นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ที่ปรึกษา รมว.วัฒนธรรม กล่าวในงานประชุมสัมมนานานาชาติ ด้านการอ่านเขียนเรียนรู้ยุคดิจิทัล ว่า ประเทศไทยต้องปรับวิธีคิดการทำงานของส่วนราชการให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่เข้ามาแทนที่ และให้สอดคล้องกับการปฏิรูปประเทศ ซึ่งมีแนวทางให้ปรับการบริหารฐานข้อมูลให้เป็นดิจิทัลทั้งหมดภายในระยะเวลา 5 ปี ไม่ใช่เฉพาะเรื่องการเรียนการอ่านเท่านั้น แต่รวมไปถึงการทำงานเชิงนโยบาย การติดต่อสื่อสาร บันทึกสั่งการ การเก็บข้อมูล ซึ่งเห็นได้ว่าในวันนี้เด็กที่เกิดมาใหม่ในช่วงอายุ 6 ปีขึ้นไป สามารถเรียนรู้จากโทรทัศน์ ใช้คอมพิวเตอร์เป็น ใช้ดิจิทัลเป็น ไม่อ่านหนังสือเป็นเล่ม ไม่จำเป็นต้องเข้าห้องสมุด ก็สามารถดึงหัวข้อมาค้นหาในอินเตอร์เน็ตได้ และได้ข้อมูลที่ครบถ้วนเช่นกัน ดังนั้นระบบการเรียนการสอนเป็นเรื่องใหญ่ที่พ่อแม่จะต้องตามการเรียนรู้ของบุตรหลานให้ทัน เมื่อสังคมเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงในด้านการรับรู้ข่าวสารข้อมูล หากทุกกระทรวงไม่ปรับระบบการทำงาน ยังทำงานด้วยวิธีเดิม ก็จะจมอยู่กับความล้าหลัง
ผศ.บรรเจิด จงอภิรัตนกุล นายกสมาคมการอ่านเขียนเรียนรู้แห่งประเทศไทย กล่าวว่า คนไทยใช้เครื่องมือสื่อสารที่เป็นเทคโนโลยีอันดับต้นๆ ของโลก จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหาวิธีการทำให้การใช้สื่อดังกล่าวมีประสิทธิภาพ เกิดการเรียนในทางที่ถูกต้องเหมาะสมให้มากที่สุดด้วยการอ่าน ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์กับการทำงานและการดำรงชีวิต ครูจะต้องปรับการเรียนการสอน ต้องฟังสิ่งที่เด็กคิด เพื่อให้เด็กรู้จักที่จะคิดและวิเคราะห์เป็น ทั้งนี้ ยุคดิจิทัล การคิดวิเคราะห์เป็นสิ่งสำคัญมาก หากเราคิดวิเคราะห์เป็นบวกกับการอ่านมากๆ ก็จะมีข้อมูลเพียงพอที่จะนำมากลั่นกรองและคิดวิเคราะห์ได้ว่าข้อมูลหรือสิ่งต่างๆ ที่มีการเผยแพร่อยู่เป็นจำนวนมากในยุคดิจิทัลโดยเฉพาะที่ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ จะแยกแยะได้ว่าเรื่องไหนเป็นอย่างไร ก็จะไม่ตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงผ่านช่องทางเทคโนโลยีต่างๆการรู้จักกลั่นกรองเนื้อหาเป็นสิ่งที่จะต้องสอนให้เด็กรู้จักการคิดได้ด้วยตนเอง.
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก ไทยรัฐ วันที่ 26 พฤษภาคม 2561