บุญรักษ์ ชี้ก.ค.ศ.ใช้ว.24 ได้เลยไม่ต้องทำเกณฑ์ใหม่ พร้อมประชุม 18 เม.ย.นี้ กำหนดปฏิทินย้ายผู้บริหารสถานศึกษาให้เสร็จภายในเดือนพ.ค.นี้ ขอปรับเกณฑ์คัดเลือกผู้อำนวยการสถานศึกษาให้ศึกษานิเทศก์ได้มีโอกาสสอบ
วันนี้(16 เม.ย.) ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) กล่าวว่า ตามที่ศาลปกครองสูงสุด ได้กลับคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้นเกี่ยวกับการทุเลาบังคับใช้ ว.24/2560 เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จึงทำให้คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) สามารถใช้ ว.24ได้เลยโดยไม่ต้องทำหลักเกณฑ์ใหม่ นั้น ทราบว่าในการประชุม ก.ค.ศ.วันที่ 18 เม.ย.นี้ จะมีการกำหนดปฏิทินการย้ายผู้บริหารสถานศึกษาให้แล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม 2561 นอกจากนี้ สพฐ.จะขอปรับปรุงหลักเกณฑ์การคัดเลือกผู้อำนวยการสถานศึกษา ที่จะมีขึ้นในเดือนเมษายนนี้ เช่น ให้โอกาสศึกษานิเทศก์ ได้มีโอกาสสอบ ให้โอกาสผู้สอบผ่านขึ้นบัญชีไว้ 2 ปี จากเดิมที่ไม่มีการขึ้นบัญชีไว้ เป็นต้น
"หาก ก.ค.ศ. ไม่เห็นด้วยปรับปรุงหลักเกณฑ์การคัดเลือกผู้อำนวยการสถานศึกษาก็จะต้องใช้หลักเกรฑ์เดิม แต่ถ้าเห็นด้วยก็จะใช้หลักเกณฑ์ใหม่คัดเลือกผู้บริหารสถานศึกษาทันที โดยจะมีการประกาศสอบคัดเลือกผู้บริหารสถานศึกษาคู่ขนานไปกับการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อให้มีผู้บริหารสถานศึกษาทุกแห่งโดยเร็วที่สุด เนื่องจากขณะนี้ สพฐ.มีความเดือดร้อนกับเรื่องนี้มาก ทั้งนี้ ได้มีผู้ใหญ่ในบ้านเมื่องท่านหนึ่งได้แนะนำให้ สพฐ. ร่วมมือกับศาลปกครอง และมหาวิทยาลัย ทำการวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดจากการไม่มีการย้ายผู้บริหารมาหลายเดือน ว่า มีผลกระทบอะไรบ้าง ซึ่งเท่าที่ผมมองแบบคร่าวๆ ที่กระทบแน่ๆ คือ กระทบคุณภาพการศึกษาในทางอ้อม เพราะเราใช้บุคลากรผิดหน้าที่ให้ครูไปทำหน้าที่ผู้บริหาร เรื่องขวัญกำลังใจกระทบสูงสุด คนไม่กล้าดำเนินงาน โดยเฉพาะเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง เพราะถ้าผิดพลาดจะมีการลงโทษรุนแรง " เลขาธิการ กพฐ.กล่าว.
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 16 เมษายน 2561