คณะทำงาน สพฐ.ศึกษาข้อมูลเพิ่มเขตพื้นที่มัธยมฯ เบื้องต้นเพิ่ม 18 เขตเหมาะสุด แต่ยังไม่ใช่ข้อสรุปขอฟังความเห็นผู้เกี่ยวข้องอีกครั้ง
วันนี้(20ก.พ.)ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการแยกเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา(สพม.)เพิ่มจากปัจจุบันที่มีอยู่ 42 เขต ว่า ตนได้หารือเรื่องนี้กับนพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ(ศธ.)แล้ว ซึ่งรมว.ศธ.ให้นโยบายว่า ให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) พิจารณาตามความเหมาะสม โดยไม่ได้กำหนดว่าจะต้องตั้งเพิ่มอีกกี่เขต เมื่อพิจารณาได้แล้วให้เสนอสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา(สกศ.)พิจารณา ซึ่ง สกศ.มีข้อเสนอแนะอย่างไรก็ให้เสนอความเห็นมายัง รมว.ศธ. อีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ในส่วนของสพฐ.ได้มอบหมายให้นายณรงค์ แผ้วพลสง รองเลขาธิการ กพฐ. เป็นประธานคณะทำงานศึกษาการแยก สพม. ซึ่งจากการศึกษาเบื้องต้น คณะทำงานเสนอว่า เพื่อให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพ ควรเพิ่มสพม.ประมาณ 18 เขต แต่ก็ยังไม่ถือเป็นข้อสรุป เพราะ สพฐ.ได้ทำการสำรวจความคิดเห็น สพม. 42 เขตผ่านทางออนไลน์แล้ว ก็จะนำความเห็นทั้ง 2 ส่วนมาประกอบกัน จากนั้นจะเชิญผู้แทน สมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย(ส.บ.ม.ท.) ผอ.โรงเรียนและครู ทั้งในพื้นที่ที่เป็นที่ตั้งของ สพม.และไม่เป็นที่ตั้งของสพม. ซึ่งเป็นผู้ได้รับผลโดยตรงมาสอบถามว่ามีความเห็นอย่างไร
เลขาธิการกพฐ. กล่าวต่อว่า การเพิ่ม สพม.มีหลักการว่า ต้องไม่เพิ่มคน ไม่เพิ่มงบประมาณ แต่ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งภายในเพื่อให้สามารถทำงานได้ และจะมีการกำหนดขนาดของเขตให้เหมาะสมกับภารกิจ โดยอาจจะแบ่งเป็นขนาดใหญ่ กลาง เล็ก ตามความเหมาะสม และความจำเป็นจึงต้องรับฟังความเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้องก่อน ส่วนที่คณะทำงานเสนอเบื้องต้นว่า ควรเพิ่มสพม. 18 เขตนั้น จะต้องมาคิดต่อว่า แล้วจังหวัดที่ไม่มีสพม.จะทำอย่างไร ซึ่งได้มีการคิดไว้เบื้องต้นว่า อาจจะทำในลักษณ์เคาท์เตอร์เซอร์วิส โดยงานอะไรที่ครูต้องไปติดต่อสพม.ก็ให้ดำเนินผ่านเคาท์เตอร์เซอร์วิสแทน เพื่อจะได้ไม่ต้องเดินทางข้ามจังหวัด
“ที่ต้องมีการเชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาหารือ เพื่อให้เกิดการคิดอย่างรอบด้าน สอดคล้องกับความต้องการ และได้คำตอบที่ชัดเจน อย่างไรก็ตามที่ผ่านมามีผู้เสนอว่า ควรต้องยุบสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา(สพป.)บางเขตลง เพราะขณะนี้การคมนาคมสะดวกขึ้น และเทคโนโลยีก็มีความทันสมัยติดต่อเชื่อมถึงกันได้ง่าย แต่สพฐ.ไม่ได้มองเรื่องนี้เป็นเป้าหมายหลัก เพราะเป้าหมายของเราคือการเพิ่มสพม. ให้ครอบคลุมการทำงาน แต่หากผู้เกี่ยวข้องเห็นพ้องกันว่า ควรต้องลด สพป.ลงบ้าง โดยมีเหตุผลที่เหมาะสม สพฐ.ก็พร้อมจะรวบรวมประเด็นเสนอ สกศ.” ดร.บุญรักษ์ กล่าว
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก เดลินิวส์ วันอังคารที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561