"บุญรักษ์" เผย ประชุมซูปเปอร์บอร์ด นายกฯชมโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา สั่งขยายให้ครบกลุ่ม 18 สั่งจังหวัดตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ พร้อมเตรียมตั้ง ตั้งอ.ก.ค.ศ.โยกย้ายครู-ผู้บริหารรร.วัตถุประสงค์พิเศษ
วันนี้ (11 ก.ย.) นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ตนได้ประชุมคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาการศึกษา หรือซูปเปอร์บอร์ดการศึกษา ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่จะต้องนำมาขับเคลื่อน คือ โรงเรียนร่วมพัฒนา ((Partnership School) ซึ่งที่ประชุมชื่นชมการดำเนินการโครงการฯนี้ แต่นายกฯขอให้การดำเนินการเรื่องนี้ทำให้ครอบคลุมในกลุ่ม 18 จังหวัดตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีด้วย เพราะขณะนี้การดำเนินการโรงเรียนร่วมพัฒนามีโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 40 โรงเท่านั้น แต่ทั้งนี้สพฐ.จะมาดูว่าในกลุ่มโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการได้กระจายไปตามกลุ่มจังหวัดที่นายกฯต้องการแล้วหรือยัง นอกจากนี้ สพฐ.จะมีการปลดล็อคข้อกฎหมายเรื่ององค์ประกอบของสถานศึกษาให้แก่กลุ่มโรงเรียนร่วมพัฒนา ซึ่งขณะนี้ สพฐ.ได้ร่างกฎระเบียบการปลดล็อคไว้แล้วจากนั้นจะนำเสนอให้บอร์ด กพฐ.พิจารณาและประกาศใช้ต่อไป โดยการปลดล็อคครั้งนี้จะช่วยให้ภาคเอกชนที่เข้ามาสนับสนุนโรงเรียร่วมพัฒนาได้เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารในฐานะกรรมการ ซึ่งถือมีความสำคัญมาก เพราะกรรมการที่มีภาคเอกชนเข้าร่วมจะมีส่วนร่วมในการเห็นชอบงบประมาณ หลักสูตรสถานศึกษา และการเสนอแนะแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารและข้าราชการครู
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ สพฐ.จะให้มีองค์คณะบริหารบุคคล เป็น คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) ที่เข้ามาดูในเรื่องการโยกย้ายข้าราชการครูและผู้บริหารในกลุ่มโรงเรียนวัตถุประสงค์พิเศษโดยเฉพาะ เช่น โรงเรียนร่วมพัฒนา โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย เป็นต้น ซึ่งหลักเกณฑ์การโยกย้ายข้าราชการครูและผู้บริหารของกลุ่มโรงเรียนวัตถุประสงค์พิเศษนั้น จะต้องดำรงตำแหน่งครูหรือผู้บริหารอย่างน้อย 5 ปีไม่ใช่ย้ายมาแล้วก็ไป ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่ของการบริหารในกลุ่มโรงเรียนดังกล่าวต้องสะดุด เพราะครูและบริหารขอย้ายบ่อยๆ ทั้งนี้เกณฑ์ดังกล่าวจะเร่งทำให้เสร็จ เพื่อนำเข้าที่ประชุม ก.ค.ศ.พิจารณา และนำมาใช้กับการโยกย้ายผู้บริหารและครูของโรงเรียนจุฬาภรณ์ทันที
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก เดลินิวส์ วันอังคารที่ 11 กันยายน 2561