ผอ.สทศ. เผยบทลงโทษ คนโพสต์ข้อสอบโอเน็ต ผ่านแอปไลน์ ย้ำอ้างไม่รู้ ไม่ได้ ยกประโยชน์ข้อสอบวิชาสังคมให้เด็ก หากมีข้อผิดพลาด ...
จากกรณีมีผู้โพสต์ภาพข้อสอบโอเน็ต ม.6 วิชาภาษาอังกฤษ ซึ่งสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) จัดสอบไปเมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นการทำผิดระเบียบการสอบของ สทศ. โดยนำเครื่องมือสื่อสารเข้าห้องสอบและเผยแพร่ข้อสอบของ สทศ.นั้น
เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ที่สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ ชั้น 36 อาคารพญาไท รศ.ดร.สัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผอ.สทศ. เปิดเผยว่า สทศ.รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว จากการที่มีผู้แจ้งข้อมูลมาที่ สทศ. จึงได้ให้คณะทำงานติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิด เบื้องต้นทราบว่า มีการโพสต์รูปข้อสอบวิชาภาษาอังกฤษผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ในกลุ่มปิดชื่อว่า KMITL ซึ่งมีสมาชิก 700 คน ซึ่งสมาชิกในห้องนี้ส่วนใหญ่รู้ว่า เป็นการกระทำที่ผิดระเบียบ สทศ. จึงได้แจ้งให้ สทศ.ทราบ และทยอยออกจากห้องดังกล่าว เพราะรู้ว่ามีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ทีมงาน สทศ. ก็กำลังติดตามตัวสมาชิกในห้องนี้ ซึ่งขณะนี้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้โพสต์บ้างแล้ว เช่น รูปหน้าของผู้โพสต์ ซึ่งน่าจะทำให้ทีมงานติดตามด้วยได้ และหากใครมีเบาะแสก็ให้แจ้ง สทศ.ทันที และกรณีนี้ก็ถือเป็นความผิดของบุคคล ไม่จำเป็นต้องสอบใหม่อย่างที่มีนักเรียนกังวลกัน
สำหรับระเบียบและบทลงโทษนั้น ผอ.สทศ. กล่าวว่า สทศ.ประกาศระเบียบและบทลงโทษผู้ทำผิดระเบียบการสอบอย่างชัดเจน โดยประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษา ตั้งแต่ปี 2557 ดังนั้นใครจะอ้างว่าไม่รู้ คงไม่ได้ และ สทศ. ยังได้ติดประกาศระเบียบไว้ที่สนามสอบ หน้าห้องสอบ และหน้าข้อสอบทุกวิชาด้วย กรณีนี้ผู้ที่ฝ่าฝืนระเบียบ เป็นนักเรียน จะมีบทลงโทษคือ 1.ไม่ประกาศผลสอบในวิชานั้นๆ หรือทุกวิชา 2.ส่งชื่อผู้ฝ่าฝืนให้สถานศึกษาต้นสังกัดพิจารณาลงโทษทางวินัย 3.ส่งชื่อผู้ฝ่าฝืนให้สถาบันอุดมศึกษาพิจารณาประกอบการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อหรือทำงาน 4.หากเกิดความเสียหายต่อระบบการทดสอบ จะฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
หากผู้ฝ่าฝืนระเบียบเป็นกรรมการคุมสอบ จะมีบทลงโทษคือ 1.ขึ้นบัญชีดำผู้คุมสอบรายนั้น ซึ่งการถูกขึ้นบัญชีดำถือว่าเป็นการล้มละลายทางวิชาการของบุคคลนั้น 2.เสนอชื่อบุคคลนั้นไปยังต้นสังกัดให้ลงโทษทางวินัย 3.หากเกิดความเสียหายต่อระบบการทดสอบ จะฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนบทลงโทษจะเป็นอย่างไรนั้น ได้ให้ทีมงานรีบตามตัวผู้โพสต์ให้พบโดยเร็ว แล้วนำเสนอเข้าที่ประชุมบอร์ด สทศ. ในเดือน มี.ค.นี้ เพื่อพิจารณาลงโทษ
"ความจริง สทศ. กำหนดที่จะเผยแพร่ข้อสอบและเฉลยคำตอบ ภายหลังการสอบรอบพิเศษเสร็จเรียบร้อย คาดว่าไม่เกินเดือน มี.ค.นี้ ผู้โพสต์คนนี้ ใจร้อนและประมาท ทั้งยังไม่ตระหนักถึงบทลงโทษของ สทศ. ที่ถือว่าหนัก แต่ก็ยังมีเรื่องน่ายินดีที่นักเรียนส่วนใหญ่รู้ระเบียบของ สทศ.ดี และไม่ฝ่าฝืน ทั้งยังตำหนิที่มีผู้ทำผิดและรายงานให้ สทศ.ทราบด้วย
ส่วนกรณีข้อสอบวิชาสังคมที่มีผู้ร้องเรียนว่ามีคำตอบที่ถูกต้องมากกว่า 1 ข้อ และเรียกร้องให้ยกผลประโยชน์ให้กับผู้สอบ โดยให้คะแนนฟรีนั้น เรื่องดังกล่าว เด็กไม่ต้องห่วง เมื่อ สทศ. เปิดเผยข้อสอบและเฉลยคำตอบแล้ว จะรับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายทั้งนักวิชาการ นักเรียน ผู้รู้ หากพบว่าข้อสอบมีปัญหาจริงต้องให้ประโยชน์เด็กแน่นอน” รศ.ดร.สัมพันธ์ กล่าว
ด้าน ศ.นพ.อุดม คชินทร รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ได้รับรายงานจาก สทศ. แล้วทั้ง 2 กรณี โดยในเรื่องการโพสต์ภาพข้อสอบวิชาภาษาอังกฤษนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เด็กต้องมีวินัยและซื่อสัตย์ ส่วนจะลงโทษอย่างไรนั้น สทศ.มีระเบียบกำหนดไว้ชัดเจนอยู่แล้ว สำหรับวิชาสังคมนั้น หากเกิดความผิดพลาดที่ข้อสอบก็ต้องยกประโยชน์ให้เด็ก.
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก ไทยรัฐ วันที่ 5 มีนาคม 2561