ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

เปิดวงเสวนา “การพัฒนามนุษย์ที่สมบูรณ์สู่ศตวรรษที่ 21 : จากการเรียนรู้ร่วมกันสู่นโยบาย” จะไปทางไหนดี


ข่าวการศึกษา 1 มี.ค. 2561 เวลา 06:34 น. เปิดอ่าน : 9,891 ครั้ง
Advertisement

เปิดวงเสวนา “การพัฒนามนุษย์ที่สมบูรณ์สู่ศตวรรษที่ 21 : จากการเรียนรู้ร่วมกันสู่นโยบาย” จะไปทางไหนดี

Advertisement

เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2561 ที่อาคารอิมแพคฟอรั่มเมืองทองธานี ในงานมหกรรมสร้างเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว “ กว่าทศวรรษ พัฒนาครอบครัวอบอุ่น สร้างคุณค่าคน คือ ผลงานเรา” มีการเสวนาเรื่อง”การพัฒนามนุษย์ที่สมบูรณ์สู่ศตวรรษที่ 21 : จากการเรียนรู้ร่วมกันสู่นโยบาย” ซึ่ง ศ.กิตติคุณ ดร.เทียนฉาย กีระนันทน์ กรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปเพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และประธานคณะอนุกรรมการเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 กล่าวว่า ทุนมนุษย์ คือ สิ่งที่มีอยู่ในตัวคน ได้แก่ ความรู้ ความสามารถ ทักษะ ประสบการณ์ และสุขภาพ เป็นกุญแจสำคัญที่จะนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ แต่ทุนมนุษย์ก็เสื่อมค่าได้ถ้าไม่พัฒนา ซึ่งวิธีการเพิ่มค่าทุนมนุษย์ที่สำคัญคือการศึกษา แต่ที่ผ่านมาเราให้ความรู้ที่เป็นวิชาการมากเกินไป แต่เน้นเรื่องทักษะ ประสบการณ์ และความสามารถอื่นของคนน้อยเกินไป

ศ.กิตติคุณ ดร.เทียนฉาย กล่าวต่อว่า ปัจจุบันคนไทยน่าเป็นห่วง 6 เรื่อง คือ 1.ดูแลตัวเองไม่ดีพอ มีแนวโน้มเสียชีวิตจากการใช้ชีวิตบนความเสี่ยงมากขึ้น 2.มีปัญหาด้านคุณธรรมไม่ตระหนักในวินัย ไม่ซื่อสัตย์สุจริต ไม่มีจิตสาธารณะ ขาดทักษะในการคัดกรอง ละทิ้งค่านิยมที่ดี 3.ขาดความคิดสร้างสรรค์ การเรียนการสอนเน้นท่องจำ ไม่สอนกระบวนการคิด มีการใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้น แต่เป็นการใช้เพื่อหาความรู้เพียงนิดเดียว 4.มีปัญหาด้านคุณภาพทุกช่วงวัย 5.ขาดดุลพินิจ เปราะบางและอ่อนไหว โดยขาดทักษะและดุลพินิจในการเลือกรับ เลือกปรับใช้วัฒนธรรมและเทคโนโลยีอย่างรู้เท่าทัน 6.ดูแลลูกหลานไม่ดีและลูกหลานดูแลบรรพบุรุษไม่ดี

“ผมเป็นประธานคณะอนุกรรมการเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษ 21 ของคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปเพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งหนึ่งในอำนาจหน้าที่ขอคณะอนุกรรมการฯ คือ การขับเคลื่อนการสร้างกระบวนทัศน์และหลักคิดที่เหมาะสมให้กับคนไทย ให้สอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ให้คนไทยมีพฤติกรรมที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม ดังนั้น ถ้าทำได้เพียง 5 ด้าน จากแนวพระราชดำริที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานให้แก่คนไทยทั้งปวงคือ ความพอเพียง มีวินัย สุจริต จิตสาธารณะและรับผิดชอบ โดยรับผิดชอบต่อตนเอง ต่อครอบครัวและต่อสังคม ดำเนินชีวิตบนทางสายกลางแบบมีเหตุผลก็จะแก้ปัญหาคนไทยในปัจจุบันได้ อย่างไรก็ตามเราพบว่าขณะนี้มีองค์กรเครือข่ายที่ทำหน้าที่ต่างๆ ทั้งเรื่องพอเพียง ความมีวินัย จำนวนมาก แต่ทำแบบต่างคนต่างทำและไม่เกิดผลกระทบที่ชัดเจน ดังนั้น จะมีการเดินหน้าสร้างเครือข่ายในวันที่ 1 มี.ค.นี้ เพื่อให้เกิดมรรคผล กระบวนการนอกลู่ต้องเปลี่ยน มิฉะนั้น คนไทยจะไปสู่ศตวรรษที่ 21 ไม่สำเร็จ ต่อให้มีการศึกษาดี คุณภาพดี ถ้าทุกคนยังเห็นแก่ตัวอยู่” ศ.กิตติคุณ ดร.เทียนฉาย กล่าว

ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า ขณะนี้ไทยประสบปัญหาเชิงโครงสร้างทางศักยภาพการเติบโต เพราะที่ผ่านมาเราเน้นเรื่องปริมาณ ให้น้ำหนักเรื่องคุณภาพน้อย โดยเฉพาะคุณภาพคน การใช้ความรู้ ทักษะ การคิดริเริ่ม นวัตกรรมเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และการวิจัย ความเหลื่อมล้ำยังมีอยู่และมีแนวโน้มจะมีความเหลื่อมล้ำสูงขึ้น รวมถึงโครงสร้างกลไกภาครัฐที่มีพลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจลดลง มีการสะสมกฎระเบียบต่างๆ ไว้มาก จนกลายเป็นตุ้มถ่วง นอกจากต้องเผชิญกับความท้าทายในเรื่อง 1. ความก้าวหน้าแบบอัตราเร่งของเทคโนโลยี ถ้าตามไม่ทันจะเกิดการว่างงาน 2.ไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ คนทำงาน 2 คนอาจต้องรับภาระคนที่ไม่ทำงาน 1 คน 3. ความท้าทายจากมาตรฐานต่าง ๆ ของโลกที่จะสูงขึ้น 4.โลกเชื่อมโยงกันมากขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นจากที่หนึ่งจะกระทบกับประเทศอื่นได้รวดเร็ว ทั้งนี้ เราจะมีการปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อตอบโจทย์ความท้าทายต่างๆ โดยใช้ประโยคคำขวัญว่า “ แข่งขันได้ กระจายทั่วถึง พัฒนายั่งยืน”

ดร.สัมพันธ์ ศิลปนาฎ อุปนายกสมาคมสหกิจศึกษาไทย และประธานร่วมสมาคมสหกิจศึกษาโลก กล่าวว่า ตนยืนยันว่ายุค 4.0 จะเป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ ความเป็น 3.0 ทุกวันนี้ ทำลายประเทศ ทำลายโลกและสิ่งแวดล้อม ที่ผ่านมาได้มีการวิจัยไว้ว่า ถ้าพรุ่งนี้โลกเปลี่ยนจากยุค 3.0 เป็น 4.0 คนในประเทศไทยที่เป็นแรงงานในระบบประมาณ 13 ล้านคนหรือ 72% จะต้องเปลี่ยนอาชีพ ซึ่งยังไม่นับแรงงานนอกระบบอีก 20 ล้านคนที่จะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนี้ 80-90% ของอุตสาหกรรมบนโลกจะเปลี่ยนรูปแบบ วิธีการการทำงานที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป คนปลายน้ำที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไปและไม่ได้อยู่ในกลุ่ม 28% ที่ภาคอุตสาหกรรมรักษาไว้จะได้รับผลกระทบภายใน 5 ปี โดยความเป็นอุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งมีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยจะไม่จ้างคนเพิ่มหรือจ้างน้อยมาก

“ขณะที่โลกและทุกภาคส่วนเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมาย หากการศึกษาของไทยยังนิ่ง ผลิตคนแบบเดิมๆ เรียนในห้องเรียนจากตำราแบบเดิมๆ ไม่ใช่แรงงานในความต้องการ 28% ที่ตลาดแรงงาน 4.0 ต้องการ คนที่จบการศึกษาออกไปจะไม่มีงานทำ ดังนั้น การศึกษานอกห้องเรียน การศึกษาร่วมกับภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม มีความจำเป็นอย่างมาก การศึกษาจะต้องเกิดจากความร่วมมือ และวันนี้จำเป็นต้องปลุกยักษ์ในภาครัฐที่ควบคุมการศึกษาทั้งหมด ยักษ์ในภาคอุตสาหกรรมที่มองแต่ดัชนีด้านธุรกิจ หรือแม้กระทั่งภาคประชาชนให้รับรู้ สื่อสาร มีมาตรการและแรงจูงใจ ดูว่าจะรองรับแรงงานในระบบอย่างไร และจะเปลี่ยนแปลงการศึกษาในรูปแบบใหม่อย่างไร” ดร.สัมพันธ์ กล่าว

ด้าน ดร.ไกรยส ภัทราวาท กรรมการในคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา(กอปศ.) กล่าวว่า ประเทศไทยลงทุนเพื่อการศึกษาเป็นอันดับ 2 ของโลก แต่ได้ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาในระดับต่ำ ค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาปีละ 521,233 ล้านบาท แต่เป็นงบฯ รายจ่ายประจำ 74.69% มีงบฯพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนระหว่างครูกับเด็กไม่ถึง 10 บาท จาก 100 บาท และเหลือถึงเด็กยากจนเพียงแค่ 50 สตางค์สุดท้ายจากเงิน 100 บาทเท่านั้น จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษายังมีปัญหาอยู่ จากการลงพื้นที่ของ กอปศ. และพบปัญหาที่เกิดขึ้นจริง จึงคิดจะทำอย่างไรที่จะเปลี่ยนจาก 50 สตางค์สุดท้ายมา เป็น 5 บาทแรก เพื่อแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำในโอกาสทางการศึกษาให้ได้ โดยมีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ที่ออกตามรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ การให้โอกาสความเสมอภาคทางการศึกษาคือ การที่เด็กทุกคนได้รับการจัดสรรทรัพยากรที่ตรงตามความต้องการ เพื่อให้สามารถขจัดความเหลื่อมล้ำในการเข้าสู่โอกาสทางการศึกษาได้ ไม่ใช่ให้การสนับสนุนเท่ากันทุกคน

 

คำบรรยายภาพ
คำบรรยายภาพ
คำบรรยายภาพ
คำบรรยายภาพ
คำบรรยายภาพ

เปิดวงเสวนา “การพัฒนามนุษย์ที่สมบูรณ์สู่ศตวรรษที่ 21 : จากการเรียนรู้ร่วมกันสู่นโยบาย” จะไปทางไหนดีเปิดวงเสวนา“การพัฒนามนุษย์ที่สมบูรณ์สู่ศตวรรษที่21:จากการเรียนรู้ร่วมกันสู่นโยบาย”จะไปทางไหนดี

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

นโยบายและจุดเน้นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568-2569

นโยบายและจุดเน้นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568-2569

เปิดอ่าน 3,654 ☕ 22 พ.ย. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ประกาศกำหนดที่ตั้งศูนย์ประสานงานเขตตรวจราชการที่ 1-9 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ประกาศกำหนดที่ตั้งศูนย์ประสานงานเขตตรวจราชการที่ 1-9 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
เปิดอ่าน 407 ☕ 25 พ.ย. 2567

หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู และที่แก้ไขเพิ่มเติม
หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู และที่แก้ไขเพิ่มเติม
เปิดอ่าน 3,478 ☕ 23 พ.ย. 2567

หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา และที่แก้ไขเพิ่มเติม
หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา และที่แก้ไขเพิ่มเติม
เปิดอ่าน 1,651 ☕ 23 พ.ย. 2567

หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งศึกษานิเทศก์ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งศึกษานิเทศก์ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
เปิดอ่าน 332 ☕ 23 พ.ย. 2567

หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา และที่แก้ไขเพิ่มเติม
หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา และที่แก้ไขเพิ่มเติม
เปิดอ่าน 959 ☕ 23 พ.ย. 2567

นโยบายและจุดเน้นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568-2569
นโยบายและจุดเน้นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568-2569
เปิดอ่าน 3,654 ☕ 22 พ.ย. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ความหวาน มีประโยชน์หรือโทษขึ้นอยู่กับปริมาณ
ความหวาน มีประโยชน์หรือโทษขึ้นอยู่กับปริมาณ
เปิดอ่าน 1,696 ครั้ง

การย้ายพนักงานงานราชการ
การย้ายพนักงานงานราชการ
เปิดอ่าน 18,909 ครั้ง

ประโยชน์ของ "ขมิ้นต้น"
ประโยชน์ของ "ขมิ้นต้น"
เปิดอ่าน 33,072 ครั้ง

พระศิวะ
พระศิวะ
เปิดอ่าน 20,017 ครั้ง

รับมือปัญหาการนอน
รับมือปัญหาการนอน
เปิดอ่าน 11,080 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ