เมื่อวันที่ 17 เมษายน นายรัชชัยย์ ศรสุวรรณ นายกสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงกรณีที่นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) มีแนวคิดที่จะให้ศึกษานิเทศก์ (ศน.) มีสิทธิสอบคัดเลือกเป็นผู้บริหารสถานศึกษา และจะรีบดำเนินการให้มีการสอบบรรจุบุคคลเพื่อเป็นผู้บริหารสถานศึกษาโดยเร็วควบคู่ไปกับการพิจารณาย้ายผู้บริหารสถานศึกษานั้นว่า เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าวเพราะโรงเรียนจะได้ผู้บริหารที่มีความเป็นนักวิชาการในการขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษาของโรงเรียน ในอดีตศึกษานิเทศก์สายมัธยมศึกษามีบทบาทมากในการช่วยผู้อำนวยการโรงเรียนในการบริหารจัดการด้านวิชาการ หากเปิดโอกาสให้ศึกษานิเทศก์มีสิทธิในการเข้าสู่ตำแหน่งผู้บริหารโรงเรียนได้ ก็จะเป็นการสร้างแรงจูงใจให้บุคคลที่มีความรู้ความสามารถทางวิชาการมาเป็นศึกษานิเทศก์มากยิ่งขึ้น
นายรัชชัยย์ กล่าวต่อว่า สำหรับการย้ายผู้บริหารสถานศึกษาครั้งนี้ คงต้องนำเกณฑ์ ว24 มาใช้ในการย้ายเสียก่อน เพราะคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ได้ประกาศใช้เกณฑ์ ว24 และมีการดำเนินการไปแล้ว เพียงแต่ศาลปกครองอุบลราชธานีมีคำสั่งให้ชะลอการย้ายเท่านั้น เมื่อศาลปกครองสูงสุดไม่เห็นพ้องกับศาลปกครองอุบลราชธานี ก็ต้องนำหลักเกณฑ์การย้ายตาม ว24 มาใช้เช่นเดิม ทั้งนี้ การย้ายผู้บริหารโรงเรียนครั้งนี้คงต้องดำเนินการให้มีการกันจำนวนอัตราว่างที่จะใช้รับย้ายในสัดส่วนที่เท่ากับจำนวนการเรียกบรรจุผู้สอบขึ้นบัญชีได้ แม้ขณะนี้จะไม่มีการขึ้นบัญชีผู้สอบได้ แต่เจตนารมณ์ของกฎหมายประสงค์ให้กันจำนวนอัตราว่างไว้
"การไม่มีการสอบบรรจุบุคคลขึ้นบัญชีไว้ เป็นความรับผิดชอบของ ก.ค.ศ.ที่ต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อนที่จะมีการย้าย หากไม่มีการกันอัตราว่างไว้ก็จะทำให้บรรดารองผู้อำนวยการโรงเรียนที่มีสิทธิสมัครสอบ อาจเห็นว่า ก.ค.ศ.ไม่ดำเนินการตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย หากมีการฟ้องร้อง ก็จะเกิดความวุ่นวายไม่รู้จบ" นายรัชชัยย์กล่าว
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก มติชน ฉบับวันที่ 19 เม.ย. 2561 (กรอบบ่าย)