10 พ.ย.61 - กมว. เห็นชอบร่างมาตรฐานวิชาชีพครู เตรียม เสนอ เข้าบอร์ดคุรุสภา พิจารณา 30 พ.ย.นี้ "เอกชัย"เผยมรภ.และมหาวิทยาลัยเห็นชอบหลักสูตร 4 ปีแล้ว เตรียมลุยยกร่างมาตรฐานวิชาชีพของผู้บริหารสถานศึกษาและผู้บริหารการศึกษาต่อ คาดใช้เวลา 4 เดือน พร้อม มอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดราคาค่าต่อใบอนุญาตฯ ล่าช้า “เอกชัย” เผย ที่ผ่านมามีการปล่อยให้ครูที่ใบอนุญาตฯ หมดอายุสามารถดำเนินการสอนต่อได้
นายเอกชัย กี่สุขพันธ์ ประธานคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ในที่ประชุม กมว.ได้มีมติอนุมัติรายละเอียดของร่างมาตรฐานวิชาชีพครู 4 ด้าน ตามที่คณะอนุกรรมการพัฒนามาตรฐานวิชาชีพเสนอ คือ 1.ด้านค่านิยมและคุณลักษณะความเป็นครู จะมีรายละเอียด เช่น การเป็นพลเมืองที่เข็มแข็ง ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีมีคุณธรรมและจริยธรรม การสร้างแรงบันดาลใจ และพัฒนาผู้เรียน เป็นต้น 2.ความรู้และศาสตร์การสอน เช่น การรู้เท่าทันสังคม การรู้และเข้าใจเกี่ยวกับผู้เรียน และเข้าใจเกี่ยวกับหลักสูตร เป็นต้น 3.ด้านการปฏิบัติงานในหน้าที่ครู เช่น การพัฒนาหลักสูตรการจัดการเรียนรู้ สื่อและการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ การวางแผนและจัดการเรียน เป็นต้นและ 4.ด้านความสัมพันธ์กับผู้ปกครองและชุมชน เช่น การเข้าถึงบริบทชุมชน ความร่วมมือกับผู้ปกครองในการพัฒนาและแก้ปัญหาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ เป็นต้น โดยในวันที่ใน 30 พฤศจิกายนนี้ จะมีการเสนอมาตรฐานวิชาชีพครูใหม่เข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุคณะกรรมการคุรุสภาด้วย
“มาตรฐานวิชาชีพดังกล่าวเมื่อได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการคุรุสภาแล้ว จะใช้เป็นแนวให้สถาบันที่ผลิตครูนำไปจัดทำหลักสูตรการเรียนการสอน และผมทราบข้อมูลมาว่า ขณะนี้กลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) 38 แห่ง และมหาวิทยาลัยกลุ่มเก่าจำนวน 17 แห่ง เห็นด้วยกับการผลิตครู 4 ปีหมดแล้ว และทราบว่ามีมหาวิทยาลัยจะเริ่มหลักสูตรผลิตครู 4 ปีให้ทันภายในปีการศึกษา 2562 ดังนั้นกระบวนการจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ก็จะต้องนำมาตรฐานวิชาชีพไปเป็นแนวทางในการจัดทำมาตรฐานคุณวุฒิระดับปริญญาตรี สาขาครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ หลักสูตร 4 ปีด้วย“ ประธาน กมว.กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม จากนี้ทางคณะอนุกรรมการพัฒนามาตรฐานวิชาชีพ จะต้องดำเนินการยกร่างมาตรฐานวิชาชีพของผู้บริหารสถานศึกษาและผู้บริหารการศึกษา 3 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.ผู้บริหารสถานศึกษา 2.ผู้บริหารการศึกษา และ 3.ศึกษานิเทศก์ โดยจะต้องดำเนินการให้เร็วที่สุด คาดว่าน่าจะเสร็จภายใน 3-4 เดือนนี้ เพื่อที่จะให้สถาบันที่เปิดสอนปริญญาโทด้านการศึกษา สามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาหลักสูตรได้
นายเอกชัย กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ที่ประชุมยังได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณทางวิชาชีพ ทบทวนเรื่องของจรรยาบรรณทางวิชาชีพครูใหม่ เนื่องจากที่ผ่านมาจรรยาบรรณทางวิชาชีพครูมีการกำหนดเนื้อหาเยอะมาก ดังนั้นตนจึงเห็นว่าควรมีการปรับให้กระชับและมีความชัดเจน และทันยุคทันสมัย เช่น คนที่ทำหน้าที่ครูจะต้องไม่แสวงหาจากประโยชน์จากหน้าที่การงานไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม โดยไม่ต้องลงรายละเอียด และตัวอย่างพึงประสงค์ ไม่พึงประสงค์มาเป็นกรอบ เป็นต้น ซึ่งหากเขียนในลักษณะนี้ หากพบว่า ครูที่สอนเปิดกวดวิชาแล้วบังคับลูกศิษย์ไปเรียน และถูกผู้ปกครองร้องเรียนว่าสอนเด็กไม่เต็มที่ สามารถนำเข้าเรื่องนี้มาพิจารณาความผิดจรรยาบรรณในที่ประชุม กมว.ได้เลย หรือข้อกำหนดเกี่ยวกับพฤติกรรมที่เสื่อมเสียต่อวิชาชีพ และภาพลักษณ์ ซึ่งการระบุเท่านี้ถือว่าชัดเจน ดังนั้นหากพบถ้าครูเล่นไลน์ เฟซบุ๊กจีบนักเรียน หรือใช้ภาษาในเชิงชู้สาว ก็สามารถนำไปสู่การพิจารณาเรื่องจรรยาบรรณได้
“นอกจากนี้ที่ประชุมหารือถึงการต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู เนื่องจากขณะนี้มีประเด็นปัญหาเรื่องสถานศึกษาไม่ดำเนินการตรวจสอบว่าครูมีการต่อใบอนุญาตฯ หรือไม่ และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ก็จำเป็นจะต้องใช้ข้อมูลเรื่องนี้เพื่อที่จะแจ้งให้ทางโรงเรียนได้รับทราบ ซึ่งผมเข้าใจว่า สพท.อาจจะยังไม่มีระบบในการดำเนินการเรื่องนี้ และที่ผ่านมามีการปล่อยให้ครูที่ใบอนุญาตฯ หมดอายุสามารถดำเนินการสอนต่อได้ ดังนั้น กมว.จึงเห็นว่าควรมีมาตรการดำเนินการกับผู้ที่ไม่ต่อใบอนุญาตฯ เพราะที่ผ่านมาไม่มีการกำหนดเพดานขั้นต่ำของค่าต่อใบอนุญาตล่าช้า ดังนั้นที่ประชุมจึงมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดราคาเพดานขั้นสูงของค่าต่อใบอนุญาตล่าช้าและค่าดำเนินการให้ชัดเจนต่อไป” ประธาน กมว.กล่าว
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก ไทยโพสต์ วันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561