“หมอธี” ถก ธนาคารออมสิน ร่วมกับ สกสค. บรรลุข้อตกลงสำคัญธนาคารออมสินคืนเงินให้สกสค.แล้ว 2,000 ล้านบาท พร้อมทำประชีวิตของผู้กู้เงินในโครงการช.พ.ค. หาบริษัทประกันอื่นๆ นอกเหนือจากของธนาคารออมสิน เพื่อเป็นข้อเสนอที่ดีและช่วยเหลือผู้กู้ ซึ่งผู้กู้สามารถเลือกได้ตามความต้องการ
วันนี้ (6 ส.ค.) นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ร่วมกับ นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ว่า ที่ประชุมได้หารือในประเด็นหลักๆที่สรุปเป็นข้อตกลงสำคัญ คือ กรณีที่ธนาคารออมสินดำเนินการหักเงินจากบัญชีกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคง ตามโครงการสวัสดิการเงินกู้การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) โครงการ 2-7 จำนวน 0.5-1% เป็นเงินกว่า 10,000 ล้านบาทในกรณีที่หักเงินไปไม่เป็นธรรมตามที่สกสค.ร้องเรียนนั้น ขณะนี้ธนาคารออมสินได้ชำระเงินจำนวนดังกล่าวคืนแล้ว จำนวน 2,000 ล้านบาทโดยเป็นเงินจากผู้กู้ที่มาชำระหนี้ แต่กรณีที่ธนาคารออมสินทำตามขั้นตอนและยังไม่จ่ายเงินคืนออมสินก็จะมีการทวงหนี้ตามปกติต่อไป
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า สำหรับครูที่เป็นหนี้วิกฤต จำนวน 4,000 คน ที่ทางธนาคารออมสินได้ดำเนินการฟ้องร้องนั้น ตอนนี้มีผู้มาประนีประนอม ปรับโครงสร้างหนี้แล้ว จำนวน 1,500 คน ส่วนที่เหลือทางธนาคารออมสินได้เปิดโอกาสให้สามารถมาประนีประนอมหนี้ปรับโครงสร้างหนี้ได้ ส่วนเรื่องกองทุนเงิน ช.พ.ค. หากเสียชีวิตแล้วทำไมต้องชดใช้เงินคืนให้แก่ทางธนาคารออมสินแทนที่ลูกหลานจะได้รับเงินดังกล่าวนั้นธนาคารออมสินมีความประสงค์มานานแล้ว และพร้อมที่จะให้เปลี่ยนเป็นหลักทรัพย์ประกันอย่างอื่นให้ โดยอาจจะไม่หักเงินจากช .พ.ค. และในเรื่องการทำประชีวิตของผู้กู้เงินในโครงการดังกล่าว ซึ่งจะมีครูบางส่วนที่ทำประกันชีวิตครบตามสัญญาแล้วนั้น ทางธนาคารออมสิน จะไปหาบริษัทประกันอื่นๆ นอกเหนือจากของธนาคารออมสิน เพื่อเป็นข้อเสนอที่ดีและช่วยเหลือผู้กู้ ซึ่งผู้กู้สามารถเลือกได้ตามความต้องการ
ด้านนายชาติชาย กล่าวว่า การฟ้องร้องผู้กู้วิกฤต จำนวน 4000 กว่าคนนั้น ทางธนาคารได้มีการฟ้องร้องมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันแล้ว ไม่ใช่พึ่งมีกรณีดังกล่าวถึงได้ดำเนินการฟ้องร้อง เพราะเป็นไปตามกลไกของกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ทางธนาคารออมสิน จะมีการฟ้องร้องประมาณ 4,000 กว่าคน แต่ขณะนี้มีครูที่สามารถมาชำระหนี้และปิดบัญชี 178 คน และอีกส่วนได้เข้ามาประนีประนอม และปรับโครงสร้างหนี้ กลายเป็นผู้กู้หนี้ปกติ 1,375 คน รวมแล้วขณะนี้ มีผู้ที่ไม่ได้ถือว่าอยู่ในกระบวนการฟ้องร้อง ประมาณ 1,553 คน เพราะถือว่าได้มีการประนีประนอม ปรับโครงสร้างหนี้กันแล้ว ส่วนที่เหลือ ประมาณ 2000 กว่าคนนั้น ทางธนาคารออมสินยังเปิดให้ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ อยากเชิญชวนให้ทุกคนเข้าร่วมตามกระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ของธนาคาร เพื่อจะได้ไม่ต้องถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย รวมถึงผู้ที่เป็นหนี้ปกติ หากไม่สามารถผ่อนชำระไหว หรือมีปัญหาในการผ่อนชำระหนี้ก็สามารถมาขอประนีประนอมหนี้ ปรับโครงสร้างได้เช่นเดียวกัน ส่วนกรณีการเปลี่ยนหลักประกันในการกู้เงิน ช.พ.ค.นั้น เรื่องนี้ทางธนาคารได้มีการดำเนินการให้สามารถปรับเปลี่ยนหลักประกันได้ตลอดเวลา ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค.2561 ซึ่งหากผู้กู้หนี้ ช.พ.ค. อยากปรับเปลี่ยนหลักประกันก็สามารถดำเนินการได้
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม 2561 เวลา 16.03 น.