"หมออุดม” ให้การบ้าน ทปอ.มรภ.ปลุกมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศ ทำหน้าที่พัฒนาท้องถิ่น-ผลิตและพัฒนาครู-เพิ่มผู้เรียนสายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้นักศึกษา อาจารย์ บุคลากรทุกคนร่วมเป็นจิตอาสา
ศ.นพ.อุดม คชินทร รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ในการประชุมเพื่อมอบนโยบายทิศทางการจัดการศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) เพื่อสนับสนุนการเดินหน้าประเทศไทยแก่อธิการบดี มรภ.ทั่วประเทศ เมื่อเร็วๆนี้ ตนได้ย้ำถึงบทบาทของ มรภ.ที่ต้องยกระดับตนเอง เพื่อให้มีศักยภาพตอบโจทย์ประเทศและชุมชน ซึ่ง มรภ.ต้องทำใน 2 เรื่องสำคัญ คือ 1.การพัฒนาท้องถิ่น โดยเป็นที่พึ่งทางวิชาการ เน้นความร่วมมือกับภาคประชารัฐ ในการพัฒนาเศรษฐกิจของแต่ละพื้นที่ และ2.การผลิตและพัฒนาครู ซึ่งต้องยอมรับว่าครูในโรงเรียนทั่วประเทศ 70-80% จบมาจาก มรภ.แต่เรื่องคุณภาพครูก็ยังมีปัญหา ดังนั้น มรภ.ต้องเร่งปรับปรุงรูปแบบการผลิตใหม่ โดยพัฒนาอาจารย์ผู้สอน เพื่อสร้างครูสำหรับเด็กในศตวรรษที่ 21 ที่ต้องปลูกฝังทั้งความเก่ง ความดี และทักษะที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตในอนาคต นอกจากนี้จะให้ มรภ.ทำหน้าที่พัฒนาครูสอนภาษาอังกฤษต้นแบบทั่วประเทศ ซึ่งที่ผ่านมา ศธ.ร่วมมือกับบริติซเคาซิลในการพัฒนาครูสอนภาษาอังกฤษ ขณะเดียวกัน ศธ.ได้เจรจากับสถานทูตฟินแลนด์ ให้เข้ามาช่วยในการยกระดับคุณภาพมาตรฐานการจัดการเรียนการสอนของ มรภ.ทั้ง 38 แห่ง โดยใช้มาตรฐานฟินแลนด์
“ผมให้ มรภ.ทบทวนว่าหลักสูตรใดที่ไม่ตอบโจทย์ประเทศ หรือ เด็กจบมาไม่มีงานทำ ต้องลดปริมาณการรับนักศึกษาลง ซึ่งใน 5-10 ปีนี้ ประเทศกำลังขับเคลื่อนด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ขณะที่มหาวิทยาลัยทั้งประเทศผลิตรวมกันเพียง 33% จึงต้องเน้นสัดส่วนการผลิตกลุ่มนี้ แต่ไม่ใช่เลิกสายสังคม เพราะเป็นองค์ประกอบสำคัญเติมเต็มความเป็นมนุษย์”นพ.อุดม กล่าวและว่า ตนได้ขอความร่วมมือ มรภ. นำนักศึกษาและบุคลากรเข้าร่วมโครงการจิตอาสาเราทำดีด้วยหัวใจ เพื่อสนองพระราชดำริสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระเมตตาต่อ มรภ. โดย มรภ.แต่ละแห่งจะเข้าร่วมโครงการฯดังกล่าวโดยตรง หรือ จะไปจัดกิจกรรมจิตอาสาเองก็ได้
ด้าน ผศ.ดร.เรืองเดช วงศ์หล้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎอุตรดิตถ์ ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดี มรภ. กล่าวว่า มรภ.พร้อมสนองพระราโชบายของในหลวงรัชกาลที่ 10 ในการดูแลแก้ปัญหาชุมชน และสนองนโยบายของรัฐบาล ในการผลิตครูที่มีคุณภาพ ขณะเดียวกันเราก็พร้อมปรับตัวให้ทันโลก และยกระดับคุณภาพการผลิตนิสิต นักศึกษา
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561