จากการประชุมคณะกรรมการอิสระเพื่อปฏิรูปการศึกษา (กอปศ.) ดร.ศิริเดช สุชีวะ ประธานอนุกรรมการครูและอาจารย์ เปิดเผยว่า ได้เสนอแนวทางการปฏิรูปครูทั้งระบบตั้งแต่การผลิต การพัฒนา และการคัดกรองครูเข้าสู่ระบบ จึงเสนอให้มีหน่วยงานกลางดูแลนโยบายการผลิตและพัฒนาครูของประเทศ มีอำนาจทั้งในด้านวิชาการและงบประมาณ โดยการผลิตครูควรเป็นระบบปิด มีทุนการศึกษาและการันตีการบรรจุในพื้นที่และสาขาที่ขาดแคลน มีการสนับสนุนงบรายหัวพิเศษเพื่อเป็นมาตรการจูงใจให้สถาบันได้ผลิตครูในสาขาวิชาที่มีความต้องการสูง โดยต้องมีฐานข้อมูลกลางที่บอกได้ว่าสาขาใดครูขาดและเกิน เพื่อเตรียมการผลิตครูได้ตรงตามความต้องการ และไม่ใช่ทุกสถาบันจะผลิตครูได้ทุกสาขาวิชาเอก การจะผลิตครูเฉพาะทาง จะต้องมีคณะที่เชี่ยวชาญเป็นพื้นฐาน รวมถึงต้องมีโรงเรียนเครือข่ายร่วมพัฒนาวิชาชีพพร้อมครูประจำการที่มีศักยภาพสูงเป็นพี่เลี้ยงให้นักศึกษาครู
รศ.ดร.ศิริเดช กล่าวอีกว่า หลักสูตรการผลิตครูต้องเปลี่ยนแปลงเป็นหลักสูตรฐานสมรรถนะ ที่บูรณาการความรู้หลายๆเรื่องเข้าด้วยกัน ส่วนระบบคัดกรองครูอยากให้โรงเรียนมีส่วนคัดเลือกครูได้ตามความต้องการ ไม่ใช่มีระบบคัดเลือกจากส่วนกลางเท่านั้น นอกจากนี้ ควรสร้างแรงจูงใจด้วยการเพิ่มสวัสดิการค่าตอบแทนและการเข้าสู่วิทยฐานะของครูในพื้นที่ห่างไกล เพื่อให้ครูกระจายตัวไปยังพื้นที่ขาดแคลน ขณะที่การพัฒนาครูและการเข้าสู่วิทยฐานะต้องมีระบบและกลไก ที่เน้นความเชี่ยวชาญและผลลัพธ์ที่เกิดกับผู้เรียนไม่ใช่ระบบเอกสารหรือผลงานวิชาการ
ด้าน ศ.นพ.จรัส สุวรรณเวลา ประธาน กอปศ. กล่าวว่า ได้มอบให้สภาการศึกษารวบรวมข้อมูลและปัญหาวิกฤติในการผลิตครู ดังนั้น สิ่งใดที่สามารถจะแก้ปัญหาได้ทันทีก็จะนำเสนอต่อรัฐบาล ส่วนในระยะยาวก็จะกำหนดไว้ในร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติต่อไป.
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก ไทยรัฐ วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2561