รมว.ศึกษาธิการ ยัน โครงการอบรมบูธแคมป์ ไม่ได้เป็นการบังคับครูเป็นสิทธิ์ของแต่ละคน ชี้ จดหมายต่อต้านโครงการเป็นการตัดต่อแจ้งความเอาผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์แล้ว
วันนี้ (17 ก.ย.) นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยถึงกรณีครูวิพากษ์วิจจารณ์ในโลกโซเชี่ยลว่าครูได้ทำหนังสือถึงผู้อำนวยการโรงเรียน เพื่อขอสละการเข้าอบรมโครงการอบรมพัฒนาครูแกนนำการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ (Boot Camp) เนื่องจากใช้ระยะเวลาการอบรมนานถึง 15 วันจนไม่มีเวลาจัดการเรียนการสอนให้เด็ก ว่า เรื่องดังกล่าวผมได้รับทราบแล้วและคิดว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร ซึ่งโครงการนี้เราไม่ได้บังคับ เพราะตนคงบังคับใครมาอบรมไม่ได้ โดยเป็นสิทธิ์ของแต่ละคน โดยโครงการบูธแคมป์กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ที่มีปรัชญาที่เริ่มดำเนินโครงการต่อเนื่อง ด้วยการพัฒนาความสามารถภาษาอังกฤษและเทคนิคการสอนของครูสอนภาษาอังกฤษ ด้วยการจัดค่ายภาษาอังกฤษแบบเข้ม (English Boot Camp) ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาในการอบรมทั้งทักษะภาษาและเทคนิคการสอน รวมทั้งจัดกิจกรรมและบริบทในการใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร โดยใช้วิทยากรชาวต่างประเทศที่เป็นเจ้าของภาษาที่มีความสามารถภาษาอังกฤษสูงและมีความสามารถในการใช้เทคนิคการสอนภาษอังกฤษ หรือจัดกิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษที่เป็นแม่แบบได้ รวมทั้งมีการประเมินทักษะภาษาอังกฤษ 4 ทักษะ ได้แก่ ทักษะการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน
"การอบรมเป็นสิทธิของแต่ละบุคคล ซึ่งแต่ละคนก็มีเหตุผลของตัวเอง และเท่าที่ทราบการแชร์ข้อมูลในโลกโซเชี่ยลเป็นการตัดต่อข้อความ เพราะครูที่เขียนจดหมายสละสิทธิ์ชี้แจงว่าที่ต้องสละสิทธิ์เพราะโรงเรียนไม่มีครูจัดการเรียนการสอนจึงไม่สามารถไปอบรมได้ ซึ่งก็ถือว่ายุติธรรมและเท่าที่ทราบก็มีครูจำนวนมากที่สละสิทธิ์ด้วยปัญหาลักษณะนี้ก็ไม่ได้ห้าม เพราะถือว่าครูรักเด็กยึดเด็กเป็นศูนย์กลางเป็นเรื่องที่ดี แต่ในรื่องนี้ผมพบประเด็นในจดหมายมีการตัดต่อข้อความลักษณะประชดประชันใช้ถ้อยคำไม่เหมาะต่อนโยบายนี้ เนื่องจากจดหมายฉบับจริงไม่มีข้อความลักษณธนี้ ซึ่งยังไม่รู้ว่าใครตัดต่อ โดยเท่าที่รับรายงานได้มีการไปแจ้งความไว้แล้วตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ยืนยันว่าโครงการบูธแคมป์ไม่ได้เป็นการบังคับครูเข้าอบรมแต่อย่างใด" รมว.ศึกษาธิการ
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 17 กันยายน 2561