"พินิศักดิ์" เผย ที่ประชุม สกสค.สั่งเช็กระบบบัญชีเงินกองทุน ช.พ.ส. ปี 58 หลังพบไม่ได้มีการตรวจสอบบัญชี้ดังกล่าวสักครั้ง ขณะที่ธนาคารออมสินตีกลับสัญญาไม่ลดดอกเบี้ยไม่ขยายระยะเวลาเงินกู้ให้ ด้านองค์การค้าฯได้มติให้หน่วยงานนอกช่วยพิมพ์แบบเรียนอีก 8 ล้านเล่ม หวังทันส่งเปิดภาคเรียน
วันนี้ (26 ก.พ.) นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยภายหลังการประชุมสกสค.ว่า ที่ประชุมมีมติให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบกรณีเงินกองทุนการการฌาปณกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษาในกรณีคู่สมรสถึงแก่กรรม (ช.พ.ส.) ปี 2558 เนื่องจาก สกสค.ได้รายงานว่าได้จ้างบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เพื่อมาตรวจสอบบัญชีของกองทุนดังกล่าว แต่บริษัทเอกชนได้รายงานว่า ไม่สามารถหาหลักฐานการตรวจสอบตัวบัญชีที่เหมาะสมอย่างเพียงพอ เพื่อเป็นเกณฑ์ในการแสดงความคิดเห็นได้ ดังนั้นที่ประชุมจึงมีมติให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบขึ้น ซึ่งคณะทำงานจะไปตรวจสอบว่าสิ่งที่สำนักงาน สกสค.บอกว่าไม่สามารถหาหลักฐานได้เป็นเพราะสาเหตุใด หรืออาจจะเกิดจากการอำนวยความสะดวกในการให้ความร่วมมือ รวมถึงมีเอกสารแต่ไม่ยอมให้ตรวจสอบ หรือเอกสารสูญหาย ทั้งนี้หากตรวจสอบพบเอกสารสูญหายจริงก็ต้องมีการแจ้งความดำเนินคดีด้วย ซึ่งคณะทำงานก็จะต้องไปดูในประเด็นเหล่านี้ ขณะเดียวกันที่ประชุมมอบให้ สกสค.จัดทำระบบฐานข้อมูลให้มีความทันสมัยมากขึ้นด้วย
“ทั้งนี้การตรวจสอบต้องเป็นการตรวจสอบระบบตามบัญชีของสมาชิก แต่ที่ผ่านมายังไม่มีการตรวจสอบเรื่องนี้ ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบบัญชีเงินกองทุนทุกๆปี โดยปัจจุบันกองทุน ช.พ.ส.มีสมาชิกอยู่ประมาณ 380,000 คน มีบัญชีสมาชิกอยู่ประมาณ 50,000 กว่าบัญชี ปิดเคลียร์บัญชีไปแล้ว 18,000 บัญชี” ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค.กล่าวและว่า นอกจากนี้ยังได้หารือถึงการทำบันทึกข้อตกลงกับธนาคารออมสินที่สกสค.ได้ยื่นข้อเสนอกับธนาคารไปว่า ขอให้ใช้มาตรการคืนเงินให้แก่ครูโดยการลดดอกเบี้ยหรือพักชำระหนี้และขอให้มีการขยายเวลาการชำระหนี้ออกไปด้วย เช่น สัญญาเดิมกำหนดชำระหนี้ 30 ปีให้ขยายเป็น 33 ปี เป็นต้น ซึ่งธนาคารออมสินได้ตอบกลับมาแล้วว่า ธนาคารมีความเสี่ยงไม่สามารถลดดอกเบี้ย และไม่ขยายระยะเวลาเงินกู้ให้ได้ โดย รมว.ศธ.มีความกังวล จึงมอบให้ตนนัดหารือกับธนาคารออมสินอีกครั้งพร้อมธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อให้ได้ข้อยุติเรื่องนี้โดยเร็ว
นายพินิจศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนการประชุมองค์การค้าของ สกสค.นั้นที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้องค์การค้าฯจ้างหน่วยงานนอกพิมพ์แบบเรียนได้ โดยเป็นแบบเรียนวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ฉบับปรับปรุงใหม่ จำนวน 8 ล้านเล่ม เพื่อให้จัดพิมพ์ทันเปิดภาคเรียน ทั้งนี้มติดังกล่าวอาศัยกฎกระทรวงกำหนดพัสดุที่รัฐต้องส่งเสริมหรือสนับสนุนและกำหนดวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ โดยวิธีคัดเลือกและวิธีเฉพาะเจาะจง พ.ศ.2560 ของกระทรวงการคลัง ข้อ 9 ระบุว่า กรณีหน่วยงานรัฐมีโรงพิมพ์ของตัวเองแต่มีงานพิมพ์จำนวนมากเกินขีดความสามารถก็สามารถให้หน่วยงานรัฐจัดจ้างหน่วยงานนอกให้จัดพิมพ์แบบเรียนในส่วนที่เกินได้ โดยให้หน่วยงานของรัฐมีหนังสือเชิญชวนโรงพิมพ์อื่นของหน่วยงานรัฐเหมือนกัน หรือโรงพิมพ์อื่นที่อยู่ในความควบคุมของหน่วยงานรัฐไม่น้อยกว่า 3แห่งมาร่วมเสนอราคาในการจัดพิมพ์แบบเรียนต่อไป
ด้าน นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า กรณีที่สกสค.กับธนาคารออมสินยังไม่สามารถหาข้อยุติในการทำข้อตกลงความร่วมมือใหม่ได้นั้น ในเร็วๆนี้ตนจะนัดหารือกับธนาคารออมสินด้วยตนเอง
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2561