สถานี ก.ค.ศ. (6 ส.ค. 61)
สรุปผลการรับฟังความคิดเห็นเบื้องต้นต่อร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ....
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และผู้สนใจทุกท่าน ตามที่สำนักงาน ก.ค.ศ. ได้จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. .... ในพื้นที่ 4 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคกลาง (กรุงเทพมหานครและปริมณฑล) ภาคเหนือ (จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดพิษณุโลก) ภาคใต้ (จังหวัดสงขลา) และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (จังหวัดขอนแก่น) รวม 5 ครั้ง นั้น ในการนี้ สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้ดำเนินการสรุปผลภาพรวมของการรับฟังความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ดังนี้
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จัดขึ้นเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2561 มีผู้เข้าร่วมจำนวน 132 คน มีผู้แสดงความคิดเห็นด้วยวาจา 15 คน และตอบแบบรับฟัง 29 คน ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับร่างพระราชบัญญัติ โดยเห็นว่าทำให้เพิ่มประสิทธิภาพ ทำงานได้คล่องตัว เป็นการกระจายอำนาจ ทั้งนี้ มีข้อเสนอแนะว่าควรมีผู้แทนครูในองค์คณะ มีสัดส่วนผู้แทนครูที่เหมาะสม มี อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา และมีหลักเกณฑ์การคัดเลือกกรรมการที่เป็นธรรม
จังหวัดเชียงใหม่ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2561 มีผู้เข้าร่วมจำนวน 134 คน ตอบแบบรับฟัง 31 คน ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับร่างพระราชบัญญัติ โดยเห็นว่าทำให้การทำงานคล่องตัว ทำงานได้เร็ว เป็นการลดขั้นตอน ทั้งนี้ อยากให้มี อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา มีผู้แทนครูในสัดส่วนที่เหมาะสม และมีการกำหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือกกรรมการที่เป็นธรรม
จังหวัดพิษณุโลก จัดขึ้นเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2561 มีผู้เข้าร่วมจำนวน 75 คน มีผู้แสดงความคิดเห็นด้วยวาจา 3 คน และตอบแบบรับฟัง 67 คน ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับร่างพระราชบัญญัติ โดยเห็นว่าเป็นการกระจายอำนาจ ทำให้ทำงานได้รวดเร็ว คล่องตัว ทั้งนี้ อยากให้มี อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา มีผู้แทนครูในสัดส่วนที่เหมาะสม มีหลักเกณฑ์การคัดเลือกกรรมการที่เป็นธรรม นอกจากนี้ ยังเห็นว่าอาจมีความซ้ำซ้อนในการทำงานระหว่าง อ.ก.ค.ศ. ส่วนราชการ และ อ.ก.ค.ศ. จังหวัด
จังหวัดสงขลา จัดขึ้นเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2561 มีผู้เข้าร่วมจำนวน 104 คน มีผู้แสดงความคิดเห็นด้วยวาจา 11 คน และตอบแบบรับฟัง 89 คน ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับร่างพระราชบัญญัติ โดยเห็นว่าเป็นการลดขั้นตอนการทำงาน ทำให้ทำงานได้รวดเร็วขึ้น เป็นการกำหนดนโยบายให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งนี้ อยากให้มีผู้แทนครู ผู้แทนที่มาจากสายสอน และเห็นว่าผู้ว่าราชการจังหวัดไม่ควรเป็นประธาน ควรระบุเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดหรือผู้แทน และไม่ควรมีผู้แทนสำนักงาน ก.ค.ศ. ในแต่ละจังหวัด
จังหวัดขอนแก่น จัดขึ้นเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2561 มีผู้เข้าร่วมจำนวน 128 คน มีผู้แสดงความคิดเห็นด้วยวาจา 15 คน และตอบแบบรับฟัง 96 คน ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับร่างพระราชบัญญัติ เนื่องจากเป็นการกระจายอำนาจ
ทำให้ทำงานได้รวดเร็ว มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น มีองค์กรทำหน้าที่กำหนดนโยบายกลาง ทั้งนี้ เห็นว่าควรมีผู้แทนครู และผู้แทนหน่วยงานทางการศึกษาที่เกี่ยวข้องในสัดส่วนที่เหมาะสม และผู้ว่าราชการจังหวัดไม่ควรเป็นประธาน ควรระบุเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดหรือผู้แทน และควรกำหนดวิทยฐานะและเงินประจำตำแหน่งให้กับบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) ด้วย
ผลการรับฟังความคิดเห็นที่กล่าวมาข้างต้นนี้ เป็นข้อมูลเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น โดยสำนักงาน ก.ค.ศ. ได้จัดให้มีช่องทางรับฟังความคิดเห็นหลายช่องทาง ทั้งการยื่นความคิดเห็นเป็นลายลักษณ์อักษรด้วยตนเองที่สำนักงาน ก.ค.ศ. การแสดงความคิดเห็นทางโทรสาร อีเมล และเว็บไซต์ ซึ่งได้สิ้นสุดระยะเวลาการรับฟังความคิดเห็นไปแล้ว เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ สำนักงาน ก.ค.ศ. จะได้สรุปผลการรับฟังความคิดเห็นจากทุกช่องทาง และวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นอย่างรอบด้าน เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติ โดยจะได้เสนอ ก.ค.ศ. ให้ความเห็นชอบ แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
พินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์
เลขาธิการ ก.ค.ศ.
เผยแพร่ทางคอลัมน์ “สถานี ก.ค.ศ.” หนังสือพิมพ์มติชนฉบับวันที่ 6 สิงหาคม 2561
ที่มา สำนักงาน ก.ค.ศ. วันพฤหัสบดีที่ 9 สิงหาคม 2561