คณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ เสนอ 6 ประเด็นใช้ขับเคลื่อนปฎิรูปการศึกษา
วันนี้ (21 พ.ย.) ศ.นพ.จรัส สุวรรณเวลา ประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการอิสระฯว่า คณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ที่มี ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร เป็นประธานได้มานำเสนอยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ใน 6 ประเด็นคือ 1.การเปลี่ยนแปลงค่านิยมและวัฒนธรรม ซึ่งตรงกับการปฏิรูปการศึกษาที่ต้องให้เกิดคุณธรรม จริยธรรม 2.การพัฒนาศักยภาพตลอดชีวิต ที่ตรงกับการปฏิรูปการศึกษาตลอดชีวิต 3.ปฏิรูปการเรียนรู้แบบพลิกโฉม ซึ่งตรงกับการจัดการเรียนการสอนที่จะเป็นหลักของการปฏิรูปการศึกษา ซึ่งคณะอนุกรรมการด้านการจัดการเรียนการสอนได้เสนอถึงการปรับรูปแบบโดยดึงดิจิทัลมาใช้ในการเรียนการสอน การพัฒนาครู และการสอบ เพื่อพลิกโฉมการเรียนการสอน 4.การพัฒนาและรักษากลุ่มผู้มีความสามารถพิเศษ ที่จะนำไปสู่ความเป็นเลิศสามารถที่จะแข่งขันได้ ซึ่งตรงกับการปฏิรูปการศึกษาที่จะผลักดันโรงเรียนนิติบุคคลเพื่อความเป็นเลิศ ไม่ใช่แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำเท่านั้น
ศ.นพ.จรัส กล่าวต่อไปว่า ยุทธศาสตร์ที่ 5.การเสริมกลไกให้มีสุขภาวะดี ทั้งทางกาย จิตใจและปัญญา ซึ่งก็เป็นเรื่องของการศึกษาที่จะเข้าไปรองรับยุทธศาสตร์ดังกล่าว และ6.การสร้างความอยู่ดีมีสุขของครอบครัวไทย ซึ่งการศึกษาก็จะต้องเตรียมคนให้พร้อม คิดว่าน่าจะมีการประสานความร่วมมือมากขึ้น และหวังว่าจะมียุทธศาสตร์ที่จะมาช่วยให้การปฏิรูปการศึกษามีความหมายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะบทบาทของรัฐและเอกชนในการจัดการศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ อย่างไรก็ตามค่อนข้างชัดว่าคณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯมองจากข้างบนในสิ่งที่อยากได้ ขณะที่บอร์ดอิสระฯเสนอสิ่งที่จะปฏิรูปจากพื้นดินขึ้นไป อย่างไรก็ตามทั้งสองส่วนจะต้องไปเจอกันตรงกลาง ซึ่งตนมองว่าจะเป็นคานงัดให้การปฏิรูปการศึกษาสามารถที่จะลงรายละเอียด และทำให้การปฎิรูปเกิดขึ้นจริงๆไม่ใช่แค่ในกระดาษ
ด้านดร.กฤษณพงศ์ กล่าวว่า การปฏิรูปประเทศ 13 ด้านและยุทธศาสตร์ 6 ด้าน มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์กับการปฏิรูปการศึกษา ซึ่งมีทั้งการศึกษา บทบาทครอบครัว กีฬา วัฒนธรรม และศีลธรรม ซึ่งยุทธศาสตร์ชาติมีกรอบชัดเจนที่จะใช้ร่างยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีเป็นตัวตั้ง และทบทวนสถานการณ์ว่ามีอะไรจะปรับปรุงเพิ่มเติม หลังจากมียุทธศาสตร์ชาติแล้วจะต้องจัดทำแผนแม่บทที่รัฐบาลต่อไปต้องปฏิบัติตามพร้อมทั้งมีกลไกกำกับดูแล.
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันอังคารที่ 21 พฤศจิกายน 2560