>>ปัญหาว่าเมื่อไหร่คุณควรจะดูฮวงจุ้ย เป็นประเด็นที่จะต้องพิจารณาและสังเกตจากปัญหาของการทำธุรกิจและความสัมพันธ์ของครอบครัว ปกติต้นเหตุของปัญหาอาจจะเกิดจากการบริหารงานหรือการตัดสินใจที่ผิดพลาดที่สามารถทบทวนและแก้ไขได้ ถ้าสาเหตุไม่ได้เกิดจากเรื่องของดวงคนและดวงบ้าน
คนเราแต่ละคน จะมีวันเดือนปีและเวลาเกิด เป็นตัวกำหนดโชคชะตาที่แตกต่างกันออกไป ทำให้การเงิน ชื่อเสียง ความสำเร็จ ความสุขสบายที่ได้รับไม่เท่ากัน เนื่องจากคนเราทุกคนจะมีดวงที่ขึ้นลงในแต่ละช่วง แต่ละปี บางคนอาจมีจังหวะชีวิตที่ดีนาน บางคนอาจจะต้องตกอับก่อนจึงจะดีขึ้น จะเป็นไปตามจังหวะอายุบนแผนที่ชีวิตที่ปรากฏบนใบหน้า ( ลักษณะโหงวเฮ้ง ) เดี๋ยวดี-เดี๋ยวร้าย ตามทฤษฎีหยิน-หยาง เวลาคนเราเข้าเคราะห์ปัญหาอุปสรรค คดีความ ความเครียด เรื่องเสียเงิน ปัญหาความขัดแย้งทางธุรกิจหรือการมีปากเสียงของคนในครอบครัว ที่อาจเกิดจากการเข้าเคราะห์ที่ซ้อนเคราะห์ของทั้งสองฝ่าย เรื่องสุขภาพ เป็นต้น อาจจะผ่านเข้ามา แต่จะอยู่ในช่วงประมาณ 1 ปีครึ่งเท่านั้น คือ ก่อนวันเกิดตัวเอง 3 เดือน และหลังจากวันเกิดไปแล้ว 3 เดือน หลังจากนั้นปัญหาทุกอย่างจะคลี่คลายไปในทางที่ดี ซึ่งถือเป็นเรื่องของดวงคน
แต่ถ้าเป็นเรื่องของดวงบ้าน ก็จะเป็นปัญหาที่เราหรือท่านคาดไม่ถึง เพราะคนมีดวงคน บ้านก็จะมีดวงของบ้าน ดวงบ้านจะมีการเปลี่ยนแปลงทุก 20 ปี ตามยุคของฮวงจุ้ย เช่น ยุคที่ 7 พ.ศ. 2527-2546 ยุคที่ 8 พ.ศ. 2547-2566 ยุคที่ 9 พ.ศ. 2567-2586 ทิศทางของบ้าน สำนักงาน โรงงาน อาจจะเคยดีอยู่ในยุคหนึ่ง ช่วยเสริมให้การประกอบธุรกิจประสบผลสำเร็จได้ง่ายและเร็วขึ้น ทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ ทุกอย่างเป็นไปโดยราบรื่น แม้แต่ความสัมพันธ์ที่ดีของครอบครัว แต่เมื่อผ่านยุคของฮวงจุ้ยจากยุคหนึ่งเข้าสู่อีกยุคหนึ่ง ธุรกิจที่ทำ ผู้บริหารหรือทีมงานก็ยังหมือนเดิม แต่สิ่งที่เปลี่ยนไป คือดวงของบ้าน จากที่เคยมีดวงกลับกลายเป็นไม่มีดวงหนุน การทำงานอาจจะไม่ราบรื่นเหมือนเก่า เกิดความวุ่นวายภายใน มีอุปสรรคและปัญหาหนัก ๆ มารอให้แก้ไขมากขึ้น ขยันมุมานะแทบตาย แต่กลับไม่มีเงินเก็บ โชคก็ขึ้น ๆ ลง ๆ หาความแน่นอนไม่ได้ ยิ่งทำหนี้ยิ่งเพิ่ม ในที่สุดอาจดึงให้การค้าล้มเหลวหรือล้มละลาย โดยที่หาสาเหตุเป็นรูปธรรมไม่ได้
>>ถ้าพื้นฐานดวงคนดี และบ้านหรือสำนักงานมีดวง จะส่งผลให้ธุรกิจนั้นๆ สามารถจริญรุ่งเรืองได้ต็มที่ หากดวงคนตก แต่บ้านหรือสำนักงานมีดวง ก็ยังมีอิทธิพลช่วยฉุด ช่วยประคอง ลดอุปสรรคให้น้อยลง หรือมีทางออกให้บ้าง แต่ถ้าหากดวงคนตก และบ้านหรือสำนักงาน ไม่มีดวงหรือติดลบ ก็จะยิ่งดึงให้ทุกอย่างตกต่ำลงไปอีก ความล้มเหลวและปัญหาเลวร้ายก็จะเกิดตามมา
>>ราศีของคนจะเป็นตัวหนึ่งที่บ่งบอกถึงความสำเร็จ โชคลาภ และสุขภาพที่ใกล้จะเกิดขึ้นได้ในอนาคต ราศีที่หมองคล้ำ ซีดเซียว ที่ฝังอยู่ใต้ผิวหนังจะเป็นสิ่งเตือนให้ทราบว่าลุขภาพจะมีปัญหา จะเสียเงินหรือจะมีเรื่องอะไรหนัก ๆ ที่คาดไม่ถึง เหมือนกับท้องฟ้าที่มืดครึ้มจะเป็นลางบอกเหตุให้ทราบว่า จะเกิดฝนตกหนักหรือกำลังจะเกิดพายุขึ้น ดังนั้นราศีที่เปลี่ยนไปมักจะมีผลมาจากความเครียดในเรื่องการเงิน สุขภาพ ปัญหาครอบครัว บนพื้นฐานของฮวงจุ้ยที่เปลี่ยนไป อาทิเช่น
1. มีปัญหาสุขภาพบ่อยครั้ง เรื้อรัง ไม่หายขาด เกิดโรคร้ายรุมเร้า
2. ปัญหาสุขภาพภายในช่องท้อง ตับไต ลำไส้ มดลูก ฯ
3. นอนไม่หลับ ไม่อิ่ม อารมณ์และจิตใจที่มักแปรปรวน
4. ความคิด การแก้ปัญหา มักผิดพลาด มีปัญหาปากเสียงและความขัดแย้งอยู่บ่อย ๆในสามี-ภริยา ครอบครัวแตกร้าว ไม่มีบุตร หรือมีบุตรยาก รวมทึงการแท้งบุตร
5. เกิดเรื่องร้ายแรง คดีความ อุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง แก่สมาชิกในครอบครัว
ปัญหาจากเรื่องของดวงคนและดวงบ้าน ถือเป็นข้อสังเกตที่ควรสนใจ และแม้การแก้ปัญหาด้วยหลักคุณธรรมจะถือว่าเป็นทางออกที่ดี แต่วิชาฮวงจุ้ยก็ถือเป็นเครื่องทุ่นแรงชิ้นหนึ่งที่สามารถก่อให้เกิดความแตกต่างระหว่างชีวิตที่มีความสุข ความเจริญรุ่งเรือง มีอนาคต กับชีวิตที่ตกอับ ไร้ความสุขและอาจเต็มไปด้วยปัญหาได้ .
..............
รู้ไว้ไม่เสียหาย หาใช่สิ่งโง่งมงาย แต่หากเป็นกุศโลบาย ช่วยในการดำเนินชีวิต
ที่มาของข้อมูล...http://horoscope.sanook.com/fengshui/fengshui_01685.php ขอบคุณครับ