รมว.ศึกษาธิการ ย้ำแนวทางปฎิรูปการศึกษา ชูมหา’ลัยจอนแก่น แบบอย่างการปฎิรูปการศึกศาที่เห็นเป็นรูปธรรมจากการจัดโครงการ เปิดงาน Smart Learning Expo นวัตกรรมการศึกษา
วันนี้ (23 เม.ย) ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น (KICE) มหาวิทยาลัยขอนแก่น นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวบรรยายพิเศษตอนหนึ่งหัวข้อ “การปฏิรูปการศึกษา การปฏิรูปการเรียนรู้ เพื่อมุ่งสู่วิสัยทัศน์ THAILAND 4.0" ในงาน Smart Learning Expo ครั้งที่ 1 ว่า การปฎิรูปการศึกษาจะประสบความสำเร็จได้ต้องเกิดความร่วมมือจากหน่วยงานทุกภาคส่วนไม่ใช่ต่างคนต่างทำ ซึ่งการปฎิรูปการศึกษาไม่ใช่เรื่องของจินตนาการหรือการปรับโครงสร้างแต่การปฎิรูปการศึกษาควรเป็นการนำข้อผิดพลาดของการศึกษาว่าอยู่ตรงจุดไหนแล้วมาช่วยกันแก้ไข และการปฎิรูปการศึกษาจะต้องทำในสิ่งที่ทำได้ไม่ใช่คิดแผนงานกันแบบลอยๆเหมือนนามธรรมจับต้องไม่ได้ ซึ่งที่สำคัญเมื่อปฎิรูปการศึกษาแล้วเราจะต้องมีการวัดและประเมินผลด้วยว่าสิ่งที่เราดำเนินการมาถูกทิศทางจนสามารถยกระดับคุณภาพการศึกษาได้หรือไม่ ทั้งนี้ที่ผ่านมาการปฎิรูปการศึกษาของโลกก็เกิดวิกฤตเช่นกัน แต่การแก้ปัญหาของประเทศต่างๆจะต้องนำหน่วยงานภายนอกเข้ามาช่วยกระตุ้น โดยเฉพาะโครงการประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ (พิซา) มาช่วยวัดทักษะและจัดลำดับคุณภาพการศึกษาของแต่ละโรงเรียนให้ ซึ่งศธ.ก็มีการทำเช่นนั้นควบคู่ไปกับการปฎิรูปการศึกษาจากภายในศธ.ไปด้วย เพราะการปฎิรูปการศึกษาจะต้องทำให้ประชาชนเห็นการเปลี่ยนแปลงว่าลูกหลานเข้าสู่ระบบการเรียนแล้วมีความสุขในห้องเรียนหรือไม่
“ที่ผ่านมาการปฎิรูปการศึกษาของเรามีแต่โครงการต่างๆและคำสั่งที่มาจากส่วนกลาง ดังนั้นเราจะใช้ขอนแก่นเป็นโมเดลสำคัญของการปฎิรูปการศึกษา เพราะมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้จัดโครงการ KKU Smart Learning ขึ้น ซึ่งถือโครงการพัฒนาสมรรถนะนักเรียนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นการจัดห้องเรียนเทคโนโลยี เนื้อหาหลักสูตรแบบออนไลน์ คู่มือการจัดการเรียนสำหรับครู นำร่องระดับมัธยมศึกษาใน 3 วิชา ได้แก่ วิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ ซึ่งผมขอให้เพิ่มวิชาภาษาไทยเข้าไปด้วย ทั้งนี้ผมจะให้มีการขยายโครงการนี้ไปยังโรงเรียนมัธยมศึกษาระดับอื่นๆที่ด้อยโอกาส และในอนาคตจะต้องยกระดับไปทุกระดับชั้น ให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค ซึ่งมหาวิทยาลัยอื่นๆควรนำไปศึกษา เพื่อพัฒนาให้เหมาะสมตามตามสภาพของโรงเรียนในแต่ละพื้นที่ด้วย ซึ่งถือว่ามหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นแบบอย่างของการปฎิรูปการศึกษามี่เป็นรูปธรรม เพราะนี่คือศาตร์แห่งการยกระดับคุณภาพการศึกษาที่หลากหลายคณะในมหาวิทยาลัยช่วยกันทำ ดังนั้นเราไม่จำเป็นจะต้องยึดติดกับคณะศึกษาศาตร์เพียงอย่างเดียว” รมว.ศึกษาธิการ กล่าว
ด้าน รศ.ดร.กิตติชัย. ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) กล่าวว่า มข. โดยฝ่ายวิจัยและการถ่ายทอดเทคโนโลยี และโครงการพัฒนาสมรรถนะนักเรียนระดับมัธยมศึกษาด้วยนวัตกรรม KKU Smart Learning ได้จัดงาน Smart Learning Expo ครั้งที่ 1 มหกรรมการเรียนรู้แบบสมาร์ท ครั้งแรกของประเทศไทย ซึ่งโครงการ KKU Smart Learning เริ่มต้นในปี 2560 เน้นการถ่ายทอดนวัตกรรมการเรียนการสอนที่เกิดจากการวิจัยของ อาจารย์มข.สู่การใช้จริงในพื้นที่ ซึ่งเน้นการพัฒนาความรู้นักเรียนในวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และส่งเสริมทักษะนวัตกรรมและการเรียนรู้ ทักษะด้านสื่อ สารสนเทศและเทคโนโลยี รวมทั้งทักษะด้านชีวิตและอาชีพ ทั้งนี้ หลักสำคัญของ KKU Smart Learning คือ ในการนำไปสู่สมรรถนะที่คาดหวัง ผู้เรียนจะต้องได้รับความรู้ในเนื้อหาของหลักสูตรในระดับชั้นที่เรียน ได้รับการพัฒนาทักษะการเรียนรู้โดยผ่านกระบวนการเรียนการสอนที่ส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ การเรียนรู้ด้วยตนเองผ่านสื่อและเทคโนโลยี และชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เหมาะสมสอดคล้องกับเนื้อหา และสอดคล้องกับโปรแกรมการวัดสมรรถนะของพิซ่า ซึ่งเป็นจุดเด่นของ KKU Smart Learning ที่ช่วยให้ก้าวข้ามข้อจำกัดในด้านการเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ ห้องปฏิบัติการ ห้องทดลอง โดยสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้แบบเสมือนจริง
นายกิตติชัย กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบัน มข.กำหนดดำเนินการโครงการ KKU Smart Learning ระยะเวลา 3 ปี โดยในปีแรก ปีการศึกษา 2560 มีเป้าหมายดำเนินงานเป็นชั้นม.1 ใน 45 โรงเรียน เขตจังหวัดขอนแก่น ร้อยเอ็ด มหาสารคาม และกาฬสินธุ์ มีครูเข้าร่วมโครงการ 270 คน และนักเรียนจำนวน 6,000 คน ปีการศึกษา 2561 ขยายโครงการครบคลุม 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ 195 โรงเรียน นักเรียน 31,200 คน และจนครบเป้าหมายโครงการจะมีครูเข้าร่วมโครงการ 4,050 คน นักเรียน 81,000 คน โดย มข.ได้มีการลงนามความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) เขต 19-33
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 23 เมษายน 2561