ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ผลวิจัยนักวิชาการไม่เห็นด้วย100 %เด็กสอบเข้าป.1


ข่าวการศึกษา 7 ก.ย. 2561 เวลา 15:02 น. เปิดอ่าน : 9,668 ครั้ง
Advertisement


Advertisement

ผลวิจัยนักวิชาการไม่เห็นด้วย100 %เด็กสอบเข้าป.1

ครุศาสตร์ มสด.ร่วมกับสวนดุสิตโพล เปิดผลวิจัยสอบเข้าป.1 นักวิชาการไม่เห็นด้วย 100 %การสอบเข้า ชี้ส่งผลพัฒนาการเด็ก พบหลายโรงไม่ให้เด็กนอนกลางวันเอาเวลาไปติว กวดวิชาต่อปีเกิน1แสน แนะใช้วิธีหลากหลายคัดเด็กตามความเหมาะสม

วันนี้(6ก.ย.)ที่มหาวิทยาลัยสวนดุสิต(มสด.)ได้มีการแถลงข่าวการวิจัยเรื่อง ผลจากระบบการสอบคัดเลือกเข้าศึกษาต่อในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อตัวเด็ก ครอบครัว และโรงเรียน รวมทั้งหาแนวทางในการคัดเลือกเด็กเพื่อเข้าศึกษาต่อระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยผศ.ดร.ชนะศึก นิชานนท์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและพัฒนาการศึกษา มสด.ในฐานะหัวหน้าโครงการวิจัยผลจากระบบการสอบคัดเลือกฯ กล่าวว่า สถาบันการวิจัยและพัฒนา สาขาการศึกษาปฐมวัย คณะครุศาสตร์ และสวนดุสิตโพล ได้ศึกษาวิจัยเรื่องดังกล่าว โดยการสัมภาษณ์และแบบสอบถามในเชิงลึกและเชิงกว้าง กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยนักวิชการ ผู้บริหารโรงเรียน ครู ผู้ปกครองและเด็ก ผลวิจัยพบว่านักการศึกษาและผู้เชี่ยวชาญไม่เห็นด้วย 100 % กับการให้เด็กสอบเข้าป.1 ผู้บริหารโรงเรียน ไม่เห็นด้วย 75 % เห็นด้วย 25% ครูอนุบาลไม่เห็นด้วย 58 % เห็นด้วย 42 % และผู้ปกครองไม่เห็นด้วย 48.23 % เห็นด้วย 51.11% เหตุผลที่เห็นด้วยกับการสอบ คือเด็กได้ฝึกทักษะทางวิชาการ เพื่อเตรียมตัวสอบ การสอบทำให้โรงเรียนประถมศึกษาสามารถจัดเด็กที่มีความสามารถใกล้เคียงกันไว้ห้องเดียวกัน เด็กทุกคนมีโอกาสเท่าเทียมกันในการศึกษาต่อโรงเรียนที่มีชื่อเสียงและสามารถตรวจสอบได้ ส่วนเหตุผลที่ไม่เห็นด้วยกับการสอบคือ การสอบไม่สามารถประเมินความสามารถของเด็กได้ครอบคลุมทุกด้าน การสอบไม่สอดคล้องกับหลักการทางการศึกาปฐมวัย และการประเมินพัฒนาการของเด็กปฐมวัย เด็กเกิดความกดดันและความเครียด และเด็กไม่ได้รับการพัฒนาอย่างเหมาะสมตามวัย

ผศ.ดร.ชนะศึก กล่าวต่อไปว่า ส่วนระบบการสอบคัดเลือกเพื่อเข้าศึกษาต่อป.1 มีผลต่อตัวเด็ก 4 ด้านคือ ด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม-จิตใจ และสติปัญญา โดยนักวิชาการส่วนใหญ่เห็นว่าการสอบทำให้เด็กขาดโอกาสในการพัฒนาทางด้านร่างกาย และน่าตกใจโรงเรียนหลายแห่งไม่ให้เด็กนอนกลางวัน เพราะเอาเวลานอนไปติวให้แก่เด็ก เพื่อเตรียมตัวสอบเข้า ป.1 ส่วนผลต่อพัฒนาการด้านอารมณ์ คือเด็กเกิดความกดดัน เครียดสะสมบางคนถึงอาเจียน ทำให้ความสุขของเด็กลดลง กรณีที่เด็กสอบไม่ได้จะรู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถทำให้ผู้ปกครองดีใจ เกิดความผิดหวังเพราะถูกตัดสิทธิ์ตามข้อตกลงกับผู้ปกครอง และนำไปสู่การทำลายความมั่นใจของเด็ก ส่วนพัฒนาการด้านสังคม ผลเชิงบวกเด็กมีโอกาสรู้จักกับเพื่อนใหม่ ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ แต่เกิดผลเชิงลบ เด็กขาดโอกาสในการมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อน เพราะมุ่งเน้นฝึกทำข้อสอบ ปลูกฝังลักษณะนิสัยชอบเอาชนะ ด้านพัฒนาการสติปัญญา ผลเชิงลบ เด็กเรียนรู้แต่การท่องจำและฝึกทักษะทางวิชาการ ทำให้สมองของเด็กไม่ได้รับการพัฒนาอย่างถูกต้อง และเหมาะสมกับวัยของเด็ก

ผศ.ดร.ชนะศึก กล่าวอีกว่า ส่วนผลกระทบการสอบที่มีต่อครอบครัวคือ การใช้เวลาร่วมกันของครอบครัวลดลง ครอบครัวต้องเสียเงินเป็นจำนวนมากจ่ายค่าเรียนพิเศษ หรือการกวดวิชา บางครอบครัวเสียค่ากวดวิชา เพื่อเตรียมสอบเข้าเกิน 100,000 บาท ต่อปี ขณะที่ผลกระทบต่อโรงเรียนคือ โรงเรียนอนุบาล ต้องปรับรูปแบบการสอนโดยเพิ่มเนื้อหาวิชาการมากเกินไป โรงเรียนต้องเตรียมตัวเด็กโดยการจำลองสถานการณ์ในการสอบทำให้การทำกิจกรรมลดลง เพราะเป็นความต้องการของผู้ปกครอง ครูต้องเพิ่มหน้าที่ในการเตรียมตัวในการสอบให้กับเด็กทั้งในวันปกติและวันหยุด ส่วนโรงเรียนประถมศึกษาเด็กมีพฤติกรรมต่อต้านการเรียน เรียนรู้เพื่อทำข้อสอบ ไม่สามารถปรับประยุกต์ความรู้ที่เรียนเพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้

“สำหรับข้อเสนอและแนวทางในการคัดเลือกเด็กเข้าป.1 มีความหลากหลาย เช่น การประเมินพัฒนาการและสมรรถนะของเด็กตามวัย การรับเด็กในเขตพื้นที่บริการ/ใกล้บ้าน การจับฉลาก การสัมภาษณ์เด็ก การทดสอบ การสัมภาษณ์พ่อแม่ และผู้ปกครอง อย่างไรก็ตามในการคัดเลือกเด็กเข้าป.1นั้นยังไม่มีวิธีไหนที่ดีที่สุด โรงเรียนควรใช้วิธีที่หลากหลายในการคัดเลือกเด็กเข้าศึกษาต่อ และการใช้วิธีการทดสอบควรอยู่ในมาตรฐาน หรือเกณฑ์การพัฒนาตามความพร้อมในแต่ละช่วงวัย”ผศ.ดร.ชนะศึก กล่าว

ด้านรศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี อดีตผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า การสอบเกิดผลกระทบชัดเจนกับเด็ก โดยเฉพาะครอบครัวที่มีลูก 2 คน คือ ลูก 1 คนสอบติด แต่ลูกอีกคนสอบไม่ติด และจากประสบการณ์พบเด็กน่าสงสารมาก อายุ 3 ปี แต่เล่นไม่เป็น เนื่องจากพ่อแม่ไม่มีเวลาในการทำกิจกรรมร่วมกับลูก ทำให้เด็กเวลาไปเล่นกับเด็กคนอื่นจะเล่นแรงมาก เพราะไม่รู้ว่าควรจะเล่นขนาดไหน สุดท้ายเด็กเป็นจำเลย.


ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก เดลินิวส์ วันพฤหัสบดีที่ 6 กันยายน 2561

 

 

กำลังใจให้เด็กๆ ของขวัญวันเด็ก 🎁COD🎁ตุ๊กตายัดนุ่น รูปการ์ตูนอนิเมะ หมูน่ารัก ของขวัญวันเกิด ของเล่นสําหรับเด็ก ในราคา ฿48 - ฿149 ที่ Shopee

https://s.shopee.co.th/8zpN8YfPIq?share_channel_code=6


ผลวิจัยนักวิชาการไม่เห็นด้วย100 %เด็กสอบเข้าป.1ผลวิจัยนักวิชาการไม่เห็นด้วย100%เด็กสอบเข้าป.1

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

การกำหนดตำแหน่งและอัตราเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา ที่ว่างจากผลการเกษียณอายุราชการ เมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2567

การกำหนดตำแหน่งและอัตราเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา ที่ว่างจากผลการเกษียณอายุราชการ เมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2567

เปิดอ่าน 3,252 ☕ 11 ธ.ค. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
การซักซ้อมแนวทางปฏิบัติการดำเนินโครงการ "สุขาดี มีความสุข" และการรายงานโรงเรียนต้นแบบ "สุขาดี มีความสุข"
การซักซ้อมแนวทางปฏิบัติการดำเนินโครงการ "สุขาดี มีความสุข" และการรายงานโรงเรียนต้นแบบ "สุขาดี มีความสุข"
เปิดอ่าน 48 ☕ 13 ม.ค. 2568

พระบรมราโชวาท คติธรรม และ สารวันเด็ก เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568
พระบรมราโชวาท คติธรรม และ สารวันเด็ก เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568
เปิดอ่าน 438 ☕ 10 ม.ค. 2568

"วันครู" ปีนี้ "ศธ.จัดเต็ม" รับของขวัญจาก 11 หน่วยงาน ทั้ง ลดภาระ ส่งเสริม พัฒนา ฟรีเรียนออนไลน์
"วันครู" ปีนี้ "ศธ.จัดเต็ม" รับของขวัญจาก 11 หน่วยงาน ทั้ง ลดภาระ ส่งเสริม พัฒนา ฟรีเรียนออนไลน์
เปิดอ่าน 455 ☕ 10 ม.ค. 2568

อว.เตรียมผลิตครูพัฒนาท้องถิ่น เฟส 2 หลังเฟสแรกได้ครูรุ่นใหม่ ไฟแรง มีจิตวิญญาณ เก่ง ฉลาด แต่กว่าครึ่งมีจุดอ่อนด้านภาษา
อว.เตรียมผลิตครูพัฒนาท้องถิ่น เฟส 2 หลังเฟสแรกได้ครูรุ่นใหม่ ไฟแรง มีจิตวิญญาณ เก่ง ฉลาด แต่กว่าครึ่งมีจุดอ่อนด้านภาษา
เปิดอ่าน 410 ☕ 10 ม.ค. 2568

สพฐ.จัดโครงการส่งเสริมการมีรายได้ให้แก่นักเรียน (ทุนแลกงาน) ประจำปี 2568 ทำงานช่วงปิดเทอมคนละไม่เกิน 6 พันบาท 980 คนทั่วประเทศ
สพฐ.จัดโครงการส่งเสริมการมีรายได้ให้แก่นักเรียน (ทุนแลกงาน) ประจำปี 2568 ทำงานช่วงปิดเทอมคนละไม่เกิน 6 พันบาท 980 คนทั่วประเทศ
เปิดอ่าน 385 ☕ 10 ม.ค. 2568

คำขวัญวันเด็กแห่งชาติ ปี 2568
คำขวัญวันเด็กแห่งชาติ ปี 2568
เปิดอ่าน 842 ☕ 8 ม.ค. 2568

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เข้าใจธรรมชาติของเด็ก มิติใหม่ครูไทยยุคดิจิตอล
เข้าใจธรรมชาติของเด็ก มิติใหม่ครูไทยยุคดิจิตอล
เปิดอ่าน 10,355 ครั้ง

บัญชีเงินเดือนใหม่ 2 มกราคม 2552
บัญชีเงินเดือนใหม่ 2 มกราคม 2552
เปิดอ่าน 78,293 ครั้ง

กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการประเมินผลการปฏิบัติงานบุคลากร
กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการประเมินผลการปฏิบัติงานบุคลากร
เปิดอ่าน 4,770 ครั้ง

ปฏิรูปการศึกษา ปฏิรูปอะไร ? โดย ดร. วิชัย พยัคฆโส
ปฏิรูปการศึกษา ปฏิรูปอะไร ? โดย ดร. วิชัย พยัคฆโส
เปิดอ่าน 13,743 ครั้ง

7 วิธีกินผักแบบไม่ขาดสารอาหาร รับเทศกาลเจ
7 วิธีกินผักแบบไม่ขาดสารอาหาร รับเทศกาลเจ
เปิดอ่าน 12,238 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ