
พระรูปที่สามก็เลยพูดขึ้นว่า "ท่านเองก็ว่าแต่เขา ตัวท่านเองก็เผลอพูดเหมือนกันนั่นแหละ"
พระรูปที่สี่ พอเห็นเหมือนพากันพูดกันหมด นั่งกระหยิ่มในใจว่ามีตนรูปเดียวที่ไม่ได้ จึงพูดขึ้นมาว่า
"ดูสิ พวกท่านไม่ได้เรื่องสักรูปเลย มีผมรูปเดียวที่ยังไม่ได้พูดอะไรเลย"
ให้ข้อคิด : การรู้จักมองกลับมาดูที่ตัวเอง ทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดี และที่สำคัญควรเรียนรู้ถึงคุณค่าของตัวเองในทางที่ดีงาม
เรื่องที่ 2 คนขี้ลืม
มีชายคนหนึ่งเป็นคนขี้ลืม ขี้ลืมจริงๆ เรื่องอะไรจำได้ประเดี๋ยวเดียวแล้วก็ลืมหมด
เขาจะจำอะไรไม่ได้เลย วันหนึ่งชายขี้ลืมคนนี้ถือมีดเข้าไปในป่าเพื่อจะไปตัดต้นไม้
มาทำฟืน เดินทางไปได้สักพักหนึ่งเกิดปวดอุจจาระ จึงเอามีดฟันติดกับต้นไม้ไว้
แล้วก็หาที่หลบไปถ่ายอุจจาระ พอถ่ายอุจจาระเสร็จก็เดินออกมา เห็นมีดเล่มหนึ่งอยู่ที่ต้นไม้
เขาลืมไปว่าเป็นมีดของตัวเอง เขาดีใจมากจึงรีบวิ่งไปคว้ามีดมาถือไว้
แล้วจับมีดชูขึ้นพลางเต้นไปรอบๆแล้วพูดว่า
" วันนี้โชคดีแต่เช้าเลย มีดของใครก็ไม่รู้ยังใหม่อยู่เลย
ลับเอาไว้คมกริบทีเดียว เจ้าของมีดนี่แย่มาก ของดีๆอย่างนี้มาลืมไว้ได้
อ้ายคนไม่รู้จักรักษาของ คนอย่างนี้ทำมาหากินอะไรมีแต่จะล่มจม "
เผอิญเขาเดินไปเหยียบเอาอุจจาระที่ตนเองถ่ายไว้เมื่อครู่นี้เข้า
ลืมว่าเป็นของตัวเอง จึงตะโกนด่าขึ้นว่า
อ้ายคนอุบาทว์ที่ไหนมาถ่ายไว้ได้ ที่ทั้งป่ากว้างใหญ่มาทำโสโครกเอาไว้ตรงนี้เอง
อ้ายมนุษย์อัปรีย์ "
" ขี้ลืมขนาดนี้มีในโลกด้วยเหรอ...แถมยังปากจัดอีกต่างหาก "
เรื่องที่ 3 นิทานพื้นเมืองเวียงจันทน์
อดีตกาลนานมา เวียงจันทน์กับไทยเป็นศัตรูกัน ไทยยกทัพไปตีเวียงจันทน์หลายครั้ง
แต่ก็ไม่ชนะสักทีทั้งที่มีกำลังมากกว่า เพราะเวียงจันทน์มีพระยานาคมาช่วยเหลือ คือเมื่อเจ้าเมืองตีกลองขึ้นพระยานาคก็จะโผล่ขึ้นมาจากน้ำพ่นพิษใส่ทหารไทยตายหมด
กษัตริย์ไทยทราบเรื่องจึงวางแผนให้เชียงเมี่ยง ที่เป็นคนฉลาดหลักแหลม
ปลอมเป็นหมอมอ(โหร,หมอดู) เข้าไปในเวียงจันทน์ เมื่อได้โอกาสเข้าพบเจ้าอนุวงศ์
เจ้าเมืองเวียงจันทน์ หมอมอทำนายว่าเจ้าอนุวงศ์จะได้รับมรดกที่เป็นเงินฝังไว้ที่ครกมอง (ครกกระเดื่องตำข้าว) เมื่อเจ้าอนุให้คนไปขุดดูก็ได้พบจริงๆ จึงทำให้เกิดความศรัทธาเชื่อถือในหมอมอคนนี้มากส่วนสาเหตุที่พบนั้น เนื่องจากเชียงเมี่ยงให้คนเอาไปฝังไว้ก่อนแล้ว
ต่อมาเชียงเมี่ยงให้คนทำว่าวติดธนู แล้วปล่อยขึ้นสูงมากจนมองไม่เห็น ได้ยินแต่เสียงธนู
เจ้าอนุวงศ์แปลกใจมากหาสาเหตุไม่ได้จึงให้เรียกหมอมอมาทำนายดู หมอมอปลอม(เชียงเมี่ยง)ก็ทำนายว่าจะมีเรื่องเดือดร้อนแก่บ้านเมือง เพราะเสียงนั้นคือภูตผีปีศาจที่ร้องโหยหวนจะลงมากินผู้คน พระราชาอนุวงศ์ ถามว่าจะมีวิธีแก้อย่างไร หมอมอปลอมบอกว่าจะต้องไปตัดลิ้นกลองใบนั้นและให้อุดรูพระยานาคเสีย เสียงนั้นก็จะหายไปและภูติผีปีศาจจะไม่ลงมากินผู้คน เจ้าอนุวงศ์หลงกลจึงให้คนทำตาม
ฝ่ายเชียงเมี่ยงก็ให้คนไปตัดสายว่าว เสียงนั้นก็หายไป จากนั้นเชียงเมี่ยงก็ให้สัญญาณ
ให้กองทัพของไทยเข้าตีเวียงจันทน์ เจ้าอนุให้คนไปตีกลองเพื่อให้พระยานาคมาช่วย แต่กลองก็ตีไม่ดังเพราะสิ้นลิ้นไปแล้ว ประกอบกับพระยานาคก็ถูกอุดรู พระยานาคจึงไม่ได้ขึ้นมาช่วยทำให้เวียงจันทน์ต้องแพ้แก่ไทย
เจ้าอนุวงศ์นั้นถูกฆ่าตาย แล้วเวียงจันทน์ก็ตกเป็นเมืองขึ้นของไทย
|