สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ส่งร่างกฏหมายตั้งกระทรวงอุดมฯกลับให้ ศธ.ขอความเห็นผู้เกี่ยวข้อง “หมอธี”ย้ำกระทรวงใหม่ไม่เพิ่มงบฯ-คน ชี้เลขาธิการกกอ.นั่งปลัดกระทรวงอุดม
วันนี้( 23 เม.ย.)นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบโครงสร้างระบบราชการ ศธ. ได้หารือเกี่ยวกับการจัดตั้งกระทรวงการอุดมศึกษา เนื่องจากที่ผ่านมาตนได้ส่งร่างพ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวงทบวงกรม ร่างพ.ร.บ.บริหารราชการกระทรวงการอุดมศึกษา และร่างพ.ร.บ.การอุดมศึกษา ให้ทางสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี พิจารณา และเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับโครงสร้างระบบราชการ จึงส่งเรื่องกลับให้ศธ.มไปขอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ของศธ. สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงบประมาณ และ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นต้น ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบหลักการจัดตั้งกระทรวงการอุดมศึกษา และเห็นว่ากระทรวงใหม่จะไม่ของบประมาณและคนเพิ่มด้วย
“เมื่อกระทรวงการอุดมศึกษาเกิดขึ้น ตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.)ในปัจจุบันก็จะต้องปรับไปเป็นตำแหน่งปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา ตรงนี้อาจต้องไปกำหนดไว้ในบทเฉพาะกาล อย่างไรก็ตามเชื่อว่าเรื่องนี้คนในสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) จะไม่ต่อต้าน และไม่ควรต่อต้านด้วย เพราะไม่มีการเพิ่มหรือลดบุคลากรลง แต่จะต้องถ่ายโอนไปอยู่กับกระทรวงใหม่” นพ.ธีระเกียรติ กล่าว
ด้านศ.นพ.อุดม คชินทร รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า การขอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องครั้งนี้ ถือว่าเป็นไปตามขั้นตอน จากนี้จะสรุปความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และส่งเรื่องให้ทางก.พ.ร. ซึ่งมีรศ.ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการก.พ.ร. เร่งดำเนินการ คาดว่าไม่เกิน 2 สัปดาห์ จากนั้นก็น่าจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.) หากครม.เห็นชอบจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ( สชน. )รคาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 7 เดือนทุกอย่างน่าจะเรียบร้อย
“กระทรวงการอุดมศึกษาจะรัฐมนตรีเพียงคนเดียว มีสำนักงานปลัด ที่มีสถานะเป็นกรม มีปลัดกระทรวง เป็นซี 11 เพียงคนเดียว ส่วนหน่วยงานอื่น ๆ เป็นมีสถานะเป็นสำนัก ส่วนมหาวิทยาลัยที่ยังเป็นส่วนราชการ เช่น มหาวิทยาลัยราชภัฎ (มรภ.) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) และมหาวิทยาลัยรัฐอีกส่วนหนึ่ง โดยหลักการมีสถานะเทียบเท่ากรมอยู่แล้ว ส่วนมหาวิทยาลัยในกำกับรัฐหรือมหาวิทยาลัยนอกระบบ ซึ่งมีกฎหมายเป็นของตัวเอง ก็ไม่ได้เกี่ยวข้อง โครงสร้างภายในส่วนใหญ่ ของสกอ.เราไม่ได้ปรับ เพียงแต่อาจจะมีการเปลี่ยนชื่อและปรับพันธกิจให้สอดคล้องกับการทำงานของกระทรวงการอุดมศึกษา”ศ.นพ.อุดมกล่าว
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 23 เมษายน 2561