รมว.ศึกษาธิการ ถก การจัดทำระบบบิ๊กดาต้าวางระบบพัฒนาระบบการศึกษาไทย เตรียม ผุด ระบบแผนที่โรงเรียนคล้ายกูเกิลแม็ป คลิกเดียวรู้ข้อมูลโรงเรียนทั่วประเทศ
วันนี้ (29 ส.ค.) นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า เมื่อเร็ๆวนี้ตนได้หารือร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) และ มหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน (Carnegie Mellon University) สาขาประเทศไทย รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในการจัดทำระบบบิ๊กดาต้า หรือ ฐานข้อมูลด้านเทคโนโลยีทางการศึกษา โดยตนต้องการให้หน่วยงานทั้งสองแห่งที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเข้ามาช่วยวางแผนในการจัดทำฐานข้อมูลบิ๊กดาต้าให้แก่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ซึ่งการจัดทำฐานข้อมูลดังกล่าวจะอยู่ในรูปแบบเหมือนแผนที่กูเกิลแม็ปที่เราจะสามารถค้นหาข้อมูลสถานที่การเดินทางต่างๆได้ทันที โดยเราจะสร้างแผนที่โรงเรียนหรือกูเกิลแม็ปโรงเรียนขึ้นเมื่ออยู่ในห้องคอนโทรลจากหน่วยงานส่วนกลางสามารถคลิกข้อมูลโรงเรียนต่างๆได้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นอัตราส่วนครูต่อนักเรียนจำนวนเท่าไหร่ โรงเรียนมีครูและนักเรียนกี่คน หรือโรงเรียนในพื้นที่ไหนมีระบบบริหารจัดการที่ยังด้อยประสิทธิภาพ และรายชื่อครูและผู้บริหารโรงเรียน ซึ่งแผนที่โรงเรียนนี้จะคีย์ข้อมูลบอกได้ทันที ดังนั้นไม่ว่าศธ.จะคลิกข้อมูลที่โรงเรียนไหนก็จะขึ้นข้อมูลต่างๆเหล่านี้มาทั้งหมด
"ที่ผ่านมาธนาคารโลกได้มีข้อมูลงานวิจัยออกมาตลอดว่า กว่า 30 ปีที่ผ่านมาการบริหารจัดการโรงเรียนศธ.ยังไม่เคยทำให้เกิดประสิทธิภาพได้ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาโรงเรียนขนาดเล็ก ดังนั้นจากข้อมูลของธนาคารโลกทำให้ผมจะต้องเร่งวางแผนแก้ปัญหาด้วยการใช้ฐานข้อมูลบิ๊กดาต้านี้มาทำให้เกิดประโยชน์ต่อระบบการศึกษามากที่สุด ทั้งนี้ผมจะเริ่มดำเนินการเรื่องนี้ทันที โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณเหลือจ่ายด้านเทคโนโลยีของ สพฐ. หรือหากไม่พอก็อาจจะแบ่งการดำเนินการเป็นเฟสๆก็ได้ ส่วนงบประมาณจะใช้จำนวนเท่าไหร่นั้นยังไม่สามารถบอกได้ แต่หากจำเป็นต้องใช้เงินมากเราก็ต้องใช้ เพื่อให้การจัดทำบิ๊กดาต้าเรื่องการศึกษาเกิดขึ้นเป็นขั้นตอนอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้เราจะเริ่มวางระบบข้อมูลบิ๊กดาต้าให้แล้วเสร็จให้ได้ภายใน 1 ปี โดย สจล.จะส่งนักศึกษาออกสำรวจปูพรมถ่ายภาพข้อมูลโรงเรียน ซึ่งผมขอให้มีการขยายการทำข้อมูลนี้ไปยังโรงเรียนเอกชน และวิทยาลัยอาชีวศึกษาด้วย " นพ.ธีระเกียรติ กล่าว
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก เดลินิวส์ วันพุธที่ 29 สิงหาคม 2561