ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

"วันเด็ก ... ขอนโยบายดีกว่าคำขวัญ" เปิดวันเด็ก11 ประเทศ เน้นนโยบาย ดึงเด็กมีส่วนร่วมแก้ปัญหา


ข่าวการศึกษา 11 ม.ค. 2561 เวลา 18:43 น. เปิดอ่าน : 6,403 ครั้ง
Advertisement


Advertisement

"วันเด็ก ... ขอนโยบายดีกว่าคำขวัญ" เปิดวันเด็ก11 ประเทศ เน้นนโยบาย ดึงเด็กมีส่วนร่วมแก้ปัญหา

เปิดวันเด็กใน 11 ประเทศ พบมาตรการสำคัญ “ออกนโยบายแก้ปัญหา-ดึงเด็กมีส่วนร่วม-รับฟังเสียงเด็ก” วันเด็กแคนาดา ชวนส.ส.ไปโรงเรียนรับฟังเสียงเด็ก เยอรมนี ตั้งเป็นวันรณรงค์สิทธิเด็ก ขณะที่วันเด็กไทย พบ 3 คำยอดฮิต “วินัยและการเรียน – ชาติ – คุณธรรม” แนะปฏิรูปงานวันเด็กเน้นนโยบายและการมีส่วนร่วมของเด็ก
 
 
เมื่อวันที่ 11 ม.ค. ที่คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศูนย์วิชาการและเครือข่ายวิชาการด้านเด็ก เยาวชน และครอบครัว ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดเสวนาวิชาการ ในหัวข้อ “วันเด็ก ... ขอนโยบายดีกว่าคำขวัญ” โดย ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ ผู้อำนวยการศูนย์วิชาการและเครือข่ายวิชาการด้านเด็ก เยาวชน และครอบครัว กล่าวว่า งานวันเด็กของประเทศไทยเกิดขึ้นเป็นเวลา 61 ปี ส่วนใหญ่จะเน้นกิจกรรมการละเล่นที่แต่ละหน่วยงานจัดขึ้น และการให้คำขวัญวันเด็กจากทุกรัฐบาล โดยพบ 6 คำสำคัญที่ถูกใช้ซ้ำ อันดับ 1 วินัยและการเรียน 18 ครั้ง ตามด้วยชาติ 17 ครั้ง คุณธรรม 15 ครั้ง ขยัน 11 ครั้ง ประหยัด สามัคคี ซื่อสัตย์ 9 ครั้ง และประชาธิปไตย 4 ครั้ง ซึ่งล้วนเป็นการสะท้อนถึงสิ่งที่ผู้ใหญ่ในสังคมคาดหวังต่อเด็กมาทุกยุคสมัย ขณะที่ข้อค้นพบที่น่าสนใจกรณีวันเด็กใน 11 ประเทศพบว่า มีการจัดทำนโยบายที่สำคัญด้านเด็ก การเปิดโอกาสให้เด็กได้มีส่วนร่วมในกิจกรรม และการรับฟังเสียงเด็ก โดยประเทศที่เด็กมีส่วนร่วมจัดกิจกรรม เช่น อังกฤษ จัดตั้งกองทุนอิสระ #iwill เพื่อส่งเสริมให้เด็กเยาวชนอายุ 10-20 ปี เป็นนักกิจกรรมเพื่อสังคม  โรมาเนีย เด็กมีส่วนร่วมลดความรุนแรงในโรงเรียนและพัฒนาคู่มือเล่นเกมสำหรับใช้จัดกิจกรรมในสถานศึกษา
 
ประเทศที่มีมาตรการที่ชัดเจนในการแก้ปัญหาเด็กเยาวชน เช่น ฝรั่งเศส เน้นแก้ปัญหาเด็กติดมือถือ โดยออกเป็น “กฎระเบียบ ก.ย. 2018” ห้ามนักเรียนชั้นประถมและมัธยมต้นใช้มือถือในโรงเรียน เพื่อลดปัญหาพฤติกรรมก้าวร้าว สมาธิสั้น ไม่ออกกำลังกาย ไอซ์แลนด์ แก้ปัญหาวัยรุ่นเป็นนักดื่มหนักที่สุดในยุโรป โดยโครงการ Youth in Iceland สามารถทำให้สถิติวัยรุ่นดื่มสุรา บุหรี่ และยาเสพติดลดลงอย่างชัดเจนผ่านการส่งเสริมกิจกรรมสร้างสรรค์ ลัตเวีย พยายามลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาของชาวโรมาชนกลุ่มน้อยผ่านโครงการฝึกครูผู้ช่วยชาวโรมา เพื่อส่งเสริมให้เด็กโรมาเรียนร่วมกับนักเรียนคนอื่น และพัฒนาชาวโรมาให้เป็นครูผู้ช่วยเพื่อดึงเยาวชนเข้าสู่ระบบการศึกษา  สหรัฐอเมริกา เน้นการแก้ปัญหายาเสพติด เพศ และการฆ่าตัวตายในกลุ่มเด็กเยาวชน จึงทำโครงการ Let’s Talk รณรงค์การพูดคุยในครอบครัวเชิงบวก ฟินแลนด์ มีพ.ร.บ.สวัสดิการเด็ก เพื่อปฏิรูปการดูแลเด็กทั่วประเทศ ทั้งสิทธิการมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นของเด็ก เงินสนับสนุนเด็กและครอบครัว และกิจกรรมสร้างสรรค์ ออสเตรเลีย ออกกฎหมายและตั้งคณะกรรมการอิสระ รักษาความปลอดภัยสำหรับเด็กบนโลกออนไลน์ พร้อมกับมีบริการสายด่วนให้คำปรึกษาเด็กเยาวชนเพื่อป้องกันความรุนแรงบนโลกไอที   
 
ประเทศที่รับฟังเสียงเด็ก เช่น สวีเดน มีการสำรวจความคิดเห็นเด็ก 12-16 ปีทั่วประเทศ ในโครงการ Young Voices  เพื่อนำไปสื่อสารกับผู้กำหนดนโยบายจากเสียงของเด็กเยาวชน เยอรมนี ใช้โอกาสวันเด็กรณรงค์เรื่องสิทธิเด็ก เช่นปี 2017 ใช้ชื่อ Give children a voice เพื่อให้เด็กได้มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นต่อสภาในการกำหนดนโยบาย แคนาดา มี “วันพา ส.ส. ไปโรงเรียน” เป็นกิจกรรมประจำวันเด็กแคนาดา โดยส.ส. จะต้องเยี่ยมโรงเรียนในพื้นที่ตนเอง 1 ชั่วโมง เพื่อเปิดโอกาสให้ส.ส.และนักเรียนได้พูดคุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้จักกันและกัน 
 
ศ.ดร.สมพงษ์ กล่าวว่า  สำหรับวันเด็กไทย จากผลสำรวจความคิดเห็นเด็กเยาวชนและประชาชนทั่วไป ในหัวข้อ “วันเด็ก...ขอนโยบายดีกว่าคำขวัญ”  จำนวน 1,503 คน ระหว่างวันที่ 25 ธ.ค.60 – 8 ม.ค. 61 ว่า เมื่อพูดถึงวันเด็กคนส่วนใหญ่นึกถึงของขวัญ เช่น รางวัลและของเล่น ตามด้วยของกิน กิจกรรม ความสุข และคำขวัญ ส่วนคำถามนโยบายสำคัญสำหรับเด็กที่ผ่านมา 3 อันดับแรกคือ การสนับสนุนการศึกษา ตามด้วยไม่ทราบ และการส่งเสริมคุณธรรม ขณะที่คนส่วนใหญ่มองว่านโยบายที่สำคัญสำหรับเด็กในอนาคตคือเรื่องการศึกษา โดยมีผู้ตอบถึง 23% เช่นเดียวกับความคาดหวังต่อรัฐบาลที่อยากให้สนับสนุนยังคงเป็นเรื่องการพัฒนาการศึกษาถึง 33%  ทั้งนี้มุมองของคนในสังคมยังให้ความสำคัญกับเด็ก โดยคนส่วนใหญ่มองว่าวันเด็กของไทยเป็นแสดงถึงความรักเด็ก 71% ส่วนที่มองว่าหลอกเด็ก 28% และไม่ตอบ 1% ส่วนคำถามกิจกรรมวันเด็กส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็ก 75% เห็นด้วย ขณะที่ 25% ไม่แน่ใจและไม่เห็นด้วย นอกจากนี้ 57% มองว่าสังคมไทยเปิดโอกาสและมีช่องทางให้เด็กได้แสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมา อย่างไรก็ตามความคิดเห็นเกี่ยวกับมุมมองประเทศไทยมีระบบการศึกษาและวัฒนธรรมการเรียนรู้ในห้องเรียนที่ตอบโจทย์ศักยภาพเด็ก  45% เห็นด้วย 27% ไม่เห็นด้วย และ 28% ไม่แน่ใจ ส่วนมุมมองกฎหมายไทยช่วยปกป้องคุ้มครองเด็กอย่างเท่าเทียม 48% เห็นด้วย 34% ไม่แน่ใจ และ 18% ไม่เห็นด้วย     
         
ศ.ดร.สมพงษ์ กล่าวว่า ประเทศไทยมีจุดแข็งทั้งกฎหมายคุ้มครองเด็กที่ก้าวหน้าดูแลเด็กทุกช่วงวัย มีกองทุนสำหรับเด็กด้อยโอกาส อย่างไรก็ตามหากดูจากสิทธิเด็กทั้ง 4 ด้าน จะพบว่า 1.สิทธิการมีชีวิตรอด เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีของไทย 10.5% หรือ 3.9 แสนคนมีปัญหาภาวะทุพโภชนาการ 2. สิทธิที่จะได้รับการพัฒนา โดยพบว่า เด็ก 2 ใน 10 ไม่ได้เข้าเรียนในหลักสูตรปฐมวัย ทั้งที่เป็นวัยรากฐานของการพัฒนาสมองและพัฒนาการที่สำคัญ 3. สิทธิที่จะได้รับการคุ้มครอง ซึ่งพบว่าเด็ก 8 ใน 10 คน เคยถูกใช้ความรุนแรงด้านร่างกายและจิตใจจากคนในครอบครัว และเกินครึ่งเคยได้รับการอบรมโดยการทำร้ายร่างกาย และ 4. สิทธิการมีส่วนร่วม โดยมุมมองของเด็กที่มีต่อการมีส่วนร่วมพบว่า วัฒนธรรมห้ามเถียง ไม่เชื่อว่าเด็กทำได้ ดังนั้นจึงไม่อยากให้วันเด็กเป็นเพียงกิจกรรม ทิศทางวันเด็กในปีต่อไปควรปฏิรูปงานวันเด็กให้มีนโยบายและทิศทางสำหรับเด็ก ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเด็กอย่างแท้จริง
 
ขอบคุณข้อมูลจาก ฝ่ายสื่อสารองค์กร สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ

 

คำบรรยายภาพ
คำบรรยายภาพ
คำบรรยายภาพ
คำบรรยายภาพ

"วันเด็ก ... ขอนโยบายดีกว่าคำขวัญ" เปิดวันเด็ก11 ประเทศ เน้นนโยบาย ดึงเด็กมีส่วนร่วมแก้ปัญหาวันเด็ก...ขอนโยบายดีกว่าคำขวัญเปิดวันเด็ก11ประเทศเน้นนโยบายดึงเด็กมีส่วนร่วมแก้ปัญหา

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา และที่แก้ไขเพิ่มเติม

หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา และที่แก้ไขเพิ่มเติม

เปิดอ่าน 1,175 ☕ 23 พ.ย. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู และที่แก้ไขเพิ่มเติม
หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู และที่แก้ไขเพิ่มเติม
เปิดอ่าน 793 ☕ 23 พ.ย. 2567

หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา และที่แก้ไขเพิ่มเติม
หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา และที่แก้ไขเพิ่มเติม
เปิดอ่าน 1,175 ☕ 23 พ.ย. 2567

หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งศึกษานิเทศก์ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งศึกษานิเทศก์ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
เปิดอ่าน 224 ☕ 23 พ.ย. 2567

หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา และที่แก้ไขเพิ่มเติม
หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา และที่แก้ไขเพิ่มเติม
เปิดอ่าน 697 ☕ 23 พ.ย. 2567

นโยบายและจุดเน้นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568-2569
นโยบายและจุดเน้นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568-2569
เปิดอ่าน 3,166 ☕ 22 พ.ย. 2567

ซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ
ซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ
เปิดอ่าน 657 ☕ 22 พ.ย. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เนียนจริง มุขเด็ดสำหรับการหาที่จอดรถ ดูซิ เจ๊แกใช้มุขไหน?
เนียนจริง มุขเด็ดสำหรับการหาที่จอดรถ ดูซิ เจ๊แกใช้มุขไหน?
เปิดอ่าน 14,314 ครั้ง

ไหว้พระเสริมบารมี (แก้ชง) ปีม้า 2557
ไหว้พระเสริมบารมี (แก้ชง) ปีม้า 2557
เปิดอ่าน 13,577 ครั้ง

10 สมุนไพรไทย ประโยชน์เยอะ ช่วยบรรเทา "โรคความดันสูง"
10 สมุนไพรไทย ประโยชน์เยอะ ช่วยบรรเทา "โรคความดันสูง"
เปิดอ่าน 33,238 ครั้ง

แช่น้ำอุ่นก่อนนอนทำให้หลับลึก
แช่น้ำอุ่นก่อนนอนทำให้หลับลึก
เปิดอ่าน 19,250 ครั้ง

เทคนิคการดูแลเส้นผม ช่วงหน้าฝน
เทคนิคการดูแลเส้นผม ช่วงหน้าฝน
เปิดอ่าน 11,948 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ