รมว.ศึกษาธิการ แจง เสนอรายชื่อโยกย้ายข้าราชการระดับ 10ศธ.เข้าครม.ไม่ทัน คาดสัปดาห์เสนอพิจารณาแน่ ยัน รายชื่อข้าราชการแต่ละคนที่ได้รับการสรรหาแล้วไม่ได้มีปัญหาอะไร
วันนี้ (28 ส.ค.) นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ตามที่ตนจะเสนอรายชื่อโยกย้ายข้าราชการระดับ 10 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 28 ส.ค.ล็อตแรกก่อนที่ขยับกันเองระหว่างระดับ 10 ด้วยกันจำนวน 4-5 ราย ซึ่งรายชื่อข้าราชการระดับ 10 ที่จะนำเข้า ครม.พิจารณาก็เป็นไปตามที่นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัด ศธ.ประชุมพิจารณาสรรหาร่วมกับผู้บริหารองค์กรหลักศธ.ทั้งหมด รวมถึงรายชื่อส่วนหนึ่งก็มีตนร่วมคัดเลือกกับ รมช.ศึกษาธิการด้วยนั้น ที่ประชุม ครม.ไม่ได้มีการพิจารณาแต่อย่างใด ซึ่งคิดว่าจะนำรายชื่อเข้าพิจารณาในการประชุม ครม.ได้อีกครั้งในวันที่ 4 ก.ย.แทน โดยสาเหตุที่ ครม.ยังไม่ได้พิจารณารายชื่อโยกย้ายข้าราชการของศธ.นั้น เนื่องจากตนส่งรายชื่อล่าช้าอีกทั้งที่ประชุม ครม.ก็มีการพิจารณาโยกย้ายข้าราชการระดับสูงหลายกระทรวงส่งผลให้การพิจารณารายชื่อโยกย้ายข้าราชการศธ.ไม่ทัน ทั้งนี้ยืนยันว่ารายชื่อโยกย้ายข้าราชการศธ.ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด
ด้านนายชลำ อรรถธรรม รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) ในฐานะโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ในการประชุมผู้บริหารระดับสูงของ ศธ.ที่มี พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงษ์ รมช.ศึกษาธิการ เป็นประธาน เมื่อเร็วๆนี้ นั้น ที่ประชุมได้แจ้งให้ทุกองค์กรหลักฯเร่งจัดทำแผนปฎิบัติราชการของปีงบประมาณ 2562 ให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 1 ต.ค. โดยแผนดังกล่าวจะต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับแผนแม่บทและแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของรัฐบาล ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวได้มอบหมายให้สำนักงานปลัด ศธ. เป็นเจ้าภาพหลักในการรวบรวมและติดตามข้อมูลภาพรวมเรื่องนี้ทั้งหมด เพื่อให้แผนดังกล่าวปฎิบัติการได้ทันตามกำหนดระยะเวลา นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้แจ้งเรื่องการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายด้านการกีฬา ที่มี ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ซึ่งผลการประชุมดังกล่าวมีข้อสรุปว่ารัฐบาลมีความต้องการให้นโยบายด้านการกีฬามีความเด่นชัดมากขึ้นจึงมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทบทวนงานด้านกีฬาให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดยในส่วนของศธ.นั้นเราได้รับมอบหมายใน 3 เรื่อง ได้แก่ 1.ให้สำนักงานปลัด ศธ.เป็นเจ้าภาพหลักในการดำเนินการให้มีการจัดการเรียนการสอนและกิจกรรมกีฬากับนักเรียนทุกสังกัด 2.จะมีการทำบันทึกความร่วมมือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อสนับสนุนสื่ออุปกรณ์การเรียนการสอนด้านกีฬาและบุคลากรให้แก่โรงเรียน และ3.ให้สถานศึกษาทุกสังกัดสำรวจพื้นที่ในการสนับสนุนเรื่องการกีฬาและการออกกำลังกาย เพื่อบริการให้แก่ประชาชน เช่น การทำพื้นที่ลานจอดรถโรงเรียนมาทำลานออกกำลังกาย เป็นต้น
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก เดลินิวส์ วันอังคารที่ 28 สิงหาคม 2561