กลุ่มเครือข่ายพิทักษ์กองทุน ช.พ.ค.แห่งประเทศไทย ยื่นข้อเสนอให้ใช้ข้อตกลงความร่วมมือระหว่างธนาคารออมสิน-สกสค.ฉบับเดิม ด้าน รมว.ศึกษาธิการ แจง บันทึกความร่วมมือระหว่างออมสิน-สกสค. ฉบับเดิมทำครูเบี้ยวหนี้จำนวนมาก
วันนี้ (7 ธ.ค.) ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มเครือข่ายพิทักษ์กองทุน ช.พ.ค.แห่งประเทศไทย ประมาณ 10 คน ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึง นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ ขอให้มีการพิจารณาการทำข้อตกลงความร่วมมือระหว่างสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) กับ ธนาคารออมสิน ที่กำลังดำเนินการร่างความร่วมมือฉบับใหม่ เนื่องจากกลุ่มเครือข่ายกองทุน ช.พ.ค.มีความต้องการให้ใช้ข้อตกลงความร่วมมือเดิม ที่ได้มีการทำไว้แล้ว 5 ฉบับ เพราะสมาชิกครูจะได้รับสิทธิประโยชน์มากกว่า โดยนพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวขณะนี้ทางสกสค.กำลังดำเนินการยกร่างข้อตกลงใหม่กับทางธนาคารออมสิน เนื่องจากข้อตกลงเดิมทำให้เกิดปัญหา เพราะถ้ามีการเรียกเงินคืนมาจากธนาคาร ผู้ที่ได้เงินก็จะไม่ใช่ครู แต่เป็นสกสค. ดังนั้นที่ผ่านมาเงินในบัญชีเงินกองทุนสนับสนุนพิเศษเงินกู้ ช.พ.ค.ที่ธนาคารออมสินหักไปนั้น ผู้ที่ได้ประโยชน์ก็คือครูที่ขาดการชำระหนี้ติดต่อกัน 3 งวด ทำครูที่มีวินัยการผ่อนชำระหนี้ที่ดีเสียประโยชน์ และทำให้ไม่อยากชำระหนี้ ซึ่งหากเป็นใช้ข้อตกลงแบบเดิมจะทำให้มีการเบี้ยวการชำระหนี้เพิ่มมากขึ้น ครูดีๆ ก็จะแย่ ดังนั้นถ้าไม่อยากให้เกิดปัญหาและเป็นการช่วยเหลือเพื่อนครูอย่างแท้จริงก็ต้องไม่ใช้ข้อตกลงฉบับเก่า ทั้งนี้ยืนยันว่าข้อตกลงฉบับใหม่จะดำเนินการเสร็จสิ้นภายในเดือน ธ.ค.นี้
นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ ปฎิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ว่า เรื่องนี้ยืนยันว่าข้อตกลงเดิม เพื่อดำเนินโครงการสวัสดิการเงินกู้แก่สมาชิก ช.พ.ค.เริ่มตั้งแต่โครงการที่ 2 ถึง โครงการที่ 7 โดยในบันทึกข้อตกลงระหว่างสำนักงาน สกสค.กับ ธนาคารออมสินข้อหนึ่ง กำหนดว่า ธนาคารออมสินจะจ่ายเงินสนับสนุนให้แก่สำนักงาน สกสค.เพื่อใช้ในการพัฒนาสมาชิกและกิจการ ช.พ.ค.ในอัตราและระยะเวลาที่กำหนด และผู้บริหารของสำนักงานสกสค.ที่ผ่านมาได้ทำหนังสือยินยอมให้ธนาคารออมสินหักเงินสนับสนุนที่ได้รับจากธนาคารไปชำระหนี้เงินกู้ที่ผิดนัดชำระ และได้มีการดำเนินการหักเงินสนับสนุนดังกล่าวไปแล้ว จำนวน 11,000 ล้านบาท ต่อมาสำนักงาน สกสค.ได้ทำหนังสือถึงธนาคารออมสิน เพื่อยกเลิกบันทึกข้อตกลงที่ผ่านมา และในขณะนี้กำลังจัดทำบันทึกข้อตกลงใหม่ เนื่องจากบันทึกข้อตกลงและหนังสือยินยอมเดิมที่ได้ทำไว้กับธนาคาร ธนาคารจะหักเงินสนับสนุนฯไปชำระหนี้แทนผู้กู้ที่ผิดนัดชำระแต่ผู้กู้ที่ไม่ได้นัดผิดชำระ และมีวินัยทางการเงินที่ดีไม่ได้รับการเหลียวแล ดังนั้นในการทำบันทึกข้อตกลงใหม่ รมว.ศธ.จึงได้มอบแนวทางในการจัดทำว่า เงินที่เคยสนับสนุนฯให้แก่สำนักงาน สกสค.ทาง สำนักงาน สกสค.จะไม่ขอรับแต่ขอให้ธนาคารออมสินนำเงินที่จะสนับสนุนดังกล่าวไปจ่ายคืน หรือ ลดดอกเบี้ยให้แก่ครูผู้กู้ที่มีวินัยทางการเงินที่ดีด้วย
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก เดลินิวส์ วันพฤหัสบดีที่ 7 ธันวาคม 2560 เวลา 16.40 น.