ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมบทความการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

มารู้จัก ทุน"เสมาพัฒนาชีวิต"กันเถอะ


บทความการศึกษา 19 มี.ค. 2561 เวลา 03:30 น. เปิดอ่าน : 10,883 ครั้ง
Advertisement


Advertisement

มารู้จัก ทุน"เสมาพัฒนาชีวิต"กันเถอะ

ช่วงหนึ่งถึงสองสัปดาห์มานี้ ข่าวกรณีการทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ด้วยวงเงินที่ตรวจสอบพบเบื้องต้น 88 ล้านบาท ถือเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจอย่างมากที่เกิดขึ้นแก่วงการศึกษา เพราะกองทุนเสมาพัฒนาชีวิตเป็นกองทุนที่ก่อตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อช่วยเหลือและมอบโอกาสทางการศึกษาแก่เด็กหญิงที่อยู่ในภาวะยากลำบาก

หลังจากเป็นข่าวดังขึ้นมา ดร.อาทร จันทวิมล อดีตรองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ผู้ผลักดันให้เกิดเป็นกองทุนเพื่อเด็กหญิงด้อยโอกาสทางการศึกษา ถึงกับบอกว่า พอทราบเรื่องมาก่อนบ้างแล้ว ก็พยายามสืบด้วยตัวเองอยู่ เพราะทางโรงเรียนสอบถามมาว่ายังไม่ได้รับเงิน พอเป็นข่าวขึ้นมาก็รู้สึกตกใจมาก ไม่คิดว่าจะกล้าทำกันขนาดนี้ เพราะรู้ทั้งรู้ว่ากองทุนนี้ตั้งขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์อะไร และตอนที่ตั้งกองทุนก็ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาบริหาร และพิจารณาอนุมัติเงินทุน โดยมีปลัดกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธาน มั่นใจว่ามาตรการวางไว้อย่างรัดกุมแล้ว แต่ก็ยังมีช่องให้ยักยอก ทุจริตกันได้อีก

ถึงตอนนี้เรื่องคดีความ คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย แต่เรามาฟังที่มาของการตั้งกองทุนเสมาพัฒนาชีวิตจากผู้ก่อการดีกันดีกว่า .... ดร.อาทร เล่าว่า ตอนนั้น เป็นรองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้รับมอบหมายให้ดูแลฝ่ายกิจการพิเศษ ซึ่งในสมัยนั้นรัฐบาล “ชวนหลีกภัย” ได้ประกาศนโยบายแก้ปัญหาเอดส์ และปัญหาเด็กในธุรกิจทางเพศ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการขณะนั้นต้องเข้าไปร่วมในการรณรงค์แก้ปัญหาดังกล่าว กระทรวงศึกษาธิการจึงต้องลงไปศึกษาหาข้อมูลก่อน โดยไปที่หน่วยงานราชการบางหน่วย และลงไปที่จังหวัดทางภาคเหนือ 2จังหวัด โดยจัดสัมมนาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนทำให้ทราบว่า ปัจจัยที่ทำให้เด็กหญิงต้องเข้าไปอยู่ในวังวนอาชีพธุรกิจทางเพศ มาจาก4 ปัจจัยหลัก คือ 1.พ่อแม่หย้าร้าง มีพ่อเลี้ยง แม่เลี้ยง 2.พ่อ/แม่ตาย หรือ ติดคุก หรือมีหนี้สินมาก 3.มีคนในครอบครัวเคยอยู่ในธุรกิจทางเพศและ 4.คนในชุมชนที่พักอาศัยเคยไปประกอบธุรกิจทางเพศ สรุปง่าย ๆ ว่าสาเหตุ คือ ค่านิยม ตามเพื่อน ยากจน ด้อยโอกาสทางการศึกษา

“เมื่อได้ข้อมูลมาแล้ว วิธีการแก้ปัญหาของกระทรวงศึกษาธิการที่ช่วยเหลือเด็กได้ทันที คือ ต้องให้การศึกษา โดยเริ่มต้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือเวลานั้น กระทรวงศึกษาธิการได้ไปสำรวจ เด็กหญิงที่จบ ป.6 แล้วจะไม่เรียนต่อว่ากี่คน พบว่ามีประมาณ 3,000 คน ก็ไปทดลองใน 1 อำเภอโดยเรียกเด็กที่จะไม่ได้เรียนต่อ 200 กว่าคนมาสัมภาษณ์ทีละคน ทำไมไม่เรียนต่อ ส่วนใหญ่บอกว่าไม่มีเงิน กับสอบเข้าไม่ได้ ซึ่งกรณีไม่ได้เรียนต่อผมก็ประสานหาโรงเรียนให้ ส่วนที่ไม่มีเงิน ผมถามไปว่าต้องใช้เงินเท่าไหร่ เด็กตอบว่าประมาณ 3,000 บาท ผมก็ไปหาเพื่อน ๆ ขอเงินระดมเงิน หรือ เรียกว่าไถเงินก็ได้แล้วเอามาให้เด็กได้เรียนหนังสือ แล้วหาโรงเรียนให้เด็กจนครบทั้ง 200 กว่าคน”นายอาทรเล่าพร้อมกับถามกลับว่า รู้เหตุผลหรือไม่ว่าทำไมถึงต้องให้ทุนเฉพาะเด็กหญิง จากนั้นก็เฉลยให้ฟังว่า เพราะเด็กผู้หญิงมีความเสี่ยงสูงที่อาจถูกชักจูงไปในทางที่ไม่เหมาะสมได้ง่าย ขณะที่เด็กผู้ชายยังมีทางไปโดยการไปบวชเณรซึ่งไม่มีค่าใช้จ่ายแถมยังได้เรียนด้วย

อย่างไรก็ตามจากการถามเด็ก ๆ ว่า อยากทำอาชีพอะไร ก็ได้คำตอบว่าอยากเป็นพยาบาล อยากเป็นตำรวจหญิง และอยากขายของในเซ็นทรัลหรือเป็นพนักงานโรงแรม ซึ่งตัวสำคัญคือเด็กอยากเป็นพยาบาล แต่เด็กกลุ่มนี้เป็นเด็กบ้านนอกสอบแข่งก็สู้ไม่ได้ ผมก็ไปเจรจากับ หมอประดิษฐ์ เจริญชัยทวี สมัยนั้นซึ่งผมไม่จำไม่ได้ชัดนักว่าท่านมีตำแหน่งอะไร แต่ท่านบอกว่าจะเอาเงินมาช่วย แต่ผมตอบไปว่าอยากให้เด็กเข้าไปเรียนเป็นผู้ช่วยพยาบาล ก็ได้โควตามาปีละ 40 กว่าคน ซึ่งทำได้ไม่กี่ปีโครงการก็หยุดไป ผมก็ยังเดินหน้าต่อไปกระทรวงสาธารณสุข ขอโควต้าใหม่ปีละ 50 คน โดยให้เด็กด้อยโอกาสกลุ่มนี้สอบแข่งกันเอง ตอนนั้นเริ่มได้เงินจากการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลมาแล้ว โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังขณะนั้นให้ความช่วยเหลือและสนับสนุน จากแรกเริ่มผมขอให้ช่วยออกสลาก 1 งวด 6 ล้านบาท พอเรื่องเข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.)ก็ได้รับการสนับสนุนให้เพิ่มเป็น 60 ล้านบาท และรัฐบาลต่อมาก็เพิ่มให้อีกเป็น 600 ล้าน เพื่อให้ช่วยหลือเด็กภาคอื่นด้วยไม่เฉพาะภาคเหนือเท่านั้น

ถึงวันนี้กว่า 20 ปีมาแล้ว กองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ได้ให้ชีวิตใหม่ ให้การศึกษาแก่เด็กหญิงไม่น้อยกว่าแสนคน และที่สำคัญโครงการเสมาพัฒนาชีวิตยังได้รับการยกย่องและกล่าวถึงวิธีการช่วยเหลือเด็กหญิงในภาวะยากลำบากอย่างมากในเวทีโลก โดยครั้งหนึ่งองค์การอนามัยโลกได้ยกให้เป็นตัวอย่างในการป้องกันเอดส์ หรือ Best Practice Innovation มาแล้ว ซึ่งนายอาทรบอกว่าเป็นความภาคภูมิใจที่สุดเรื่องหนึ่งในชีวิต

อรนุช วานิชทวีวัฒน์

ขอบคุณที่มาเนื้อหาจาก เดลินิวส์ วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม 2561

 

🖼สำหรับคุณครูไว้ใส่เกียรติบัตรสวยและถูก🖼 กรอบป้ายอะคริลิคตั้งโต๊ะ A4 แนวนอน 30x21.5 cm อะคริลิคใส 1 หน้า ทรง L (A4L1P) ในราคา ฿129 คลิกเลย👇👇

https://s.shopee.co.th/1qLFIZVf4t?share_channel_code=6


มารู้จัก ทุน"เสมาพัฒนาชีวิต"กันเถอะมารู้จักทุนเสมาพัฒนาชีวิตกันเถอะ

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

ปฏิรูปการศึกษา ?

ปฏิรูปการศึกษา ?


เปิดอ่าน 8,689 ครั้ง
จัดอันดับทุนมนุษย์

จัดอันดับทุนมนุษย์


เปิดอ่าน 8,109 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

เจาะประเด็นการคัดค้าน ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ : ธนชน มุทาพร

เจาะประเด็นการคัดค้าน ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ : ธนชน มุทาพร

เปิดอ่าน 27,041 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
"ปฏิรูปการศึกษา" ทางรอด "วิกฤติเศรษฐกิจไทย"
"ปฏิรูปการศึกษา" ทางรอด "วิกฤติเศรษฐกิจไทย"
เปิดอ่าน 7,739 ☕ คลิกอ่านเลย

เด็กรุ่นใหม่... เขาทำ (อาชีพ) อะไร
เด็กรุ่นใหม่... เขาทำ (อาชีพ) อะไร
เปิดอ่าน 8,856 ☕ คลิกอ่านเลย

เจ้าฟ้ามหาจักรี ต้นแบบของครูทั้งแผ่นดิน
เจ้าฟ้ามหาจักรี ต้นแบบของครูทั้งแผ่นดิน
เปิดอ่าน 9,068 ☕ คลิกอ่านเลย

ปฏิรูปการศึกษาไทย เป็นเรื่องที่เหลวไหลและเลื่อนลอย
ปฏิรูปการศึกษาไทย เป็นเรื่องที่เหลวไหลและเลื่อนลอย
เปิดอ่าน 16,188 ☕ คลิกอ่านเลย

ประเทศที่ประสบความสำเร็จเขาดูแลครูอย่างไร
ประเทศที่ประสบความสำเร็จเขาดูแลครูอย่างไร
เปิดอ่าน 61,882 ☕ คลิกอ่านเลย

คืนครูสู่ห้องเรียน
คืนครูสู่ห้องเรียน
เปิดอ่าน 17,110 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

สั่งจองพื้นที่บนดวงจันทร์ได้แล้ว
สั่งจองพื้นที่บนดวงจันทร์ได้แล้ว
เปิดอ่าน 28,156 ครั้ง

สิงคโปร์รณรงค์เลิกบ้าคะแนนสอบ ปรามพ่อแม่อย่ากดดันลูก
สิงคโปร์รณรงค์เลิกบ้าคะแนนสอบ ปรามพ่อแม่อย่ากดดันลูก
เปิดอ่าน 24,521 ครั้ง

ไฟล์ภาพ"GIF" อ่านว่า "จิฟ" ไม่ใช่"กิฟ!"
ไฟล์ภาพ"GIF" อ่านว่า "จิฟ" ไม่ใช่"กิฟ!"
เปิดอ่าน 15,245 ครั้ง

"กูเกิล"เผยสุดยอดคำค้นหาปี 59
"กูเกิล"เผยสุดยอดคำค้นหาปี 59
เปิดอ่าน 15,257 ครั้ง

มะเร็งเน็ต...ภัยร้ายชนิดใหม่ เสี่ยงตายไม่รู้ตัว
มะเร็งเน็ต...ภัยร้ายชนิดใหม่ เสี่ยงตายไม่รู้ตัว
เปิดอ่าน 15,450 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ