โยน กอปศ.ทำรายละเอียดเสนอ
ตามที่คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา (กอปศ.) ได้ทำการวิจัยพบว่างบประมาณด้านการศึกษาถูกใช้ไปกับเงินเดือนครูและในจำนวนครู 400,000 คน ได้รับค่าวิทยฐานะในกลุ่มชำนาญการพิเศษคิดเป็นร้อยละ 53 เพื่อที่จะสร้างแรงจูงใจให้ครูในการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนที่ดี แต่เมื่อดูจากผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาแล้ว กลับไม่คุ้มค่ากับการลงทุน จึงต้องมีการทบทวนดูว่าระบบการจัดสรรงบประมาณในลักษณะนี้เป็นไปในทิศทางที่เหมาะสมหรือไม่นั้น
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า เรื่องวิทยฐานะถือเป็นเรื่องใหญ่ ต้องถามความเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายและเรื่องนี้ก็ต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ว่าจะดำเนินการอย่างไรก่อน ส่วนตัวตนมองว่าอาจจะไม่ต้องมีการเร่งรัดให้ดำเนินการ เพราะถือว่าไม่ใช่เรื่องที่สำคัญที่สุด แต่หากจะดำเนินการก็จะต้องนำกฎหมายมาใช้ คือมาตรา 55 ในพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ระบุว่าให้มีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะสําหรับตำแหน่งที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเป็นระยะๆ เพื่อดำรงไว้ซึ่งความรู้ ความสามารถ ความชำนาญการ หรือความเชี่ยวชาญในตำแหน่งและวิทยฐานะที่ได้รับการบรรจุและแต่งตั้ง ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ.กำหนด ไม่ใช่จะไปรื้อ หรือลดเงินในทันที ตนขอให้ กอปศ.ทำข้อเสนอในเรื่องดังกล่าวมาที่ตนก่อน และหากจะนำมาตรา 55 มาใช้ก็จะต้องมีระบบที่ดีในการคงไว้ซึ่งวิทยฐานะ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทาง ก.ค.ศ.เองก็พยายามที่จะดำเนินการในส่วนนี้อยู่เช่นกัน
“เรื่องการคงวิทยฐานะมีการพูดกันมานานแล้ว แต่ผมยังไม่ได้นำมาหารือในรายละเอียด ส่วนที่สังคมเป็นกังวลว่าครูที่ได้รับวิทยฐานะในกลุ่มชำนาญการพิเศษมาจากการจ้างทำผลงานนั้น ผมได้วางระบบเกณฑ์การพิจารณาการเลื่อนวิทยฐานะของครูใหม่แล้ว ซึ่งในระดับ 2 ขั้นแรก คือ ครู ค.ศ.1 และครู ค.ศ.2 อาจจะไม่ต้องใช้ผลงานเพื่อเลื่อนวิทยฐานะเลย อย่างไรก็ตามเมื่อ กอปศ.มีแนวคิดที่อยากจะทบทวนงบฯที่จะนำมาใช้ในเรื่องวิทยฐานะ ผมก็อยากให้ กอปศ.ทำข้อเสนอที่มีรายละเอียดต่างๆมาให้ด้วย เพื่อที่จะหาแนวทางการดำเนินการต่อไป” รมว.ศธ.กล่าว.
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก ไทยรัฐ วันที่ 27 เมษายน 2561