ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ผลการประชุม ก.ค.ศ. ครั้งที่ 1/2561 เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2561


ข่าวการศึกษา 8 ม.ค. 2561 เวลา 21:00 น. เปิดอ่าน : 58,266 ครั้ง
Advertisement


Advertisement

ผลการประชุม ก.ค.ศ. ครั้งที่ 1/2561 เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2561

เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2561 เว็บไซต์กระทรวงศึกษาธิการ ได้เผยแพร่ข่าวที่ 6/2561 เรื่อง ผลการประชุม ก.ค.ศ. 1/2561 โดยมีเนื้อหาข่าว ดังนี้

นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 1/2561 เมื่อวันจันทร์ที่ 8 มกราคม 2561 ณ ห้องประชุมราชวัลลภ อาคารราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ โดยมีศาสตราจารย์คลินิก นพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมประชุม

 

● เห็นชอบ (ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขันครูผู้ช่วย

นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ เปิดเผยผลการประชุมว่า ที่ประชุมได้พิจารณาหน่วยงานที่จะมาทำหน้าที่จัดสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย ในส่วนของการสอบ ภาค ก (สอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป) และภาค ข (สอบแข่งขันเพื่อวัดความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง)

ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบให้มีหน่วยงานกลางในการจัดสอบรวม เช่นเดียวกับการสอบข้าราชการพลเรือนสามัญ ของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) โดยมอบหมายให้สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทศ. เป็นผู้จัดสอบ แต่ สทศ. แจ้งว่าไม่สามารถดำเนินการจัดสอบได้ทันในช่วงเดือนมีนาคม เพราะมีภาระที่จะต้องจัดสอบต่าง ๆ เช่น การทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ที่ประชุมจึงเห็นว่าควรจะต้องเลื่อนการสอบไปประมาณช่วงเดือนสิงหาคม 2561 แทน เพื่อบรรจุให้ทันในเดือนตุลาคม 2561

ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบด้วยว่า การบรรจุครูผู้ช่วยในช่วงเดือนพฤษภาคมยังไม่เร่งรีบ เพราะยังมีบัญชีเดิมซึ่งยังไม่หมดอายุ สามารถเรียกบรรจุได้ อีกทั้ง สพฐ.ยังมีอัตราเกษียณ และมีความจำเป็นจริง ๆ ในช่วงเดือนตุลาคมมากกว่า ที่ประชุมจึงเห็นว่าเพื่อให้ สทศ. ซึ่งเป็นหน่วยงานกลางที่มีมาตรฐานการจัดสอบ ได้มีเวลาในการจัดทำข้อสอบให้ได้มาตรฐาน จึงให้เลื่อนการสอบแบบใหม่ไปเป็นช่วงเดือนสิงหาคม ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับโรงเรียนเอกชนด้วย เพราะมีเวลาในการสรรหาครูใหม่มาสอนแทนผู้ที่สอบบรรจุติดได้ทัน โดยที่ประชุมมอบให้ นพ.อุดม คชินทร รมช.ศึกษาธิการ (ในฐานะกำกับดูแล สทศ.) ไปหารือในรายละเอียดร่วมกับสำนักงาน ก.ค.ศ. เพื่อได้ข้อสรุปในการจัดสอบร่วมกันต่อไป


(ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตำแหน่งครูผู้ช่วย
ที่ผ่านการเห็นชอบจากที่ประชุม ก.ค.ศ.ในครั้งนี้

การสอบ มีหลักสูตร 3 ภาค คือ

1) สอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) (200 คะแนน)
2) สอบแข่งขันเพื่อวัดความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง (ภาค ข) (150 คะแนน)
3) การประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่ง (ภาค ค) (50 คะแนน)

การสอบ ภาค ก ให้ดำเนินการ ดังนี้

1) คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสอบ ต้องเป็นผู้สำเร็จการศึกษา หรือกำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนสุดท้าย ของหลักสูตรไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการศึกษา หรือทางอื่น ที่ ก.ค.ศ. กำหนดเป็นคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง โดยคุณวุฒิที่นำมาใช้สมัครสอบต้องได้รับรองจาก ก.ค.ศ.
2) ให้ ก.ค.ศ. เป็นผู้กำหนดวัน เวลา และวิธีการในการสอบ
3) ให้ ก.ค.ศ. หรือหน่วยงานที่ ก.ค.ศ. เห็นสมควรเป็นผู้ดำเนินการสอบ โดยให้ ก.ค.ศ. ตั้งคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่รับผิดชอบการสอบได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม
4) รับสมัครไม่น้อยกว่า 15 วัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ โดยให้ยื่นสมัครทางอิเล็กทรอนิกส์ตามแบบที่กำหนด พร้อมด้วยค่าธรรมเนียมการสมัครสอบ ในอัตราครั้งละ 100 บาท กรณีจัดให้มีการสมัครและสอบด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ให้ผู้สมัครสอบเสียค่าธรรมเนียมฯ ในอัตราครั้งละ 300 บาท
5) เกณฑ์การตัดสิน ประกาศรายชื่อผู้สอบผ่านภาค ก เฉพาะผู้ที่ได้คะแนนวิชาความสามารถทั่วไปและวิชาภาษาไทยไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 และได้คะแนนวิชาภาษาอังกฤษไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 และออกหนังสือรับรองผลการสอบผ่าน ภาค ก ให้แก่ผู้สอบผ่าน เพื่อนำไปใช้เป็นหลักฐานประกอบการสอบแข่งขัน
ภาค ข และเพื่อประเมินภาค ค
6) ผู้ได้รับหนังสือรับรองผลการสอบ ภาค ก ของ ก.พ. สามารถนำมาใช้เป็นหลักฐานประกอบการสมัครสอบแข่งขันภาค ข และเพื่อประเมินภาค ค ได้ โดยผู้ได้รับหนังสือรับรองฉบับดังกล่าว ต้องเสนอให้สำนักงาน ก.ค.ศ. รับรอง ก่อนนำไปสอบแข่งขัน พร้อมชำระค่าธรรมเนียมในอัตรา 100 บาท

การสอบแข่งขัน ภาค ข และการประเมินภาค ค ให้ดำเนินการ ดังนี้

1) ให้ส่วนราชการ และ กศจ. หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง แล้วแต่กรณี เป็นผู้ดำเนินการสอบแข่งขัน ภาค ข และประเมินภาค ค
2) คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัครสอบ
- ต้องมีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับผู้ดำรงตำแหน่งครูผู้ช่วย ตามมาตรฐานตำแหน่งที่ ก.ค.ศ. กำหนด
- ต้องมีหนังสือรับรองผลการสอบผ่านภาค ก ของ ก.ค.ศ. หรือของ ก.พ. ที่ ก.ค.ศ. รับรองแล้ว
3) ให้ส่วนราชการกำหนดวัน เวลาและวิธีการในการสอบ และออกข้อสอบภาค ข กำหนด กำหนดวิธีการสอบ ตรวจคำตอบและประมวลผล และกำหนดองค์ประกอบการประเมิน ตัวชี้วัด และสัดส่วนคะแนนการประเมินภาค ค
4) ให้ กศจ. หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง ดำเนินการ ดังนี้
- กำหนดจำนวนตำแหน่งว่าง ตามกลุ่มวิชา หรือทางหรือสาขาวิชาเอก ที่จะใช้สอบภาค ข ตามความต้องการของสถานศึกษา และแจ้งส่วนราชการ
- ดำเนินการสอบแข่งขัน ภาค ข ตามวิธีที่ส่วนราชการกำหนด และประเมินภาค ค โดยวิธีการสัมภาษณ์ หรือวิธีการอื่นที่เหมาะสม
- ตั้งคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่รับผิดชอบการสอบแข่งขันได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม
- รับสมัครไม่น้อยกว่า 7 วัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ และให้ยื่นใบสมัครตามแบบหรือวิธีการที่กำหนด พร้อมค่าธรรมเนียมการสอบ ในอัตราครั้งละ 100 บาท
- กรณีมีการดำเนินการสอบแข่งขัน ภาค ข และประเมินภาค ค พร้อมกัน ให้ผู้สมัครสอบ เลือกสมัครสอบได้เพียงแห่งเดียว หากปรากฏว่าผู้สมัครสอบสมัครเกินกว่าหนึ่งแห่ง จะตัดสิทธิการสอบแข่งขันทั้งหมด
- ตั้งคณะกรรมการประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่ง ภาค ค ตามองค์ประกอบฯ ที่กำหนด จำนวนชุดละ 5 คน
- เกณฑ์การตัดสิน ต้องได้คะแนนแต่ละภาคไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 โดยเรียงลำดับที่จากผู้ที่ได้คะแนนรวมภาค ข และภาค ค จากมากไปหาน้อย
- บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ ให้ใช้ได้ไม่เกิน 2 ปี นับแต่วันที่ประกาศขึ้นบัญชี

ทั้งนี้ สำหรับการสอบภาค ก เห็นควรมอบ สทศ. เป็นผู้ดำเนินการสอบ และในปี พ.ศ.2561 จะเลื่อนการสอบแข่งขันออกไปก่อน คาดว่าน่าจะเริ่มรับสมัครสอบได้ในราวเดือนสิงหาคม 2561 เพื่อให้สามารถบรรจุครูผู้ช่วยได้ในเดือนตุลาคม 2561

 


● อนุมัติกรอบอัตรากำลังขั้นต่ำข้าราชการครูฯ ในศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ สำนักงาน กศน.

ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ เป็นสถานศึกษาที่จัดตั้งขึ้นใหม่ สังกัดสำนักงาน กศน. เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2559 ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพพระรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้จัดตั้งศูนย์ฝึกทักษะและพัฒนางานอาชีพให้แก่ราษฎรในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานีและพื้นที่ใกล้เคียง โดยได้ดำเนินการกิจกรรมนำร่อง ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558-2560 ในการจัดทำหลักสูตรและดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประกอบอาชีพให้กับประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว รวมทั้งพัฒนาต่อยอดหลักสูตร จัดศูนย์การเรียนรู้ จัดฝึกอบรมอาชีพ การให้บริการสอนอาชีพเคลื่อนที่ จัดตั้งศูนย์สาธิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ฯลฯ

โดยมีหลักสูตรอาชีพที่ใช้ในการจัดการเรียนรู้ รวมทั้งสิ้น 258 หลักสูตร ปัจจุบันมีข้าราชการสังกัดสำนักงาน กศน. จังหวัดชัยนาท และจังหวัดอุทัยธานี มาช่วยราชการการคราวละ 1 ปี จำนวน 4 คน

ดังนั้น เพื่อให้ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ มีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาประจำศูนย์และเพียงพอต่อการปฏิบัติงาน สามารถดำเนินการตามพระราชดำริได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่ประชุมจึงอนุมัติกรอบอัตรากำลังขั้นต่ำข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อปฏิบัติงานในศูนย์ฯ รวม 8 ตำแหน่ง คือ

1. ตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา จำนวน 1 ตำแหน่ง
2. ตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา จำนวน 1 ตำแหน่ง
3. ตำแหน่งครู จำนวน 6 ตำแหน่ง

นอกจากนี้ ได้เห็นชอบกำหนดกรอบอัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค.(2) รวม 5 ตำแหน่ง ได้แก่

1. นักจัดการงานทั่วไป ชำนาญการพิเศษ 1 ตำแหน่ง
2. นักจัดการงานทั่วไป ปฏิบัติการ/ชำนาญการ จำนวน 2 ตำแหน่ง
3. เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี ปฏิบัติงาน/ชำนาญงาน 1 ตำแหน่ง
4. เจ้าพนักงานธุรการ ปฏิบัติงาน/ชำนาญงาน จำนวน 1 ตำแหน่ง

ทั้งนี้ การกำหนดตำแหน่งดังกล่าว ไม่มีผลกระทบกับงบประมาณของรัฐ และไม่ขัดหรือแย้งกับมติคณะรัฐมนตรี และมาตรการบริหารและพัฒนากำลังคนภาครัฐ (พ.ศ. 2557-2561)

 

ดรุวรรณ บุญมาก, บัลลังก์ โรหิตเสถียร: สรุป/เรียบเรียง
Digital PR Team สป.-สร./ ถ่ายภาพ
8/1/2561

 

ขอบคุณที่มาและอ่านเพิ่มเติมได้จาก เว็บไซต์กระทรวงศึกษาธิการ วันที่ 8 มกราคม 2561

 

🖼สำหรับคุณครูไว้ใส่เกียรติบัตรสวยและถูก🖼 กรอบป้ายอะคริลิคตั้งโต๊ะ A4 แนวนอน 30x21.5 cm อะคริลิคใส 1 หน้า ทรง L (A4L1P) ในราคา ฿129 คลิกเลย👇👇

https://s.shopee.co.th/1qLFIZVf4t?share_channel_code=6


ผลการประชุม ก.ค.ศ. ครั้งที่ 1/2561 เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2561ผลการประชุมก.ค.ศ.ครั้งที่12561เมื่อวันที่8มกราคม2561

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

การกำหนดตำแหน่งและอัตราเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา ที่ว่างจากผลการเกษียณอายุราชการ เมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2567

การกำหนดตำแหน่งและอัตราเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา ที่ว่างจากผลการเกษียณอายุราชการ เมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2567

เปิดอ่าน 2,324 ☕ 11 ธ.ค. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ผลการคัดเลือกโรงเรียนวิถีพุทธชั้นนำ รุ่นที่ 15
ผลการคัดเลือกโรงเรียนวิถีพุทธชั้นนำ รุ่นที่ 15
เปิดอ่าน 390 ☕ 22 ธ.ค. 2567

สพฐ.สำรวจความต้องการขอรับจัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา ตำแหน่งครูผู้สอนเพิ่มเติม
สพฐ.สำรวจความต้องการขอรับจัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา ตำแหน่งครูผู้สอนเพิ่มเติม
เปิดอ่าน 349 ☕ 22 ธ.ค. 2567

เกียรติบัตรสำหรับสถานศึกษาที่เข้าร่วมการประกวดคลิปวีดิทัศน์ "Meditation Clip Contest"
เกียรติบัตรสำหรับสถานศึกษาที่เข้าร่วมการประกวดคลิปวีดิทัศน์ "Meditation Clip Contest"
เปิดอ่าน 522 ☕ 20 ธ.ค. 2567

ชื่อเต็ม ชื่อย่อ ของหน่วยงานและผู้บริหารระดับสูง ในสังกัด สพฐ.
ชื่อเต็ม ชื่อย่อ ของหน่วยงานและผู้บริหารระดับสูง ในสังกัด สพฐ.
เปิดอ่าน 857 ☕ 19 ธ.ค. 2567

ประกาศรายชื่อผู้ได้รับรางวัล "ครูดีในดวงใจ" ครั้งที่ 22 ประจำปี พ.ศ. 2568
ประกาศรายชื่อผู้ได้รับรางวัล "ครูดีในดวงใจ" ครั้งที่ 22 ประจำปี พ.ศ. 2568
เปิดอ่าน 1,900 ☕ 19 ธ.ค. 2567

ศธ. เปิดตัวระบบTRS ย้ายครูออนไลน์ทุกกรณี แก้ปัญหาทุจริตโยกย้ายไม่เป็นธรรม
ศธ. เปิดตัวระบบTRS ย้ายครูออนไลน์ทุกกรณี แก้ปัญหาทุจริตโยกย้ายไม่เป็นธรรม
เปิดอ่าน 768 ☕ 17 ธ.ค. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก / Mark Elliot Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง facebook
มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก / Mark Elliot Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง facebook
เปิดอ่าน 23,527 ครั้ง

รูปแบบการบริหารจัดการศึกษา 4.0 ที่มีประสิทธิผลต่อการเป็นองค์กรคุณภาพของสถานศึกษาเข้มแข็ง
รูปแบบการบริหารจัดการศึกษา 4.0 ที่มีประสิทธิผลต่อการเป็นองค์กรคุณภาพของสถานศึกษาเข้มแข็ง
เปิดอ่าน 26,084 ครั้ง

จดหมายฉบับที่ 45 ถึงนายกรัฐมนตรี+รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
จดหมายฉบับที่ 45 ถึงนายกรัฐมนตรี+รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
เปิดอ่าน 8,985 ครั้ง

ทายนิสัยจากคำนาม ที่คุณเรียกแทนชื่อตัวเอง
ทายนิสัยจากคำนาม ที่คุณเรียกแทนชื่อตัวเอง
เปิดอ่าน 11,845 ครั้ง

สอนอย่างไรให้เด็กคิดเขียน
สอนอย่างไรให้เด็กคิดเขียน
เปิดอ่าน 13,057 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ