สำรวจ24ระเบียบ ศธ.ควรปรับปรุง พร้อมเปิดรับฟังความเห็นผู้เกี่ยวข้อง
ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ ได้มอบหมายให้สักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ไปตรวจสอบระเบียบต่าง ๆ ของกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ว่าระเบียบไหนที่ไม่ได้ใช้ และระเบียบไหนที่ต้องแก้ไข ซึ่งขณะนี้ สพฐ.ได้ไปดูระเบียบทั้งหมดแล้ว และได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดอย่างรอบด้านแล้ว โดยได้มีการแบ่งระเบียบออกเป็น 2 กลุ่มคือ
กลุ่มที่ 1 ระเบียบที่ใช้ได้ แต่ควรมีการปรับปรุงหรือแก้ไขมี 5 เรื่อง ได้แก่ 1.ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการจัดตั้ง รวม หรือเลิกสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2550 2.หนังสือสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ นร 0206/ว107 ลงวันที่ 8 ก.ค.2542 เรื่อง หลักเกณฑ์การอยู่เวรรักษาการณ์ 3.หนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ.ที่ ศธ.0206.6/ว16 ลงวันที่ 26 พ.ย.2557 เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็น หรือมีเหตุพิเศษ 4.การจัดเวรรักษาราชการประจำสถานที่ 4.1 หนังสือกรมเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ น.ว.292/2495 ลงวันที่ 26 เม.ย. 2495 4.2 หนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ นร 0201/ว 103 ลงวันที่ 4 มิ.ย.2528 และ 5.การประเมินตามองค์ประกอบการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรตำแหน่งครูสังกัด สพฐ.(กรณีปกติ) พ.ศ.2561
กลุ่มที่ 2 ระเบียบที่ใช้อยู่แล้วแต่ยุ่งยากทำให้การทำงานหรือการบริหารติดขัดมี 19 เรื่อง ได้แก่ 1.พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 98 วรรคสี่ 2.คำสั่ง คสช.ที่ 19/2560 ที่เกี่ยวข้องกับผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 ข้อ 13 3.หนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ.ที่ ศธ 0206.4/ว24 ลงวันที่ 31 ก.ค.2560 เรื่องย้ายผู้บริหารสังกัด สพฐ. 4.พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 มาตรา 53 5.ระเบียบการบริหารงานบุคคล
6.แนวปฏิบัติในการสรรหาลูกจ้างชั่วคราว(ครูผู้สอน)และพี่เลี้ยงเด็กพิการ 7.แนวปฏิบัติการขอลูกจ้างชั่วคราว(ครูผู้สอน)จากเงินนอกงบประมาณ 8.กระบวนการออกคำสั่งที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานบุคคล เมื่อผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดแล้ว ควรมอบให้ สพท.เป็นผู้ดำเนินการออกคำสั่ง 9.นโยบายแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการรับนักเรียนสังกัดสพฐ. 10.การรักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน มาตรา 68 ภายใต้บังคับกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ ถ้าตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งใดว่างลง หรือผู้ดำรงตำแหน่งไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ราชการได้ ให้ผู้มีอำนาจมาตรา 53 สั่งให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ไปรักษาราชการในตำแหน่งนั้นได้
11.การบรรจุแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 12.แนวปฏิบัติการขอมีและเลื่อนวิทยฐานะ 13.การสรรหาข้าราชการครู 14.การบริหารอัตรากำลังของข้าราชการครู 15.การลาออกจากราชการ 16.คำสั่ง คสช.ที่ 19/2560 ข้อ 13 การบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัด หรือกรุงเทพมหานคร มาตรา 53 (3) และ (4) แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดย พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่2) พ.ศ.2551 ให้ศึกษาธิการจังหวัดโดยความเห็นชอบของ กศจ.เป็นผู้มีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้ง 17.แนวปฏิบัติตามหนังสือสำนักงานก.ค.ศ.ที่ ศธ 0206.9/ว18 ลว 26 มิ.ย.2560 วางแนวปฏิบัติตามนัยคำสั่ง คสช.ควรให้การแต่งตั้งผู้รักษาการในตำแหน่งฯ เป็นไปตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 มาตรา 68 18.กฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการอุทธรณ์และการพิจารณาอุทธรณ์ พ.ศ.2550 ข้อ 4 การอุทธรณ์คำสั่งลงโทษทางวินัยให้อุทธรณ์ได้สำหรับตนเองเท่านั้น จะยื่นอุทธรณ์แทนผู้อื่น หรือมอบหมายให้ผู้อื่นอุทธรณ์แทนไม่ได้และ 19.การแยกกลุ่มงานวินัยและนิติการ ออกจากกลุ่มบริหารงานบุคคล
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อไปว่า สพฐ.จะรายงานข้อมูลเบื้องต้นต่อ รมว.ศึกษาธิการ ขณะเดียวกันก็ได้นำประเด็นเหล่านี้ไปขอรับฟังความคิดเห็นกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องว่า ระเบียบติดขัดตรงไหนและควรแก้ไขอย่างไร จากนั้นจะตั้งคณะทำงานมาร่างข้อเสนอแนะในการแก้ระเบียบอย่างเป็นทางการ และเสนอหน่วยงานมีอำนาจแก้ไขต่อไป
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก สยามรัฐออนไลน์ 28 มีนาคม 2561