ก.ค.ศ.ลุ้นคำสั่งศาลปกครอง หลัง ผอ.โรงเรียนฟ้อง ว 24 ติงสพฐ.เปิดสอบต้องระวังหวั่น การย้ายยืดเยื้อ
วันนี้(6 ก.ย.)นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยความคืบหน้า กรณีกลุ่มผู้อำนวยการโรงเรียนยื่นฟ้องคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้ศาลพิจารณาเพิกถอนหลักเกณฑ์คุณสมบัติของผู้บริหารสถานศึกษาที่ประสงค์จะยื่นคำร้องขอย้าย ตามหนังสือที่ ศธ 0206.4/ว24 ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2560 ในข้อ 1.1 ที่กำหนดว่าผู้อำนวยการ หรือรองผู้อำนวยการสถานศึกษาจะต้องปฏิบัติงานในตำแหน่งดังกล่าวในสถานศึกษาปัจจุบันติดต่อกันไม่น้อยกว่า 24 เดือน นับถึงวันที่ 31 ตุลาคมของปีที่ยื่นคำร้องขอย้าย โดยให้เหตุผลว่าไม่เป็นธรรม และลิดรอนสิทธิของผู้บริหารสถานศึกษาบางกลุ่ม เพราะเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษาประจำปี 2559 ตาม ว 9 กำหนดให้จังหวัดต้องพิจารณาโยกย้ายให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 พฤศจิกายนของปีเดียวกัน หรือภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2559 ส่งผลให้ผู้บริหารสถานศึกษาที่ได้ยื่นคำร้อง และได้รับการโยกย้ายระหว่างวันที่ 1-30 พฤศจิกายน 2559 ตามหลักเกณฑ์ ว9 ขาดสิทธิที่จะยื่นคำร้องขอย้ายประจำปี 2561 ระหว่างวันที่ 1-15 สิงหาคม เพราะเมื่อนับระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งผู้บริหารในสถานศึกษาปัจจุบันจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2561 แล้วไม่ถึง 24 เดือน ขณะที่ถ้าสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ใดออกคำสั่งโยกย้ายแล้วเสร็จทันภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2559 อาทิ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) เขต 1 กรุงเทพฯ มีคำสั่งโยกย้ายวันที่ 28 ตุลาคม 2559 เป็ ต้น ผู้บริหารสถานศึกษาสังกัด สพม.กรุงเทพฯ จะไม่ขาดสิทธิที่จะยื่นคำร้องขอย้ายประจำปี 2561 เพราะนับระยะเวลาที่อยู่ในตำแหน่งผู้บริหารในสถานศึกษาปัจจุบันแล้วเกิน 24 เดือน ว่า จนถึงขณะนี้ศาลยังไม่ส่งเรื่องมาให้ก.ค.ศ.เขียนคำให้การแก้คำฟ้อง โดยขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ ส่วนการย้ายในรอบนี้ ก็ต้องเดินหน้าต่อไป
นายพินิจศักดิ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งเพราะหลักเกณฑ์การย้ายขณะนี้มีหลายฉบับ ดังนั้นถ้าเสร็จสิ้นกระบวนการย้ายและแก้ปัญหาเกี่ยวกับการฟ้องร้องครั้งนี้ได้ ก.ค.ศ. จะพิจารณานำเกณฑ์ต่าง ๆ ที่อยู่ในหลายฉบับมารวมไว้ในฉบับเดียวกัน และอะไรก็ตามที่เป็นข้อมูล ซึ่งสำนักงานก.ค.ศ.รับทราบระหว่างทาง และคิดว่าเป็นข้อมูลที่ควรจะปรับ ก็จะเสนอก.ค.ศ. พิจารณาต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังการย้ายเสร็จสิ้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สามารถจัดสอบคัดเลือกผู้บริหารสถานศึกษาได้หรือไม่ เพราะมีอัตราว่างอยู่ถึง 4 พันกว่าตำแหน่ง นายพินิจศักดิ์ กล่าวว่า ถ้าโดยความเห็นส่วนตัว คือ หลักเกณฑ์การสอบขณะนี้มีอยู่แล้ว ถ้าสพฐ.จะสอบก็สามารถทำได้ หรือถ้าจะปรับเกณฑ์การสรรหาใหม่ ก็ต้องเสนอให้ก.ค.ศ. พิจารณา แต่ช่วงนี้ถือว่าอิหลักอิเหลื่อ เพราะมีการฟ้องศาลอยู่ การดำเนินการอะไร ต้องระมัดระวัง หากศาลรับฟ้องหรือมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ก็ยิ่งทำให้กระบวนการย้ายล่าช้าออกไปอีก อย่างไรก็ตามเชื่อว่า ระดับนโยบายคงไม่ปล่อยให้ผู้บริหารว่างนาน คงต้องหาแนวทางอื่นเพื่อแก้ปัญหา
“วันนี้ตัวเกณฑ์ไม่ได้เป็นปัญหา ซึ่งตามเกณฑ์ ว24 ให้ดำเนินการย้ายให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ตุลาคม แต่เมื่อปี 2559 มีบาง กศจ. ดำเนินการแล้วเสร็จในช่วงเดือนพฤศจิกายน ทำให้ผู้บริหารบางรายขาดสิทธิในการย้ายปีนี้ เพราะกำหนดให้ต้องปฏิบัติหน้าที่ในสถานศึกษาเดิมเป็นเวลา 2 ปี ซึ่งบางคนขาดเพียง 3-4 วัน ซึ่งผมเองได้อธิบายให้ที่ประชุมคณะกรรมการก.ค.ศ. ครั้งที่ผ่านมา ได้เข้าใจแล้วว่า ไม่ได้มีปัญหาเรื่องเกณฑ์ แต่เมื่อมีการฟ้องเกิดขึ้น เราจะเดินหน้าก็ไม่ได้ ถอยหลังก็ไม่ได้ เพราะอาจทำให้มีผู้เสียสิทธิและมีการฟ้องร้องเกิดขึ้นอีก ”นายพินิจศักดิ์กล่าว
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก เดลินิวส์ วันพฤหัสบดีที่ 6 กันยายน 2561