“หมอธี” เผย นายกรัฐมนตรี สั่งทำโรงเรียนนิติบุคคลในโรงเรียนที่ไม่พร้อม เพื่อทำให้โรงเรียนเหล่านี้จัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพให้ได้
วันนี้ (28 พ.ย.) นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการเยี่ยมโรงเรียน มอ.วิทยานุสรณ์ ว่า คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฎิรูปการศึกษา มองว่า ประเทศไทยมีปัญหาอยู่ 2 เรื่อง คือ ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา และ คุณภาพ แต่ตนมองว่าปัญหามีแค่เรื่องของคุณภาพเท่านั้น ส่วนความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาเป็นแค่สาเหตุ หากสามารถแก้ไขเหตุได้ผลก็จะดีเอง ซึ่งโรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนรางวัลพระราชทานและเป็นโรงเรียนที่จัดการเรียนการสอนระดับแนวหน้าของโลก โดยเป็นโรงเรียนเอกชนที่มีการใช้นวัตกรรมและมุ่งเน้นการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ โดยการนำรูปแบบสะเต็มศึกษามาใช้ในการจัดการเรียนการสอนด้วย ดังนั้นตนขอให้โรงเรียนมอ.วิทยานุสรณ์ ได้เป็นสถานศึกษาหลักที่จะช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนในกลุ่มจังหวัดสงขลา เนื่องจากโรงเรียนแห่งนี้มีการบริหารงานในรูปแบบนิติบุคคล ซึ่งขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กำลังจะดำเนินโครงการจัดการศึกษาในรูปแบบโรงเรียนนิติบุคคล หรือ public school ที่ให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมบริหารจัดการ อีกทั้งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังได้เน้นย้ำว่าการทำโครงการโรงเรียนนิติบุคคล ต้องไม่ทำในโรงเรียนที่มีความพร้อม เนื่องจากมีผลลัพธ์ที่ดีอยู่แล้ว แต่ควรให้เริ่มจากโรงเรียนที่ไม่พร้อม และทำให้โรงเรียนเหล่านั้นมีความพร้อมจัดการศึกษาที่มีคุณภาพให้ได้ อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการอิสระฯก็มีข้อเสนอในการดำเนินการโรงเรียนนิติบุคคล ซึ่งตนได้แจ้งศ.นพ.จรัส สุวรรณเวลา ประธานกรรมการอิสระฯแล้วว่าให้ยึดตามแนวทางที่นายกฯ สั่งการ
“นายกรัฐมนตรียังได้พูดในเวทีการประชุมผู้เขตเศรษฐกิจเอเปค ที่ประเทศเวียดนาม ว่า การเรียนการสอนสะเต็มศึกษาจะพัฒนาประเทศไทยไปสู่ 4.0 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นโรงเรียนทุกแห่งจะต้องนำรูปแบบสะเต็มศึกษามาใช้แย่างจริงจังให้มากขึ้นด้วย เพราะโรงเรียนแห่งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่นำสะเต็มศึกษามาใช้แล้วเห็นผลสำเร็จคือคะแนนผลทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) ทุกกลุ่มสาระสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ นอกจากนี้นายกฯยังได้เน้นย้ำให้ ศธ.เร่งการพัฒนาครูและผู้เรียนมากกว่าการปรับโครงสร้างของกระทรวง โดยเฉพาะการนำเด็กอ่อนได้มาเรียนกับครูที่เก่งๆ ทั้งนี้ได้มอบให้สภาการศึกษา (สกศ.) และ ปลัด ศธ.ไปดูเรื่องการพัฒนาครูให้มากขึ้น” รมว.ศธ. กล่าว
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันอังคารที่ 28 พฤศจิกายน 2560 เวลา 09.07 น.